ท่านเคยไหมที่กำลังนอนอย่างสบายอารมณ์อยู่แล้วเกิดรู้สึกว่าขยับตัวไม่ได้ ทำได้เพียงกรอกลูกตาไปมาอยู่บนเตียง หลายท่านอาจจะเรียกอาการเหล่านี้ว่าเป็นอาการ “ผีอำ” ซึ่งในทางไสยศาสตร์เชื่อว่าเป็นการที่เกิดจากวิญญาณมาหลอกหลอน หรืออาจมีพลังงานบางอย่างเป็นแขกที่ไม่ได้รับเชิญอยู่ในห้องของคุณ แต่รู้หรือไม่ว่าอาการผีอำสามารถอธิบายตามหลักวิทยาศาสตร์ได้แล้ว
ผู้ที่ตกอยู่ในอาการ “ผีอำ” จะรู้สึกเหมือนร่างกายเป็นอัมพาตทั้งตัวแบบเฉียบพลัน รู้สึกหมดแรง ไม่สามารถขยับแขนขาได้ พูดไม่ได้ รวมไปถึงมีอาการหายใจลำบาก รู้สึกเหมือนมีคนมาทับ ซึ่งมักจะเป็นในสภาพครึ่งหลับครึ่งตื่น บางคนอาจฝันร้าย เห็นภาพหลอน ได้ยินเสียงปริศนา โดยอาการเหล่านี้จะมาแบบชั่วครั้งชั่วคราว แต่ละครั้งที่เป็นจะกินเวลาไม่นาน
เมื่อตื่นขึ้นจากอาการผีอำได้จะเกิดอาการตื่นกลัวจนตัวสั่น เหงื่อออกมาก รู้สึกไม่ปลอดภัย เพราะรู้สึกเหมือนตัวเองเพิ่งฟื้นจากความตาย แม้อาการผีอำจะเป็นความเชื่อทางไสยศาสตร์ แต่ในหลักวิทยาศาสตร์สามารถอธิบายอาการนี้ได้ว่าเป็น ภาวะที่ร่างกายเข้าสู่ห้วงการหลับทั้ง ๆ ที่ยังตื่นอยู่ หรือโรคลมหลับ กล่าวคือร่างกายจะเข้าสู่สภาวะการหลับ แต่จิตสำนึกยังคงตื่นอยู่ ทำให้รู้สึกขยับตัวไม่ได้เหมือนคนเป็นอัมพาตนั่นเอง
ลักษณะของการนอนหลับจะแบ่งได้เป็น 2 ลักษณะ ดังนี้
การนอนหลับจะวนเวียนอยู่ในสองลักษณะนี้เป็นวัฏจักรไปมา ซึ่งปกติแล้วเราจะไม่สามารถแยกความฝันกับความจริงออกจากกันได้ นั่นจึงทำให้เกิดจินตนาการซ้อนกับความจริง เมื่อเกิดอาการผีอำขึ้น คนจึงจินตนาการเป็นภาพลวงตาของภูติผีปีศาจทั้ง ๆ ที่หาได้มีวิญญาณมาหลอกหลอนตนเองจริง ๆ ไม่
ถึงแม้ว่าจะเรียกว่า “ผีอำ” นั่นไม่ได้หมายความว่าอาการนี้จะเกิดจากการถูกผีอำจริง ๆ โดยอาการดังกล่าวเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายหรือจิตใจ และสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน โดยมีสาเหตุของการเกิดอาการผีอำมักเกิดจากปัญหาเกี่ยวกับการนอน เช่น นอนน้อย นอนไม่หลับ เวลานอนที่เปลี่ยนแปลงไป ท่านอนหงายหรือเป็นโรคลมหลับ เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถเกิดได้จากอาการตะคริวในเวลานอน มีภาวะทางจิต เช่น มีอาการเครียด และเกิดจากการใช้ยาบางชนิดหรือสารเสพติด อาการและสาเหตุที่กล่าวมาทำให้เกิดอาการผีอำได้ทั้งสิ้น
เกิดอาการผีอำแล้วควรทำเช่นไร
เมื่อมีอาการไม่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาเนื่องจากสามารถค่อย ๆ หายไปเองได้แต่ถ้าหากเป็นบ่อยหรือมีปัญหาด้านการนอนอื่น ๆ ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอนโดยต้องนอนให้ครบ 6-8 ชั่วโมง ปรับสถานที่ในการนอนให้สงบและเหมาะกับการนอนเพื่อให้การนอนสบายและลดอาการผิดปกติระหว่างการนอนหลับ ไม่ควรใช้ยานอนหลับมากเกินไปเพราะอาจเกิดผลข้างเคียง แต่ถ้าหากอาการยังไม่ดีขึ้นหรือมีอาการผีอำเป็นประจำควรเข้าพบแพทย์เพื่อรับคำแนะนำหรือรับการรักษาโรคที่เกี่ยวข้องต่อไป
การป้องกันอาการผีอำสามารถทำได้ด้วยการสร้างหรือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอนให้ดีไม่ว่าจะเป็นการนอนหลับให้เพียงพอ นอนตรงเวลา ไม่ดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่ก่อนนอน หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน หากมีอาการเหนื่อยให้รีบเข้านอน ผ่อนคลายตนเองก่อนเข้านอน เช่น ฟังเพลง อ่านหนังสือ เปลี่ยนท่านอนให้นอนตะแคงหรือนอนคว่ำแทนการนอนหงาย ออกกำลังเป็นประจำแต่ไม่ควรออกกำลังกายก่อนนอน รวมไปถึงการจัดห้องให้มีอากาศถ่ายเทได้สะดวกและใช้ที่ปิดตา หรือผ้าม่านทึบเพื่อป้องกันแสงสว่างจากภายนอกรบกวนเวลานอน
อาการผีอำเป็นอาการที่ดูไม่รุนแรงแต่เราไม่ควรมองข้ามเนื่องจากมันเป็นสัญญาณบ่งบอกเราทางอ้อมว่าร่างกายของเราต้องการการพักผ่อนที่ดีกว่าเดิม ดังนั้นเมื่อเรามีอาการผีอำจึงควรปรับพฤติกรรมการนอนถือเป็นทางออกที่ดีที่สุดนอกเหนือจากการเข้าพบแพทย์
_________________________
อ่านบทความที่น่าสนใจอื่น ๆ ได้ที่
https://www.petcharavejhospital.com/th/Article/index
ข่าวสารรวดเร็วทันใจ