ในอดีตเมื่อพูดถึงการแพทย์ หลายคนคงนึกถึงโรงพยาบาลที่เต็มไปด้วยแพทย์และพยาบาลที่คอยช่วยเหลือดูแลคนไข้ แต่ในอนาคตด้วยหลากหลายนวัตกรรมล้ำสมัยที่ถูกคิดค้นขึ้น คนไข้อาจจะไม่จำเป็นต้องเดินทางไปพบหมอในทุกกรณีแล้ว หรือไม่จำเป็นต้องรอผลการรักษาเป็นเวลานาน ด้วยนวัตกรรมทางการแพทย์ที่รู้จักกันในนามของ ดิจิทัล เฮลท์ (Digital Health)
เป็นนวัตกรรมสมัยใหม่ที่ผนวกเอาเทคโนโลยีที่ทันสมัยและศาสตร์ความเชี่ยวชาญทางการแพทย์มาไว้ด้วยกัน ช่วยให้แพทย์สามารถตรวจวินิจฉัย ดูแล รวมถึงรักษาคนไข้ได้รวดเร็วแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้งบางนวัตกรรมยังช่วยให้แพทย์สามารถสื่อสาร และเฝ้าระวังอาการของคนได้จากระยะไกลแบบ “ไร้สัมผัส” ได้อีกด้วย ซึ่งในช่วงวิกฤตโควิด-19 เหล่านวัตกรรมดิจิทัลเฮลท์ต่าง ๆ ก็ได้ถูกนำมาใช้ในการดูแลช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 และในขณะเดียวกันช่วยลดความเสี่ยง พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเหล่าแพทย์และพยาบาลในการปฏิบัติหน้าที่ ผ่าน 3 ต้นแบบนวัตกรรมฝีมือนักวิจัยไทยที่พร้อมเป็นต้นแบบแก่หน่วยงานต่าง ๆ ในการต่อยอดหรือยกระดับประสิทธิภาพ สู่การรักษาทางการแพทย์ยุคใหม่ในอนาคต
Cloud Design วัดสัญญาณชีพ ครั้งแรกของไทย ตรวจวัดสัญญาณชีพและติดตามอาการผู้ป่วยได้แบบใกล้ชิดโดยไร้การสัมผัสผ่านการสวมอุปกรณ์ปลอกแขน เพื่อทำหน้าที่ตรวจสัญญาณชีพและแสดงผล 6 ค่าสำคัญของผู้ป่วย ประกอบด้วย คลื่นไฟฟ้าหัวใจ อัตราการหายใจ อัตราการเต้นของหัวใจ ค่าออกซิเจนในเลือด อุณหภูมิ และค่าความดันโลหิต โดยที่ระบบเอไอ จะทำหน้าที่แสดงผลแบบเรียลไทม์ (Real Time) ไปยังมอนิเตอร์ส่วนกลาง เพื่อให้ทีมแพทย์สามารถวิเคราะห์ผล และแนวทางการรักษาได้ทันท่วงที ผ่านการสวมปลอกแขนให้ผู้ป่วยตั้งแต่ครั้งแรก ทั้งนี้ เอไอดังกล่าว ได้นำร่องทดสอบประสิทธิภาพเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ณ โรงพยาบาลสนาม อาคารนิมิบุตร
เป็นผลงานวิจัยและพัฒนาโดย ดร.วิบูลย์ ปิยวัฒนเมธา อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมชีวการแพทย์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ สจล.