หลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า มีความละเอียดลึกซึ้งหลายระดับขั้น โดยมีเป้าหมายสูงสุด
คือการเข้าถึงความพ้นทุกข์ และในระดับที่สอดคล้องกับการดำเนินชีวิตของแต่ละบุคคล ในการฝึกปฏิบัติเพื่อเข้าถึงธรรมะ ไม่ว่าจะอยู่ในระดับขั้นใด ผู้ที่มีหลักธรรมคุ้มครองใจย่อมค้นพบความสงบ
ในจิต และความสุขแท้จริงของชีวิต “การปฏิบัติธรรม” มีความสำคัญอย่างยิ่ง เป็นการนำเอาหลัก
คำสอน ของพระพุทธเจ้ามาฝึกใช้ให้เกิดประโยชน์ในการดำเนินชีวิต “สถานปฏิบัติธรรมธวีธรรม”
ก่อตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้พนักงานในเครือเจริญโภคภัณฑ์และกลุ่มบริษัททรู ใช้เป็นสถานที่ศึกษาปฏิบัติธรรม ผ่านการอบรมโดยครูบาอาจารย์และวิทยากรพิเศษ ทั้งยังสามารถศึกษาธรรมะเพิ่มเติมได้จากสื่อรูปแบบต่าง ๆ ของสถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้ ประสบการณ์ทางธรรม
ที่ได้รับ ณ สถานที่แห่งนี้ จะเกิดประโยชน์ยิ่งขึ้นไป หากท่านนำไปใช้เป็นหลักในการดำเนินชีวิตและการทำงาน โดยเฉพาะหลักสำคัญ ๓ ประการที่พระพุทธองค์ทรงประทาน คือ ศีล สมาธิ ปัญญา
จะเป็นดั่งภูมิธรรมที่โอบอุ้มจิตใจ ให้ชีวิตดำเนินไปบนทางที่ถูกที่ดี และเป็นผลลัพธ์ที่ดีต่อส่วนรวมและต่อตนเอง

เครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้จัดสร้างพระพุทธรูปประจำสถานปฏิบัติธรรมธวีธรรม ขนาดหน้าตัก ๓๒ นิ้ว จำนวน ๒ องค์ เพื่อประดิษฐาน ณ สถานปฏิบัติธรรมธวีธรรม ไร่แสงงาม อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา อันเป็นพุทธศิลป์
สูงค่าตรงตามพุทธลักษณ์ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ชาวพุทธทุกคนกราบไหว้บูชาพร้อมกับได้ถวายพระนามพระพุทธรูปนี้ว่า “พระพุทธปัญญาธรรม” เป็นผลงานร่วมออกแบบโดย คุณศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ และปั้นโดยอาจารย์อติ กองสุข ประติมากรที่ชำนาญการปั้น ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากพระพุทธรูป “คันธารราฐ” และฐานองค์พระได้แรงบันดาลใจจากตราสัญลักษณ์ของเครือเจริญโภคภัณฑ์ “ดอกบัวบาน” โดยให้ความหมายถึงการเจริญเติบโตและเบ่งบานในทางธรรม พร้อมสอดแทรกธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเป็นพระดำริหลังจากที่พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้แล้วได้ประทับนั่งเสวยวิมุติสุข ทรงดำริถึง
พระธรรมที่ได้ตรัสรู้ว่าเป็นของที่ลุ่มลึก “ผู้ที่จะตรัสรู้ได้ก็มีอยู่ เทียบได้กับบัวสามเหล่าที่บานได้”
จุดประสงค์การจัดสร้าง “พระพุทธปัญญาธรรม” เพื่อให้พุทธศาสนิกชนที่ศรัทธาได้กราบไหว้บูชาเตือนใจให้ระลึกถึงพระรัตนตรัย และตั้งมั่นในศีลธรรม อันก่อให้เกิดความรัก ความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์และยังแผ่ขยายวงกว้างสู่ทุก ๆ สรรพสิ่งบนโลกใบนี้ ดั่งความหมายของ “ความรักจักรวาล”

ระเบียบและข้อปฏิบัติของสถานปฏิบัติธรรม ธวีธรรม

DO

  • ผู้ปฏิบัติธรรมจะต้องแต่งกายสุภาพ
    • ผู้หญิง : กางเกงขายาวหรือผ้านุ่ง กระโปรงยาวสีขาว สวมเสื้อสีขาว (ไม่บาง)
    • ผู้ชาย : กางเกงขายาวสีขาว สวมเสื้อสีขาว
  • ควรแจ้งวันเข้าร่วมปฏิบัติธรรมล่วงหน้าผ่านระบบเท่านั้น และต้องได้รับการอนุญาตจากผู้บังคับบัญชา
  • ควรสำรวมวาจา งดพูดคุยเสียงดังในระหว่างการปฏิบัติธรรม
  • ควรเป็นผู้สำรวมกาย มีมารยาทสงบเรียบร้อย กินง่าย อยู่ง่าย และใส่ใจบำเพ็ญเพียรอยู่ตลอดเวลา
  • ควรเข้าร่วมกิจกรรมทำวัตรสวดมนต์ปฏิบัติธรรมตามตารางประจำวันที่กำหนด
  • ควรเป็นผู้สำรวมกาย มีมารยาทสงบเรียบร้อย กินง่าย อยู่ง่าย และใส่ใจบำเพ็ญเพียรอยู่ตลอดเวลา
  • ผู้ปฏิบัติธรรมถือศีล ๕ (รับประทานอาหาร ๓ มื้อ) หรือ สามารถเลือกถือศีล ๘ (รับประทานอาหาร ๒ มื้อ) ตามความสะดวก โดยทีมงานจะจัดเตรียมน้ำปานะให้
  • ผู้ปฏิบัติธรรมจะต้องเตรียมของใช้ส่วนตัวมาเองทั้งหมด สถานปฏิบัติธรรมจะมีเพียงที่นอน หมอน และผ้าห่มให้
  • สามารถใช้โทรศัพท์ได้ในช่วงเวลาว่างจากการปฏิบัติธรรม (ตามความเหมาะสม)
  • โปรดช่วยรักษาความสะอาดและดูแลรักษาสถานที่ กรุณาถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้า ปิดไฟ ปิดน้ำหรือปิดแอร์ หลังการใช้งานทุกครั้ง

DON'T

  • ห้ามนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดเข้ามาในสถานปฏิบัติธรรม และห้ามสูบบุหรี่ภายในสถานปฏิบัติธรรม
  • ห้ามนำคนนอก หรือผู้ติดตามเข้ามาภายในสถานปฏิบัติธรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต
  • งดใช้เครื่องประดับทุกชนิด ยกเว้นนาฬิกา และไม่ควรนำของมีค่าติดตัวมาสถานปฏิบัติธรรม หากสูญหายทางสถานปฏิบัติธรรมฯ จะไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น
  • ห้ามนำสัตว์เลี้ยงทุกชนิดเข้ามาภายในสถานปฏิบัติธรรม
  • ห้ามผู้ปฏิบัติกระทำการใด ๆ ที่ผิดต่อกฎหมายและจริยธรรม เช่น เล่นการพนัน
หมายเหตุ หากมีความจำเป็นต้องออกไปนอกสถานปฏิบัติธรรมก่อนเวลาที่กำหนดตามตารางกรุณาแจ้งสำนักงานกลางฯ ให้ทราบ
วิหารพุทธะ หรือ วิหารแก้ว

สร้างขึ้นจากแนวเสาที่ซ้อนผสมกันให้เห็นองค์พระแบบลางเลือนอยู่ภายใน ด้วยรูปแบบวิธีเดียวกับเจดีย์บุโรพุทโธ ในประเทศอินโดนีเซีย โดยมีโครงสร้างเสา ๓ แนว รองรับโครงหลังคา ๓ แบบที่ซ้อนกัน ซึ่งแต่ละชิ้นล้วนสร้างจากสัดส่วนของวัดไทย รวมทั้งแนวหลังคาที่โค้งอ่อนช้อย นับเป็นสถาปัตยกรรมไทยร่วมสมัยที่มีความงดงามอย่างยิ่ง วิหารพุทธะแห่งนี้ ได้รับรางวัลสถาปัตยกรรมดีเด่น ประจำปี ๒๕๕๗ ประเภทอาคารสถาบันหรืออาคารทางศาสนา “รางวัลผลงานสถาปัตยกรรมที่สมควรเผยแพร่” จัดโดยสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์

ศาลาธรรม

แบ่งออกเป็น ๒ ชั้น โดยชั้นล่างเป็นอาคารห้องสมุดธรรมะ มีหนังสือธรรมะทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ กว่า ๒,๐๐๐ เล่ม ภายในห้องสมุด ยังมีบริการคอมพิวเตอร์สำหรับค้นคว้าหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ขณะที่ชั้นที่ ๒ เป็นศาลาการเปรียญ สำหรับจัดกิจกรรมและนั่งสมาธิโดยแต่ละหลักสูตรจะมีคณะพระวิทยากร พระวิทยากรพิเศษมาบรรยาย และวิทยากรฝ่ายฆราวาสที่ผลัดเปลี่ยนกันมาให้แง่คิด คติธรรม ตามหลักสูตร

ศาลาทาน

เป็นอาคารสำหรับรับประทานอาหาร มีพื้นที่ ๙๖๐ ตารางเมตร สามารถรับรองได้ ๑๒๐ – ๑๓๐ คน ซึ่งตัวอาคารโดยรอบ เน้นเป็นกระจกเพื่อให้สามารถมองเห็นบรรยากาศด้านนอกได้แบบ ๑๘๐ องศา โดยภายในตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้สักอย่างดี ทำให้ผู้ที่อยู่ภายในอาคารซึมซับกับธรรมชาติ ได้อย่างเต็มที่

ลานโพธิ์

ลานกว้างตั้งอยู่ในกลางสถานปฏิบัติธรรม มีพระพุทธรูป “พระพุทธปัญญาธรรม” ประดิษฐานใต้ต้นโพธิ์เป็นสัญลักษณ์ให้ระลึกถึงการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าเป็นสถานที่เหมาะสมสำหรับการปฏิบัติธรรมนอกอาคาร บรรยากาศปลอดโปร่งสามารถใช้สำหรับเจริญพระพุทธมนต์ นั่งสมาธิ เดินจงกรม

ลานจักรวาล

เป็นบริเวณที่ประดิษฐานของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร หรือ พระแม่กวนอิม พระผู้ทรงเปี่ยมด้วยความรักความเมตตาต่อสรรพสัตว์ เป็นพระผู้เปี่ยมด้วยความกตัญญู และเป็นสัญลักษณ์แห่งเมตตามหาการุณย์ เพื่อโปรดสัตว์ให้หลุดพ้นจากห้วงทุกข์ เป็นหยกสีขาวทั้งองค์ ปาง ๔ หน้า ด้านหลังเป็นภูเขาสูง ใช้เป็นสถานที่ในการทำกิจกรรมทางพุทธศาสนาได้

ลานใจ

ลานกว้างปูพื้นด้วยหินแม่น้ำสีขาวครีม มีต้นไม้ล้อมรอบ ให้ความรู้สึกเรียบง่าย สงบเย็น เกิดสมาธิ เป็นสถานที่เหมาะสำหรับการปฏิบัติธรรมนอกอาคาร บรรยากาศปลอดโปร่ง และสามารถใช้สำหรับเจริญพระพุทธมนต์ นั่งสมาธิ เดินจงกรม

เรือนรับรอง

อยู่ท่ามกลางบรรยากาศริมน้ำ จำนวน ๑๐ หลัง โดยแต่ละเรือนได้รับการตั้งชื่อ โดยคุณศุภชัย เจียรวนนท์ ซึ่งใช้คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นชื่อของแต่ละเรือน ประกอบด้วย

  • ๑.เรือนสติ
  • ๒.เรือนศีล
  • ๓.เรือนสมาธิ
  • ๔.เรือนปัญญา
  • ๕.เรือนเมตตา
  • ๖.เรือนเรียน
  • ๗.เรือนเพียร
  • ๘.เรือนให้
  • ๙.เรือนสันติ
  • ๑๐.เรือนสุขแท้
โดยมีเรือนรับรองแบบมีเตียงนอนสำหรับผู้สูงอายุ ๑ - ๒ ท่าน ขณะที่เรือนรับรองแบบฟูกที่นอน สามารถรับรองได้ ๑-๓ คน ซึ่งภายในเรือนรับรองทุกหลัง มีห้องน้ำและอุปกรณ์เครื่องใช้ภายในห้องน้ำ

เรือนพักชาย

จำนวน ๒ หลัง ได้แก่ ผืนน้ำ และผืนดิน โดยแต่ละหลัง สามารถรับรองได้ ๒๐- ๓๐ คน มีห้องน้ำจำนวน ๖ ห้อง ห้องน้ำสำหรับคนพิการ จำนวน ๑ ห้อง ห้องอาบน้ำ จำนวน ๘ ห้อง และล็อกเกอร์สำหรับเก็บของจำนวน ๓๐ ชุด

เรือนพักหญิง

จำนวน ๒ หลัง ได้แก่ ผืนฟ้า และผืนใจ โดยแต่ละหลัง สามารถรับรองได้ ๒๐-๓๐ คน มีห้องน้ำจำนวน ๘ ห้อง ห้องน้ำสำหรับคนพิการ จำนวน ๑ ห้อง ห้องอาบน้ำ จำนวน ๘ ห้อง และล็อกเกอร์สำหรับเก็บของจำนวน ๓๐ ชุด

สำนักงานกลาง

เป็นอาคารสำหรับติดต่อประสานงานและศูนย์กลางการบริหารจัดการของสถานปฏิบัติธรรมธวีธรรม ซึ่งมีระบบรักษาความปลอดภัยต่างๆ เพื่อดูแลและอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้มาปฏิบัติธรรม รวมทั้งมีห้องพยาบาลพร้อมเตียงนอน และเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญในการดูแลและปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้แก่ผู้มาปฏิบัติธรรม