Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

7 ข้อคิดเสริม"ชีวิตรุ่ง"จากเวที “เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ”

Posted By Plook Creator | 10 ม.ค. 63
5,112 Views

  Favorite

7 ข้อคิดเสริม"ชีวิตรุ่ง"จากเวที “เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ”

 

ยืนหยัดตามปณิธานองค์กร “ร่วมสร้างสรรค์และแบ่งปันโอกาสให้ทุกคน” บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้ก่อตั้งร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ในประเทศไทย ได้จัดโครงการ “เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ” ต่อเนื่องกันมาเป็นปีที่ 24 โดยได้นิมนต์พระนักเทศน์ชื่อดังมาแสดงธรรมบรรยาย ตลอดจนคฤหัสถ์ที่มีชื่อเสียงมาร่วมแบ่งปันแนวคิดในการดำเนินชีวิต เป็นประจำทุกวันศุกร์ ที่อาคาร ซี.พี. ทาวเวอร์ ถนนสีลม ชั้น 11 ตั้งแต่เวลา 12.00-13.30 น. โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และในโอกาสขึ้นปีใหม่ 2563 นี้ จึงได้รวบรวมเอาข้อคิดดีๆ ในปีที่ผ่านมา ส่งมอบเป็นของขวัญเพื่อให้ทุกคนได้มีความสุขที่กายสบายที่ใจตลอดปีและตลอดไป  
 


๑. ความไม่ประมาทเป็นหนทางสู่อมตะ

“รักษาตัวกลัวกรรมอย่าทำชั่ว จะหมองมัวหม่นไหม้ไปเมืองผี
จงเริ่มทำแต่กรรมที่ดีๆ จะได้มีความสุขพ้นทุกข์ภัย”

ความไม่ประมาทเป็นทางไม่เสื่อม เป็นทางไม่ตาย และเป็นไปเพื่อจิตใจที่มีความว่าง  เพื่อจิตใจที่มีกำลังจะออกจากสิ่งที่ไม่ดี และสามารถจะดับไฟในใจได้ เพื่อหยุดพฤติกรรมที่ไม่ดีที่เป็นนิสัยเคยชินได้ทั้งหมด คนที่มีความไม่ประมาทเป็นนิสัยจะสามารถแก้ปัญหาให้ชีวิตพ้นภัยได้ ซึ่งจะทำให้เข้าสู่ความเป็นอมตะแห่งชีวิตได้นั่นเอง


พระเทพปฏิภาณกวี
ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร กรุงเทพมหานคร

****************************************

 

 

๒. ทำบุญอย่างง่ายทำได้ที่ใจ

การทำบุญให้ได้บุญนั้น ไม่จำเป็นต้องทำบุญด้วยทรัพย์เท่านั้น การร่วมลงแรง หรือร่วมอนุโมทนายินดีในบุญที่ผู้อื่นกระทำก็ล้วนแต่ก่อให้เกิดกุศลต่อตัวเราทั้งสิ้น
         

“ทำบุญที่ใจ คือ การทำใจให้มีความสุข ทำใจให้ผ่องใส ไม่ให้มัวหมอง ในสัปปุริสทาน 8 หมายถึงทานของสัตบุรุษ หรือการให้อย่างสัตบุรุษ ก็มีระบุไว้ชัดเจนว่า เมื่อให้แล้วทำจิตผ่องใส ให้แล้วเบิกบานใจ”


พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล
เจ้าอาวาสวัดป่าสุคะโต จ.ชัยภูมิ

****************************************

 

 

๓. สมบัติ 6 กอง ความจริงของชีวิต

“เราเกิดจากกองดิน หากินบนกองงาน สุขสำราญบนกองเงิน กำลังเดินไปกองฟอน ขึ้นไปนอนบนกองไฟ สุดท้ายเหลือแต่กองกระดูก”
 

สมบัติ 6 กองทั้งหลายเหล่านี้ คือความจริงที่ก่อให้เป็นชีวิต เมื่อชีวิตเป็นเรื่องธรรมดา สุข-ทุกข์ ก็เป็นเรื่องธรรมดา ความสุขที่เข้ามาอาจจะอยู่กับเราไม่นาน ดังนั้นความทุกข์ก็เช่นกัน
           

พระครูปลัดสุวัฒนวชิรคุณ
ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดยานนาวา กรุงเทพมหานคร

****************************************

 

 

๔. วางให้เป็นก็เย็นใจ

“นี่ก็ของกู โน่นก็ของกู ยึดมากเลยทุกข์มาก” การวางไม่เป็น ใจก็เป็นทุกข์ ยึดอะไรไว้ก็ทุกข์กับเรื่องนั้น กำมือไว้นานๆ แม้ในฝ่ามือไม่มีอะไรแต่นานไปก็เมื่อย เลื่อนเป็นความทุกข์ ถืออะไรไว้นานๆ ไม่ได้วาง แม้จะเบาแต่ถือนานเข้าก็หนัก ยึดนานๆ วางไม่เป็น ก็เย็นไม่ได้ ธรรมชาติของจิตใจก็เป็นอยู่อย่างนี้

“เหนื่อยก็พัก หนักก็วาง”

 

พระมหาทวีป กตปุญโญ
เจ้าอาวาสวัดแทนวันดีจิตเจริญสุข กรุงเทพมหานคร

****************************************

 

 

๕. เพิ่มมูลค่าชีวิตด้วยการคิดแบ่งปัน

การทำบุญก็เหมือนหลักเศรษฐศาสตร์ ตามกฎ 20/80 บุญส่วนที่เราทำ 80 ให้ผล 20 และส่วนที่เราทำ 20 ให้ผล 80 นั้นเกิดจากอานิสงส์ ชีวิตจะเปลี่ยนถ้าหวังประโยชน์สุขของคนอื่นเป็นที่ตั้ง เมื่อทุกคนมีเมตตาต่อกัน ต่างคิดจะให้ซึ่งกันและกัน ทุกคนก็จะมีความสุข ชีวิตจะมีคุณค่า โลกจะน่าอยู่ขึ้น เริ่มต้นที่ครอบครัว ที่ทำงาน 

 

พระพรหมบัณฑิต
เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร กรุงเทพมหานคร

****************************************

 

 

๖. อยากไม่หยุดก็ทุกข์ไม่จบไม่สิ้น
 

ความสุขไม่ได้หายไป แต่ที่ใจเราทุกข์ เพราะเรายึดไม่รู้จักวาง

“สมัยเรียนได้ค่าขนมเดือนละ 3 พันบาทก็อยู่ได้ ชอบเดือนกุมภาพันธ์ที่สุดเพราะมี 29 วัน แต่ถ้าเดือนไหนมี 31 วันก็มีปาดเหงื่อ คิดว่าถ้าทำงานได้สัก 6 พันก็สบายแล้ว ได้เงินเดือนแรกเริ่มได้ 7 พันกว่าบาท รู้สึกมีความสุขสุดๆ แต่ความสุขนั้นอยู่ได้แค่ 4 เดือน พอได้ 7 พันก็อยากจะได้หมื่น พอได้หมื่นก็อยากได้หมื่นห้า อย่างนี้ไปเรื่อยๆ ขนาดตอนเงินเดือนเป็นแสนก็ยังไม่สุขเลย เพราะมัวแต่ไปคิดว่าเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันไปถึงไหนต่อไหนแล้ว”
 

คุณพิทยากร ลีลาภัทร 
เจ้าของเพจ “ธนาคารความสุข” (Happiness Bank) 

****************************************

 

 

๗. ศรัทธา-ปัญญา ต้องมาคู่กัน

คนเราต้องมี “ศรัทธา” กับ “ปัญญา” ให้เสมอกันเพราะ “ศรัทธา” จะช่วยให้ในวันที่เรายังหาคำตอบด้วยปัญญาไม่ได้ เรายังไม่ล้มเลิกในการทดลอง ถ้ายังมีศรัทธาอยู่จะทำให้เรายังคงปฏิบัติไปเรื่อยๆ แต่ถ้าศรัทธามากเกินก็จะกลายเป็นคนงมงายจนไม่สนเหตุผลอะไร และเมื่อเกิดเป็นปัญญา สามารถเข้าใจเหตุและผล เข้าใจทุกข์ ที่มาของทุกข์ และทางดับทุกข์ได้แล้ว ก็ไม่ต้องไปออกแรงเรียกร้องให้ใครปฏิบัติตาม เพราะเสียงเรียกที่เปล่งออกไปแล้วดัง และทรงพลังที่สุดไม่ใช่คำพูด แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เห็นจากการกระทำ

นที เอกวิจิตร (อุ๋ย)
นักร้องนำวงบุดดาเบลส

****************************************

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Plook Creator
  • 15 Followers
  • Follow