วันออกพรรษา
ทีมงานทรูปลูกปัญญา | 2009-08-26 16:47:44
วันออกพรรษา
วันออกพรรษา กำลังจะมาถึงในวันที่ 18 ตุลาคม (2548) นี้แล้ว ถ้าจะถามถึงความหมายของวันสำคัญนี้กับพุทธศาสนิกชน ส่วนใหญ่ก็จะตอบได้ตรงกันว่า คือวันที่พระภิกษุสงฆ์ พ้นจากกำหนดที่ต้องจำพรรษาอยู่ประจำที่ตามพระวินัยกำหนด พ้นจากนี้แล้วพระภิกษุท่านก็สามารถจะจาริกไปแรมคืนที่อื่นได้ ความจริงยังมีความสำคัญเกี่ยวกับวันออกพรรษาอีกหลายประการที่ไม่ค่อยมีใครกล่าวถึง อาจจะเนื่องด้วยเห็นว่าเป็นกิจของสงฆ์ แต่ถ้าคิดดูให้ดีจะพบว่า คนทั่วไปหรือฆราวาสสามารถจะนำสังฆกิจนั้นมาประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวัน นอกเหนือจากการทำบุญตักบาตรรักษาศีลฟังธรรมได้ อย่างน้อยที่สุดคือการทำปวารณา ซึ่งมีที่มาจากในสมัยพุทธกาล พระภิกษุได้แยกย้ายกันจำพรรษาตามอารามต่างๆ รอบนครสาวัตถีและได้ตั้งกติกาว่าจะไม่พูดกัน ใครมีธุระอะไรก็ทำไป ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการกระทบกระทั่ง ขัดแย้งกัน จะได้อยู่เป็นสุขตลอดพรรษา เมื่อถึงวันออกพรรษาพระภิกษุทั้งหลายได้ไปเฝ้าพระพุทธเจ้าที่ประทับจำพรรษาอยู่ ณ. เชตวันมหาวิหาร กรุงสาวัตถี กราบทูลเรื่องทั้งหมดให้ทรงทราบ พระพุทธเจ้าทรงตำหนิว่าอยู่กันเหมือนแพะ แกะ ฝูงปศุสัตว์ แล้วทรงมีพุทธานุญาตให้พระภิกษุกระทำปวารณาต่อกันในสามลักษณะ คือด้วยการเห็นก็ดี ด้วยการได้ยินก็ดี ด้วยการสงสัยก็ดี ดังนั้น ในวันออกพรรษา พระภิกษุจึงกระทำปวารณาต่อกัน
“ปวารณา” คือ การเปิดโอกาสให้ผู้อื่นว่ากล่าวตักเตือนตนเองได้โดยไม่โกรธเคืองกัน ผู้ว่ากล่าวจะต้องตักเตือนด้วยความมีเมตตาทั้งกาย วาจา ใจพร้อมมูล ตักเตือนผู้อื่นด้วยความปรารถนาดี ผู้ถูกว่ากล่าวตักเตือนก็ต้องมีใจกว้าง มองเห็นความปรารถนาดีของผู้ว่ากล่าวตักเตือน ดีใจดังมีผู้มาบอกขุมทรัพย์ให้ การปวารณานี้เองเป็นคุณธรรมที่ถึงแม้จะเป็นกิจที่สงฆ์กระทำในวันออกพรรษา แต่ฆราวาสทั่วไปก็อาจนำมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์กับครอบครัวและสังคมของตนได้เป็นอย่างดี
เรียบเรียงจาก : ชีวิตไทยชุดบรรพบุรุษของเรา : สวทช : 2540
ข้อมูลจาก : บทความพิเศษ ประกอบรายการของสถานีวิทยุ อสมท. เรื่อง "วันออกพรรษา" ผลิตโดย ส่วนสนับสนุนการผลิตวิทยุ งานบริการการผลิต ฝ่ายออกอากาศวิทยุ กรุงเทพ