ในวัยเด็กนั้นพื้นฐานทางอารมณ์จะยังไม่ซับซ้อน และยังไม่รู้จักการควบคุมอารมณ์ของตนเอง ยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง และเชื่อว่าความต้องการของตนเองสำคัญที่สุด ดังนั้นเด็กจึงมักแสดงพฤติกรรมแบบตรงไปตรงมา ชอบก็หัวเราะเสียงดัง ไม่ชอบก็ร้องไห้โวยวาย ดังนั้นสิ่งสำคัญก็คือ พ่อแม่ควรที่จะเรียนรู้และทำความเข้าใจอารมณ์ของลูก และเตรียมพร้อมรับมือกับภาวะอารมณ์เหล่านี้อย่างถูกต้องเหมาะสม
พูดกันด้วยเหตุผล ไม่ว่าลูกจะร้องกรี๊ด หรือโวยวาย เพราะรู้สึกขัดใจด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม พ่อแม่ต้องพูดกับลูกด้วยเหตุผล และสร้างข้อตกลงร่วมกัน สอนให้ลูกรู้จักขอบเขตว่าสิ่งไหนทำ “ได้” สิ่งไหนทำ “ไม่ได้” ด้วยการให้เหตุผลกำกับทุกครั้งว่าทำไมสิ่งนี้ลูกถึงทำได้ ทำไมสิ่งนี้ถึงทำไม่ได้ เมื่อพ่อแม่ทำอย่างนี้บ่อยครั้ง ลูกจะเริ่มมีการเรียนรู้ และค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
เมื่อลูกเรียกร้องความสนใจจากพ่อและแม่ หรือแสดงความต้องการว่าอยากได้ โน่น นั่น นี่ มากมาย บางทีเหตุผลจริง ๆ แล้ว อาจเป็นเพราะเขาแค่ต้องการเวลาและความใส่ใจจากพ่อแม่เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นพ่อแม่จึงควรให้เหตุผลเพื่อสร้างความเข้าใจ และใช้เวลาอยู่กับลูกให้มากขึ้น เพื่อสร้างความมั่นคงทางอารมณ์ เมื่อลูกมีพื้นฐานทางอารมณ์ที่มั่นคงแล้ว เขาจะเริ่มรู้จักควบคุมและแสดงความต้องการทางอารมณ์ออกมาได้อย่างเหมาะสม
การลงโทษไม่ใช่การแก้ปัญหาแต่จะยิ่งเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมด้านลบเพิ่มมากขึ้น พ่อแม่ต้องจำไว้เสมอว่า ลูกยังเด็ก การเรียกร้องความสนใจก็คือการเรียกร้องความสนใจ ไม่ว่ามันจะมาในรูปแบบไหนก็ตาม ทางที่ดีที่สุดคือ พยายามทำเป็นเฉย ๆ ไม่สนใจ ถ้าจำเป็นต้องทำอะไรสักอย่างก็ควรพูดให้กระชับ สั้นที่สุดเท่าที่จะทำได้ พยายามใจเย็นเข้าไว้ และเดินหนีออกมา ลูกจะเริ่มเรียนรู้ได้เอง เมื่อพฤติกรรมเหล่านั้นไม่ถูกตอบสนอง
สุภาพรรณ ศรีสุข (ครูแหม่ม)
ที่ปรึกษาวิชาการ โรงเรียนศิลปพัฒนาการสมองเด็ก K.D.S.