ถ้าท่านมีโทสะในขณะภาวนา
ให้แก้ด้วยเมตตาจิต
ถ้ามีใครทำไม่ดีหรือโกรธ อย่าโกรธตอบ
ถ้าท่านโกรธตอบ ท่านจะโง่ยิ่งกว่าเขา
จงเป็นคนฉลาด
สงสารเห็นใจเขา เพราะว่าเขากำลังได้ทุกข์
จงมีเมตตาเต็มเปี่ยมเหมือนหนึ่งว่าเขาเป็นน้องชายที่รักยิ่งของท่าน
เพ่งอารมณ์เมตตาเป็นอารมณ์ภาวนา
แผ่เมตตาไปยังสรรพสัตว์ทั้งหลายในโลก
บางครั้งท่านอาจจะเห็น พระภิกษุรูปอื่นปฏิบัติไม่สมควร
ท่านอาจจะรำคาญใจ ทำให้เป็นทุกข์โดยใช่เหตุ
นี้ไม่ใช่ธรรมะของเรา
ท่านอาจจะคิดอย่างนี้ว่า
“เขาไม่เคร่งเท่าฉัน
เขาไม่ใช่พระกรรมฐานที่เอาจริงเอาจัง เช่นฉัน
เขาไม่ใช่พระที่ดี”
นี่เป็นกิเลสเครื่องเศร้าหมองอย่างยิ่งของตัวท่านเอง
อย่าเปรียบเทียบ อย่าแบ่งเขาแบ่งเรา
จงละทิฐิของท่านเสีย และเฝ้าดูตัวท่านเอง
นี่แหละคือ ธรรมะของเรา
ท่านไม่สามารถบังคับ ให้ทุกคนประพฤติปฏิบัติตาม ที่ท่านต้องการ หรือเป็นเช่นท่านได้
ความต้องการเช่นนี้มีแต่ จะทำให้ท่านเป็นทุกข์
ผู้ปฏิบัติภาวนามักจะพากันหลงผิดในข้อนี้
การจับตาดูผู้อื่น ไม่ทำให้เกิดปัญญาได้
เพียงแต่พิจารณาตนเองและความรู้สึกของตน
แล้วท่านก็จะเข้าใจได้
ธรรมะโดย พระโพธิญาณเถระ (พระอาจารย์ ชา สุภัทโท)