หากพูดถึงคณะยอดฮิตในปัจจุบันน้อง ๆ คงรู้จักกันอยู่ไม่กี่คณะ เช่น แพทยศาสตร์ นิเทศศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ บัญชี บริหาร ฯลฯ ซึ่งในแต่ละปีบัณฑิตที่จบจากสาขาเหล่านี้มีไม่ต่ำกว่าแสนคน จึงทำให้เกิดการแข่งขันและมีบุคคลว่างงานเกิดขึ้นมากมาย หลายคนจึงมองหาความแตกต่างเพื่อเป็นใบเบิกทาของอาชีพในอนาคต แล้วคณะที่แตกต่างมีอะไรและทำงานอะไรได้บ้าง ? วันนี้พี่จะพาน้อง ๆ ไปรู้จักกับ “สาขาแปลกใหม่” ที่จะสามารถสร้างอาชีพที่ “แตกต่าง” ในอนาคต

1. สาขาวิชาการจัดการประชุม นิทรรศการ และการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล

แค่อ่านชื่อก็คงจะพอเข้าใจแล้วว่าสาขานี้เรียนอะไร แน่นอนอยู่แล้วสาขานี้เนี่ยเป็นสาขาที่ตอบโจทย์การขยายตัวของธุรกิจไมซ์ (M-I-C-E) ดังนั้นจึงต้องเรียนในวิชาต่าง ๆ ที่เป็นการบริหารและจัดการธุรกิจไมซ์นั้นเอง แล้วธุรกิจไมซ์คืออะไร? ธุรกิจไมซ์เป็นธุรกิจบริการที่จะพัฒนาเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน ประกอบด้วย ธุรกิจการจัดการประชุม (Meeting) การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล (Incentive Travel) การประชุมนานาชาติ (Convention) และงานแสดงนิทรรศการนานาชาติ (Exhibition) และถ้าหากน้อง ๆ จบมาก็สามารถทำอาชีพเป็นผู้จัดงานแสดงสินค้าและนิทรรศการ (PEO) ผู้จัดงานอีเวนต์ (Organizer) ผู้ประกอบการธุรกิจงานประชุมและนิทรรศการ ผู้ปฏิบัติงานในศูนย์การประชุม (Venue and Convention Center) ผู้ออกแบบและจัดประชุมนานาชาติ มัคคุเทศก์ ได้อีกด้วย โดยในปัจจุบันหลักสูตรนี้เปิดสอนที่ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

2. สาขาวิชาสื่อสารการกีฬา

กีฬา กีฬา เป็นยาวิเศษ ! ได้ยินกันทุกวันกีฬามีประจำปี ใครมันจะไปรู้ว่านอกเหนือจากการเล่นกีฬาแล้ว ยังมีหลักสูตรที่รองรับด้าน “การสื่อสาร” ของกีฬาต่าง ๆ โดยเน้นให้ได้เรียนรู้ได้อย่างลึกซึ้งด้านกีฬาและการสื่อสาร โดยทางหลักสูตรจะให้น้อง ๆ ได้เรียน การบริหารจัดการธุรกิจและองค์กรกีฬา ความรู้ความสามารถทางด้านการสื่อสารกีฬา เข้าใจในด้านการบริหารจัดการกีฬา การสื่อสารมวลชน และนันทนาการ นั้นเอง ซึ่งบัณฑิตที่จบมาจะสามารถประกอบอาชีพเป็น ผู้สื่อข่าว ผู้ประกาศข่าว ผู้รายงานข่าวสายกีฬา หรือผู้ประกอบการธุรกิจศูนย์กีฬา เป็นต้น น่าสนใจใช่ไหมหล่ะ โดยหลักสูตรนี้เปิดสอนที่ คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต

3. สาขาวิชาบริหารธุรกิจญี่ปุ่น

อ่านไม่ผิดหรอกครับญี่ปุ่นจริง ๆ สาขานี้เปิดสอนเพื่อรองรับอุตสาหกรรมแดนปลาดิบ ที่มาลงทุน ในประเทศไทยนั้นเอง แน่นอนว่าด้านบริหารธุรกิจก็มีการเรียน การสอน เหมือนกับคณะบริหารธุรกิจของ มหาวิทยาลัยอื่น ๆ แต่ที่นี้จะมีการสอนเกี่ยวกับวัฒนธรรมองค์กรญี่ปุ่น มารยาท และการจัดการธุรกิจใน แบบคนญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นมา อีกทั้งตลอด 4 ปียังมีการสอนภาษาญี่ปุ่นที่เข้มข้นโดยอาจารย์ที่ส่งตรงมาจากแดนปลาดิบที่แท้ทรูนั้นเอง บัณฑิตที่จบมาสามารถประกอบอาชีพเป็น ล่ามนักธุรกิจ นักวิเคราะห์ทางการเงิน นักการตลาด นักบริหารธุรกิจ ในองค์กรของบริษัทญี่ปุ่น โดยสาขานี้เปิดสอนที่ คณะบริหารธุรกิจ สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น

4. สาขาวิชาเศรษฐกิจพอเพียง

ตั้งแต่เด็ก ๆ เราคงเคยได้ยิน “ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” ของในหลวงรัชการที่9 มากันแล้ว แต่น้อยคนที่จะรู้จักและลงมือปฏิบัติกันจริง ๆ โดยทางหลักสูตรนี้จะให้น้อง ๆ ได้เรียนรู้แนวคิดและทฤษฎีต่าง ๆ เน้นการทำวิจัยตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง อีกทั้งยังเป็นการนำองค์ความรู้ที่ได้มา เผยแพร่แก่เกษตรกรเพื่อพัฒนาอาชีพ และสืบสานปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยมีพื้นที่ให้นักศึกษากว่า 100 ไร่เพื่อให้ทดลองใช้ชีวิตและเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงอย่างแท้จริง โดยจบบัณฑิตที่จบมาสามารถประกอบอาชีพเป็น นักวิชาการ นักวิจัย นักบริหาร รับราชการชุมชม ธุรกิจส่วนตัว เป็นต้น โดยหลักสูตรนี้เปิดสอนที่ คณะบริหารศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี

5. สาขาวิชาการจัดการธุรกิจซาลอน

อีกหนึ่งอาชีพที่ยังไงเราก็ต้องใช้บริการไม่ว่าจะ ตัด ซอย ทำสีผม ทำเล็บ บลา ๆ จึงทำให้กลายเป็นอาชีพยอกฮิตของบรรดาสาว ๆ โดยมีการเรียนการสอนผ่านอาจารย์จาก ชลาชล อคาเดมี่ และหลักสูตรนี้ไม่ได้สอนให้เป็นช่างทำผมอย่างเดียว แต่เน้นการการวิจัย และการพัฒนาทรัพยากรบุคคล เพื่อส่งเสริมและเตรียมความพร้อมให้กับนักศึกษาที่จะก้าวไปเป็นผู้ประกอบการและเจ้าของธุริกจซาลอนต่อไปในอนาคต โดยหลักสูตรนี้เปิดสอนที่ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม

6. สาขาวิชามีเดียทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์

อารมณ์คล้าย ๆ เรียนนิเทศบวกกับความรู้เบื้องต้นของแพทย์และสาธารณสุข โดยทางหลักสูตรนี้จะมุ่งเน้นให้น้อง ๆ ได้เรียนเกี่ยวกับ การผลิตผลงานสื่อด้านเสียง กราฟิก ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว 2 มิติ และ 3 มิติ และสามารถบูรณาการกับศาสตร์ทางการแพทย์ ในการผลิตสื่อเพื่อการเรียนรู้ การวินิจฉัย การนำเสนอ การประชาสัมพันธ์และการวิจัย นั้นเอง โดยบัณฑิตที่จบมาจะสามารถประกอบอาชีพเป็น นักวิชาการโสตทัศนศึกษาทางการแพทย์ ในสถาบันการศึกษาทางการแพทย์และสาธารณสุขต่าง ๆ ช่างภาพการแพทย์ นักสร้างหุ่นจำลอง ทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ในสถานพยาบาล เป็นต้น ในปัจจุบันหลักสูตรนี้เปิดสอนใน โครงการร่วมบริหารหลักสูตรมีเดียอาตส์และเทคโนโลยีมีเดีย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

7. สาขาวิชาเลขานุการทางการแพทย์

ถ้าพูดถึงอาชีพเลขา คงนึกถึงเลขาที่คอยตามเจ้านายไปที่ต่าง ๆ ตามละครช่องสามสินะ แต่หลักสูตรนี้จะลบภาพจำดังกล่าว เพราะเลขาทางการแพทย์ไม่ใช่ว่าใครจะเป็นได้ แต่ต้องมีความรู้ด้านสาธารณสุขและด้านการแพทย์เบื้องต้น โดยหลักสูตรนี้มุ่งเน้นให้นักศึกษามีทักษะในการแก้ไขปัญหาและทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ สามารถบูรณการความรู้ด้านเลขานุการ การบริหารจัดการ และความรู้ทางการแพทย์เข้าด้วยกันโดยมีจุดเด่นในการใช้ภาษาอังกฤษทางการแพทย์อีกด้วย โดยบัณฑิตที่จบการศึกษาสามารถประกอบอาชีพเป็น เลขานุการในหน่วยงานทางการแพทย์และผู้บริหารในสำนักงานองค์กรภาครัฐและเอกชน ผู้ประสานงานด้านการแพทย์ พนักงานองค์กรรัฐและเอกชนเกี่ยวกับการแพทย์ เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการในบริษัทเวชภัณฑ์ ผู้ประกอบการธุรกิจด้านสุขภาพ เป็นต้น ในปัจจุบันเปิดสอนหลักสูตรนี้ที่ คณะวิยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต

8. สาขาวิชาการศึกษาตลอดชีวิต

ไม่ต้องตกใจหรือสงสัยในชื่อของสาขานี้ เพราะว่ามันไม่ได้เรียนตลอดชีวิต ก็เรียนสี่ปีเหมือนคณะอื่น ๆ ทั่วไป เพียงแตกคำว่า “ตลอดชีวิต” หมายถึงการเรียนรู้ของมนุษย์นั้นเอง โดยสาขานี้จะปลูกฝั่งให้น้อง ๆ เข้าใจถึงกระบวนการเรียนรู้ของมนุษย์เราในช่วงชีวิต ไม่ว่าจะเด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ วัยสูงอายุ ล้วนแต่มีวิธีการเรียนรู้ที่แตกต่างกันไป เราจึงต้องทำการศึกษาเพื่อจัดกิจกรรมให้เกิดการเรียนรู้ที่เหมาะสม ซึ่งกิจกรรมไม่จำเป็นจะต้องทำในห้องเรียนเสมอไป แต่สามารถทำที่ไหนก็ได้ โดยสาขานี้จะเรียนอาทิเช่น ระบบการศึกษาทั้งในระบบและนอกระบบ การจัดกิจกรรมในชุมชน ในหน่วยงาน และ หลักการจัดกิจกรรมแก่กลุ่มคนวัยต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่งบัณฑิตที่จบการศึกษามาจะสามารถประกอบอาชีพ นักวิชาการ นักทรัพยากรมนุษย์ในองค์กร นักจัดกิจกรรม เป็นต้น และในปัจจุบันเปิดสอนหลักสูตรนี้ที่ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร

9. สาขาวิชาทัศนมาตรศาสตร์

อ่านชื่อแล้วไม่คุ้นถูกม่ะ ? แต่ถ้าใครมีพื้นภาษาไทยก็คงรู้ว่าเห็นคำว่า “ทัศน”ต้องหมายถึงการมองการเห็นอย่างแน่นอน ซึ่งมาถูกทางแล้วเพราะคณะนี้เกี่ยวกับสายตาล้วน ๆ ถ้าพูดว่าเป็นคนวินิจฉัยโรคเบื้องต้นก่อนที่จะส่งให้จักษุแพทย์หล่ะเคยเห็นกันไหม บอกเลยว่าคณะนี้เป็นคณะที่ได้รับความนิยมในประเทศแถบยุโรปมาก ๆ แต่ยังใหม่ในประเทศไทยและในอนาคตคาดว่าความต้องการในตลาดแรงงานจะเพิ่มมากขึ้นด้วย ในหลักสูตรของคณะนี้จะเน้นให้น้องเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านสายตา โดยน้องขจะได้เรียน อาทิ โรคทางด้านสายตาเบื้องต้น เพื่อจะได้แนะนำคนไข้ได้ก่อนส่งให้จักษุแพทย์ การทำแว่นตา การเลือกวัสดุทำแว่นตาที่เหมาะสม การทำคอนแทคเลนส์เป็นต้น ซึ่งบัณฑิตที่จบการศึกษามาสามารถทำงานในโรงพยาบาลต่าง ๆ ทั้งรัฐบาลและเอกชน ทำร้านขายแว่นตา โรงงานหรือบริษัทผลิตแว่นตาหรือเลนส์ คอนแทคเลนส์ ก็สามารถทำได้ โดยในปัจจุบันหลักสูตรนี้เปิดสอนที่ คณะทัศนมาตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง

10. สาขาวิชาคณิตศาสตร์ประกันภัย

พูดถึงคณิตศาสตร์ตัวเลขก็ลอยมาเลย แน่นอนว่าสาขานี้ต้องมีการคำนวณเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน แต่มันไม่ใช่แค่การคำนวณทางด้านคณิตศาสตร์ที่เราคุ้นเคยกัน มันเป็นการคำนวณเพื่อคาดคะเนเหตุการณ์ในอนาคตอีกด้วย โดยใช้เหตุผลทางการเงินมาเป็นคำตอบ หลายบริษัทต้องการรู้ถึงความเสี่ยง ผลกำไรในอนาคต หรือคาดคะเนเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น ต้องการทราบถึงต้นตอปัญหาจากเหตุการณ์ในปัจจุบัน หากคำตอบพวกนี้เกิดจาก “นักคณิตศาสตร์ประกันภัย” คงเห็นรายได้ลอยมาเลยใช่ไหมหละน้อง ๆ แล้วเขาเรียนอะไรกัน ? ในสาขานี้น้องจะเรียนคณิตศาสตร์ที่ใช้ในการพยากรณ์ เศรษฐศาสตร์ การวิเคราะห์การเงิน เป็นต้น โดยบัณฑิตที่จบการศึกษามาสามารถประกอบอาชีพ นักคณิตศาสตร์ประกันภัย ทำงานในธนาคารพาณิชย์ เป็นที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัทต่าง ๆ เป็นต้น โดยในปัจจุบันมีการเปิดสอนหลักสูตรนี้ที่ ภาควิชาคณิตศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

          เพราะในปัจจุบันมีอาชีพที่แปลกใหม่เพื่อรองรับความต้องการความสะดวกสบายของคนในโลกนี้มากยิ่งขึ้น ก็คงไม่แปลกที่จะมีหลักสูตรใหม่ ๆ สร้างขึ้นมารองรับ และพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ ความสามารถในอาชีพนั้น ๆ เพราะฉะนั้นอย่าตีกรอบความคิด มองอาชีพในอนาคตแล้วเลือกเรียนในสิ่งที่ใช่ เพื่อสร้างโอกาสด้านอาชีพกันเถอะ

เรื่อง : ศิรศักดิ์ ชัยสิทธิ์