www.trueplookpanya.com
คลังความรู้
แนะแนว
ข่าวรับตรง
ธรรมะ




คลังความรู้ > สื่อพัฒนานอกระบบ > มัธยมต้น

โอ่งผ้าไทยในเชิงพาณิชย์
ทีมงานทรูปลูกปัญญา | 2009-09-07 13:52:20

หลักสูตรโอ่งผ้าไทยในเชิงพาณิชย์

ปรากฏการณ์ ณ โรงเรียนวัดบ้านใหม่
โรงเรียนวัดบ้านใหม่ ตั้งอยู่ที่ตำบลวัดแก้ว อำเภอบางแพ จังหวัดบางแพ จังหวัดราชบุรี สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาราชบุรี เขต ๒ เป็นโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา เปิดสอนใน ๓ ระดับ ได้แก่ ระดับก่อนประถมศึกษาประถมศึกษา และมัธยมศึกษาตอนต้น ให้ความสำคัญกับการจัดการศึกษาที่สอดคล้องกับความต้องการของชุมชนโดยนำภูมิปัญญาท้องถิ่นเข้ามาเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของการศึกษาจนประสบความสำเร็จ เป็นแบบอย่างที่ดีของการนำภูมิปัญญาเข้าสู่การศึกษาของชาติ โดยมีนายวุฒิ ภมร เป็นผู้อำนวยการโรงเรียน

ข้อค้นพบ : ต้นคิดของแนวทางการพัฒนา

เนื่องจากจังหวัดราชบุรีที่โรงเรียนเปิดทำการสอนอยู่เป็นจังหวัดที่มีภูมิปัญญาในด้านต่าง ๆ อย่างหลายหลายโดเฉพาะภูมิปัญญาด้านศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านนับว่ามีความโดดเด่าเป็นที่รู้จักในระดับชาติอาทิ การปั้นโอ่งมังกร และการทอผ้า เป็นต้น ศิลปหัตถกรรมการปั้นโอ่งเคยเป็นอาชีพที่มีความรุ่งเรืองสามารถยึดเป็นอาชีพที่มั่นคงต่อเนื่องมาอย่างยาวนาน แต่การพัฒนาประเทศที่มีความเจริญอย่างรวดเร็ว เนื่องจากน้ำสำหรับดื่มและใช้สอย มีระบบประปา ถังเก็บน้ำ และภาชนะเก็บน้ำในรูปแบบอื่นๆ เข้ามาแทนที่ ส่งผลให้อาชีพการปั้นโอล่งไม่สามารถยึดเป็นอาชีพที่มั่นคงได้เหมือนในอดีตที่ผ่านมา ประชาชนที่เคยประกอบอาชีพการปั้นโอ่งจึงพากันละทิ้งถิ่นฐานเข้าไปหางานทำในชุมชนเมืองหรือย้ายถิ่นไปประกอบอาชีพในจังหวัดอื่นๆ  ทำให้ภูมิปัญญาด้านศิลปหัตถกรรมการปั้นโอ่งถูกละเลยถึงความสำคัญที่เคยมีมาแต่ครั้งอดีต
การพัฒนานวัตกรรม

จากสภาพปัญหาดังกล่าว โรงเรียนวัดบ้านใหม่ตระหนักถึงปัญหาการล่มสลายทางภูมิปัญญาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จึงร่วมกันระดมความคิดในการแสวงหาวิธีการที่จะนำภูมิปัญญาดังกล่าวเข้าไปจัดการศึกษาเพื่อส่งเสริมให้เกิดการอนุรักษ์ สืบสานภูมิปัญญาการปั้นโอ่งให้คงดำรงอยู่ โดยต่อยอดภูมิปัญญาในการสร้างสรรค์และพัฒนาจากการเรียนรู้การปั้นโอ่งไปเป็นการเรียนรู้สู่การปฎิบัติเรื่องโอ่งผ้าไทยบูรณาการสอดแทรกในสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยีในเรื่องงานประดิษฐ์ ตั้งแต่ปีการศึกษา ๒๕๔๗ เป็นต้นมา โอ่งผ้าไทยที่พัฒนาต่อยอดปัญญามาจากการปั้นโอ่งดินเผาดังกล่าวนี้  เป็นการเรียนรู้ด้วยความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ด้วยการนำโอ่งดินเผามาปะติดด้วยผ้าไทยให้เป็นสินค้าอีกประเภทหนึ่งที่มีความแปลกใหม่ กลายเป็นที่นิยมของตลาดอย่างรวดเร็ว

ในการพัฒนานวัตกรรมหลักสูตรโอ่งผ้าไทยเชิงพาณิชย์ดังกล่าวนี้ ได้มีการนำวิธีการเชิงระบบเข้ามาใช้ในการพัฒนาใน ๔ ขั้นตอน ได้แก่
    ขั้นตอนที่ ๑ : ประชุมคณะกรรมการสถานศึกษา คณะครู ผู้นำชุมชน ผู้ปกครองนักเรียนช่วงชั้นที่ ๓ เพื่อชี้แจงนโยบายการจัตทำหลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติมสาระการเรียนรู้การงานพื้นฐานอาชีพ
    ขั้นตอนที่ ๒ : การสร้างหลักสูตรโอ่งผ้าไทยตามกระบวนการของการพัฒนาหลักสูตร ได้แก่ การกำหนดหลักการและเหตุผล วิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมาย โครงการหลักสูตร คำอธิบายรายวิชา หน่วยการเรียนรู้ ซึ่งมี ๗ หน่วย ได้แก่
    - แต่งโอ่งดินด้วยผ้าไหม           
    - เฉิดไฉไลบรรจุภัณฑ์
    - รู้ทันการพาณิชย์           
    - คิดร่างสร้างโครง
    - เชื่อมโยงสู่การขาย           
    - ฉายแววคุณธรรม
    - เลิศล้ำนิทรรศการ
แนวการจัดการเรียนการสอนใช้รูปแบบทักษะกระบวนการ เน้นทักษะกระบวนการปฎิบัติการแก้ปัญหาความรู้ความเข้าใจ การสร้างเจตคติ และกระบวนการกลุ่ม จากนั้นสร้างเอกสารประกอบหลักสูตร แผนการจัดการเรียนรู้ เครื่องมือแบบทดสอบ วัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
    ขั้นตอนที่ ๓  : การทดลองใช้หลักสูตรโอ่งผ้าไทยเชิงพาณิชย์ ในช่วงชั้นที่ ๓
    ขั้นตอนที่ ๔  :  การศึกษาผลการใช้หลักสูตรโอ่งผ้าไทยในเชิงพาณิชย์

บทสรุปของความสำเร็จ
ความสำเร็จสูงสุดที่เกิดขึ้นจากนวัตกรรมโอ่งผ้าไทยที่ปรากฏเด่นชัด ก็คือ
    ด้านการศึกษา : ได้พัฒนาหลักสูตรที่มีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผลให้สอดคล้องกับความต้องการท้องถิ่น รายวิชาเพิ่มเติมสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ช่วงชั้นที่ ๓ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒
    ด้านครู  : คิดค้นพัฒนานวัตกรรมเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ให้สามารถนำความรู้ในโรงเรียนไปปรับใช้ได้ในวิถีชีวิตจริง
    ด้านผู้เรียน : เกิดกระบวนการเรียนรู้แนวใหม่ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญได้เรียนรู้ ได้ฝึกปฎิบัติ ข้อสำคัญเป็นการเรียนรู้ที่มีโอกาส ได้คิด จึงทำให้ คิดได้ มีโอกาส ได้ทำ จึง ทำได้
    ด้านชุมชน : อาชีพการเป็นโอ่งได้กลับมาเป็นอาชีพที่สร้างความมั่นคงได้อีกครั้งหนึ่ง โดยความร่วมมือระหว่างโรงเรียนและชุมชนที่ร่วมกันพัฒนาต่อยอดภูมิปัญญาด้านการศึกษาและอาชีพให้เดินเคียงข้างไปสู่อนาคตด้วยความมั่งคั่งและมั่นคง
ความสำเร็จที่เกิดขึ้นที่โรงเรียนวัดบ้านใหม่ เป็นข้อพิสูจน์อย่างเด่นชัดว่าโรงเรียนมีบทบาทสำคัญยิ่งในการสืบสาน สร้างสรรค์ และพัฒนาภูมิปัญญาดั้งเดิมของชาติให้คงดำรงอยู่ได้ในปัจจุบัน