เรื่องและภาพโดย: พรพิรุณ พงษ์นครสกุล
ทำงานมาทั้งวันจะมีวันหยุดสุดสัปดาห์ทั้งที หลาย ๆ คนก็คงจะมองหาแหล่งที่ท่องเที่ยวใกล้ ๆ เอาไว้เดินเที่ยว ชิล ๆ ผ่อนคลายในวันพักผ่อน วันนี้เลยอยากมาแนะนำแหล่งของอร่อย พร้อมกับชมวิถีชีวิตของชาวบ้าน ในสไตล์ตลาดน้ำกรุงเทพฯอย่าง “ตลาดน้ำคลองลัดมะยม”
ตลาดแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองกรุง มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน นักท่องเที่ยวที่ได้เดินทางไปชมต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าอาหารอร่อย บรรยากาศดี
ตลาดน้ำคลองลัดมะยม ตั้งอยู่ในเขตตลิ่งชัน กรุงเทพ เปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09:00-15:00 ตลาดน้ำแห่งนี้จะแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง มีการสร้างแบบเรียบง่าย ไม่ได้กว้างขวางมากนัก เป็นตลาดน้ำที่เกิดจากรวมตัวของชาวบ้าน ชุมชนริมคลองลัดมะยม เพื่อให้ชุมชนได้มีแหล่งจำหน่ายสินค้า ที่ผลิตในชุมชน ไม่ว่าจะเป็นผักผลไม้ที่มีความสด สะอาด เพราะเป็นผลิตผลของชาวบ้านแต่ละบ้าน ในละแวกนั้น
เมื่อเดินมาสักพักก็จะเห็นป้ายเขียนว่า ”ระวังหัว” เพราะทางเดินข้างหน้าเป็นทางเดินใต้สะพาน คนที่มาที่นี่เวลาจะเดิน ก็จะต้องก้มหัวเดินลอดใต้สะพานซึ่งเป็นความแปลกอย่างหนึ่งของที่นี่ ภายใต้สะพานนี้ก็จะมีพ่อค้า แม่ค้า พายเรือมาขายของที่เป็นผลผลิตทางการเกษตรมากมายทั้งผักผลไม้ ซึ่งปลูกแบบไม่ใส่ยากำจัดแมลง จึงมั่นใจได้ว่าผลผลิตของที่นี่มีความปลออดภัย ไม่มีสารเคมีตกค้างแน่นอน
หากใครมาที่นี่ก็คงจะพลาดไม่ได้ ต้องลองชิมปลาช่อนเผาตัวโตๆ เนื้อแน่น ทานพร้อมผักลวก จิ้มกับน้ำจิ้มรสเด็ดของที่นี่ คือน้ำจิ้มน้ำพริกแมงดา ที่รสเด็ดมากอย่าบอกใคร หรือจะทานแบบเบสิคด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ด และยังมีกุ้งย่าง ปลาหมึกย่างให้เลือกรับประทานอีกมากมาย ราคาอาหารทะเลจะอยู่ที่ 50-250 บาท ราคาจะขึ้นอยู่ที่ชนิดของอาหารที่เราเลือก ราคาไม่แพงแถมยังมีความสด สะอาด และที่สำคัญรสชาติอร่อยอีกด้วย หากไม่มาชิมถือว่าพลาดมาก ๆ เลยทีเดียวใครที่อยากทานอาหารทะเล แล้วไม่รู้จะหาแหล่งที่มีอาหารทะเลสด สะอาดและปลอดภัยได้ที่ไหน แนะนำให้มาที่ตลาดน้ำคลองลัดมะยม
นอกจากอาหารทะเลแล้วยังมีส้มตำรสเด็ดที่ใส่ปูม้าตัวโต ๆ ลาบทอดที่รสชาติกลมกล่อม และที่เด็ดไม่แพ้กันนั่นก็คือ ยำสามกรอบที่รสชาติเข้มข้นด้วยน้ำยำ ที่มีส่วนผสมของน้ำพริกเผาสูตรพิเศษของที่นี่ นอกจากอาหารไทยแล้ว อาหารเทศอย่างลาซาญญ่าอบชีส ก็มีให้เลือกหลากหลายหน้า ทั้งหน้าผักโขมอบชีส ไส้กรอก เบคอน และอื่น ๆ อีกมากมาย
ขนมหวานแบบไทย ๆ ที่นี่ก็มี เดินนาน ๆ เริ่มคอแห้งก็มีน้ำตาลสดแท้ 100 % แปลกตรงที่แก้วทำจากกระบอกไม้ไผ่ ราคาเริ่มต้นที่แก้วละ 20 บาท เมื่อทานหมด สามารถเติมได้ครั้งละ 10 บาท
หลังจากอิ่มท้องกันแล้วก็สามารถนั่งเรือแจวชมวิถีชีวิตของชาวบ้านในสองฝั่งคลอง ได้อีกด้วย โดยค่าบริการต่อคนเพียงแค่ 20 บาทเท่านั้นเอง นอกจากนี้หากพาเด็ก ๆ มาก็สามารถมาให้อาหารปลาได้ที่คลองแห่งนี้ มีปลาหลากหลายชนิดอาศัยอยู่เต็มคลอง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นปลาสวายที่สำคัญตัวใหญ่มาก ๆ
นอกจากอาหารการกินที่อุดมสมบุรณ์ของที่นี่แล้ว ยังมีผลงานศิลปะจากที่ต่างๆ มาให้ชมที่ตรอกงานศิลป์อีกด้วย และในบริเวณรอบ ๆ ก็ยังมี ร้านค้าจากงานฝีมือของชาวบ้านมากมาย หลายร้าน แม้กระทั่งร้านขายสัตว์เลี้ยงอย่างกระรอกก็มีค่ะ
อีกสิ่งหนึ่งของที่นี่ที่เป็นเสน่ห์ทำให้มีผู้คนอยากมานั่นก็คือ ความเป็นมิตร ใจดี ยิ้มแย้มแจ่มใสของพ่อค้าแม่ค้าที่นำสินค้ามาขายในตลาดน้ำแห่งนี้ ที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน และชุมชนยังได้มีกิจกรรมร่วมกันอย่างอบอุ่น เหมาะที่จะเป็นที่พักผ่อน ในช่วงวันหยุดเสาร์ อาทิตย์อีกด้วย
การเดินทางมาก็มีความสะดวกหากเราจะมาโดยรถส่วนตัว ก็วิ่งมาทางถนนบรมราชชนนี มุ่งหน้าไปทางถนนกาญจนาภิเษก เส้นบางแค-บางบัวทอง ไปตามป้ายบางแค เข้าสู่ถนนจรัญสนิทวงศ์ 13 ขับไปเรื่อย ๆ จะเจอซอยเล็ก ๆ มีป้ายซอยเขียนว่า ถนนบางระมาด และจะมีป้ายด้านล่างเขียนว่าตลาดน้ำคลองลัดมะยมให้เลี้ยวเข้าซอยไป ขับไปประมาณ 1 ก.ม. จะเจอตลาดน้ำคลองลัดมะยม เสียค่าบริการที่จอดรถ 20 บาท แต่หากว่าเราไม่มีรถส่วนตัว ก็สามารถมาทางเรือข้ามฟากได้ โดยมาขึ้นเรือข้ามฟากที่ท่าพระจันทร์ ม.ธรรมศาสตร์ นั่งเรือสายรถไฟ - ท่าพระจันทร์ ขึ้นที่ท่ารถไฟ แล้วเดินออกจากท่าเรือ รอรถสองแถวสายรถไฟ-ปู่เถร ซึ่งจะวิ่งตรงไปถึงตลาดน้ำคลองลัดมะยมเลย หรือจะไปดักรอรถสองแถวตามทางที่รถผ่าน เช่น หน้าตลาดบางขุนนนท์ หรือหน้าที่ทำการเขตตลิ่งชัน
ทั้งหมดนี้ เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของบรรยากาศ ภายในตลาดน้ำแห่งนี้เท่านั้น อาหารและผลิตผลทางการเกษตรของตลาดแห่งนี้ ยังมีอีกมากมาย ในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่อยู่ว่าง ๆ หากไม่รู้จะไปไหน ขับรถชิล ๆ มาเที่ยวตลาดน้ำคลองลัดมะยมหาของอร่อย ๆ รับประทานอุดหนุนผลผลิตของชาวบ้าน เพื่อกระจายรายได้เข้าสู่ชุมชนกันค่ะ
ข้อมูลอ้างอิงจาก: http://www.paiduaykan.com/province/central/bangkok/kongladmayom.html