รับชมข่าว/ไฮไลท์/อัลบั้มภาพ เรื่อง 



ธรรมะรับอรุณ ; การงานไม่คั่งค้างสับสน เป็นมงคลสูงสุด โดย พระเทพสุธี

ธรรมะรับอรุณ ; การงานไม่คั่งค้างสับสน เป็นมงคลสูงสุด โดย พระเทพสุธี (สมควร ปิยสีโล ป.ธ.9) เจ้าคณะภาค 14 เจ้าอาวาสวัดนิมมานรดี

อนากุลา จ กมฺมนฺตา เอตมฺมงฺคลมุตฺตมํ -การงานไม่อากูร ถือว่าเป็นมงคลสูงสุด

มงคล แปลว่า ถึงซึ่งความสำเร็จ หรือ ถึงซึ่งความเจริญ นั่นคือ เมื่อทำแล้วต้องสำเร็จ เป็นมงคลกับตัวเอง 

คนที่ทำอะไรไม่สำเร็จ ไม่ถึงซี่งความเจริญ เพราะ มีการทำงานคั่งค้างไว้ ผลัดวันประกันพรุ่ง ซึ่งการงานจะสำเร็จได้ ต้องมีศรัทธาความเชื่อ ได้แก่

เมื่อทำแล้วมีความปลื้มใจ ดีใจ ฟูใจ ในตัวเอง จะช่วยขจัดนิวรณ์ สิ่งที่ขวางกั้น ได้แก่

  1. กามฉันทะ เกิดพอใจในบางอย่าง แล้วละทิ้งการงาน
  2. พยาบาท เกิดแล้วจองล้างจองผลาญ ไม่สนใจการงาน
  3. ถีนะมิทธะ หดหู่พอใจเซ็งงาน
  4. อุทธัจจะกุกุจจะ ฟุ้งซ่านรำคาญใจ ไม่อยากทำงาน
  5. วิจิกิจฉา สงสัยลังเลว่าจะทำดีไม่ทำดี ทำแล้วได้อะไร

เมื่อขจัดนิวรณ์หรือกิเลสทั้ง 5 ออกแล้ว ศรัทธาในการทำงานก็เกิดขึ้น

 

ตัวจูงใจในการทำงาน เป็นแรงขับดันด้านดี ที่ทำให้ต้องการทำการงานให้สำเร็จ อันได้แก่   คนที่เดินทางมาเจอแม่น้ำ แต่ไม่แน่ใจว่าจะข้ามดีไหม แต่เมื่อมีอีกคนเดินผ่านแล้วข้ามไปเลยจนถึงฝั่งอีกข้าง คนที่กำลังยืนลังเลเห็นมีคนที่ข้ามได้สำเร็จ ก็เกิดแรงจูงใจอยากข้ามตาม เพราะเขาก็ไม่ได้พิเศษจากตัวเรา

 

ดังเช่นเด็ก ที่เห็นพ่อแม่เป็นตัวอย่าง เป็นการซึมซับ ซึ่งไปนาน ๆ จะยากที่จะแก้ไข เช่นพื้นฐานทางบ้านดี แม้แต่การกระทำ คำพูดหรือความคิด ที่เรียกว่า “ใจที่คิด จิตที่ทำ คำที่พูด” ออกมาดี เด็กก็จะออกมาดีดั่งที่ซึมซับ

 

จากตัวอย่างในโครงการที่จัดทำ พบกว่า เมื่อเด็กอยู่ที่วัด ในโครงการ 10 กว่าวัน พบว่า เด็กกลับเป็นเหมือนแก้วที่ใส ทำทุกอย่างได้ถูกต้องขึ้น แต่เมื่อกลับบ้าน ได้เจอสิ่งแวดล้อมเดิม ๆ ซึมซับกับสิ่งเดิม ๆ เด็กก็กลับเป็นเช่นเดิม เห็นการเข้าวัดเป็นสิ่งผิดปกติ

ซึ่งทางวัดก็พยายามแก้ไขจุดนี้ด้วยการพาผู้ใหญ่มาเข้าโครงการด้วยเช่นกัน เรียกว่า พ่อแม่เป็นคนสำคัญที่สุด เพราะเป็นคนที่ “สอนให้ลูกจำ ทำให้ลูกเห็น เย็นให้ลูกดู อยู่ให้สัมผัส”

หากพ่อแม่ไม่สามารถทำให้ดูได้ เช่นสูบบุหรี่เอง แต่ห้ามลูกสูบ ก็ไม่มีวันสำเร็จ

หรือไม่มีเวลาด้วยกัน แม้แต่รับประทานอาหารเย็นร่วมกัน พูดคุยกัน ก็ไม่สามารถสอนลูกได้สำเร็จ ในอดีตการได้ทานร่วมกัน ทำให้มีเวลาตักเตือน วางแผนงานบ้านตอนเช้าร่วมกัน

 

การที่จะเปลี่ยนความคิดของคนในสังคมต้องใช้เวลา โดยนำเหตุผลขึ้นมาบนพื้นฐานของศีล 5 ซึ่งเป็นกฎระเบียบของสังคมในอดีต 

โดยเฉพาะการจะชื่นชมหรือติชมบนพื้นฐานของศีล 5 จะเป็นการพัฒนา เช่น ชื่นชมติชม เพราะไม่โลภ ไม่ได้โกหก ไม่ได้เบียดเบียน ไม่ได้เพื่อผลประโยชน์ตนเอง และผู้ฟังมีใจเปิดกว้าง ไม่ปิดกั้นทำให้ไร้เหตุผล ไม่คิดเปลี่ยนแปลงตัวเอง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ต้องใช้เวลา 

แต่หากมีบัณฑิตชนคนรอบข้างมีศีล 5 เป็นคนดี ก็จะเปลี่ยนแปลงความคิดได้เร็วขึ้น

 ทั้งนี้ทั้งนั้น สิ่งสำคัญต้องมี “หลัก” สำหรับพระสงฆ์แล้ว หลักคือ พระธรรมวินัย สิ่งสำคัญสำหรับฆราวาสคือ ศีล 5

 

ถ้าคนที่อยุ่ในศีล จะมีหลักในการทำงาน เพราะศีลนี้ครอบครบทุกด้าน ไม่ว่าในด้านกฎหมาย แม้แต่รัฐธรรมนูญ ทำให้การงานนั้นทำสำเร็จเป็นมงคลและสร้างความเจริญแก่ผู้กระทำ เรียกว่าเป็น “มงคลกระทำ” คือ ตนเองต้องกระทำตัวเอง จึงจะเป็นมงคลแก่ตนเอง 

@copyright ทรูปลูกปัญญา