วันอนามัยโลก

 เป็นเวลาหลายร้อยปีแล้วที่มนุษย์เรามีการเดินทางติดต่อระหว่างกัน  จะใกล้บ้าง ไกลบ้างก็สุดแล้วแต่จุดประสงค์  และข้อจำกัดในเส้นทางคมนาคม   และยิ่งนับวันที่พัฒนาการทางการขนส่ง และการสื่อสารเจริญก้าวหน้าขึ้นเพียงใด   ผู้คนจากทุกภูมิภาคของโลกก็ยิ่งมีการเดินทางติดต่อระหว่างกันมากขึ้นเพียงนั้น  บางคนอาจจะไปทำธุรกิจ   บางคนอาจไปเพื่อแสวงหาถิ่นที่อยู่ใหม่ที่ตนพอใจ      ซึ่งถ้าจะว่าไปแล้วก็เกิดผลดีต่อสังคมโลก  เพราะคนทุกชาติ ทุกเผ่าพันธุ์จะมีความเป็นมิตรต่อกัน  พึ่งพากันได้  ประกอบธุรกิจด้วยกันได้    แต่ข้อเสียก็มีอยู่ตรงที่ว่า  มนุษย์อาจเป็นพาหะนำโรคภัยจากที่หนึ่งไปสู่อีกที่หนึ่งได้ด้วยเช่นกัน  แต่ละชาติ หรือแต่ละประเทศจึงต้องร่วมมือกันให้คนของตนตรวจสุขภาพเสียก่อนจะเดินทางเข้าประเทศอื่น  นี่เป็นตัวอย่างความร่วมมือระหว่างชาติในเรื่องของสุขภาพอนามัย   จนกระทั่งในปี พ.ศ. ๒๔๙๑  “องค์การอนามัยโลก”  ( World Health Organization)  มีชื่อเรียกอย่างย่อว่า WHO  ซึ่งเป็นทบวงการชำนาญพิเศษอันมีสัมพันธ์กับสหประชาติจึงได้ก่อตั้งขึ้น   ด้วยวัตถุประสงค์ที่จะคุ้มครองและส่งเสริมสุขภาพอนามัยของประชาชนทั่วโลก  และรับงานด้านสุขภาพอนามัยจากชาติต่างๆ ที่มีความช่วยเหลือกันอยู่ก่อนหน้านั้นแล้วมาดำเนินการต่อ จากความมุ่งหมายเดิมคือช่วยกันหยุดยั้งการระบาดของโรคต่างๆ  จนปัจจุบันความร่วมมือนี้ได้ขยายกว้างออกไปมากจนถึงมีการศึกษา- วิจัย และแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับการคุ้มครอง  ส่งเสริมสุขภาพอนามัยของประชาชนเพื่อยกระดับสุขภาพอนามัยในทุกที่ทุกแห่งของโลกให้ดีขึ้น  ทั้งนี้ก็เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งองค์การฯที่เขากำหนดไว้สามข้อ  ได้แก่

๑. เพื่อช่วยเหลือประชาชนทั่วโลกให้มีพลานามัยอยู่ในระดับสูงสุดเท่าที่สามารถจะทำได้ทั้งในร่างกายและจิตใจ
๒. เพื่อประสานงานส่งเสริมการอนามัยระหว่างชาติ  และร่วมมือกับรัฐบาลประเทศสมาชิก  ในการดำเนินงานตามโครงการอนามัยต่าง ๆ รวมทั้งกำหนดมาตรฐานยา  และวัคซีน
๓. เพื่อให้บริการทางวิชาการในด้านอนามัยระหว่างประเทศและส่งเสริมการวิจัยทางการแพทย์

และสหประชาชาติก็ได้กำหนดให้วันที่ ๗ เมษายนของทุกปี เป็น “วันอนามัยโลก”  เพื่อให้ประเทศสมาชิกทั้งหลายได้ใช้เป็นโอกาสสำหรับรณรงค์ให้ประชาชน  และทุกภาคส่วนของสังคมได้ตระหนักถึงความสำคัญของสุขภาพ  ได้ร่วมมือกันในการควบคุม  ป้องกัน และแก้ไขปัญหา รวมทั้งสร้างเสริมสุขภาพของประชาชนอย่างทั่วถึงและอย่างเท่าเทียมกัน

และเนื่องจากปัจจุบันนี้ ทั่วโลกกำลังมีอันตรายจากโรคระบาดหลายโรค  ได้แก่  ซาร์ส  และไข้หวัดนก  เป็นต้น จึงขอเชิญชวนมายังทุกท่านซึ่งต่างก็มีฐานะเป็นพลโลก  ได้ใช้โอกาสแห่งวันอนามัยโลกที่เวียนมาถึงนี้ ร่วมกันระมัดระวัง และป้องกันการเกิดโรคให้เต็มที่โดยเริ่มจากตนเองและครอบครัวก่อน  การกิน การอยู่ภายในครอบครัวดูแลให้เป็นไปอย่างถูกหลักสุขภาพและอนามัย   จากนั้นก็ช่วยดูแลเพื่อนร่วมชาติบ้างตามสมควรถ้ามีความพร้อม  แต่ถ้าไม่พร้อมในการช่วยเหลือผู้อื่น  สิ่งหนึ่งที่เป็นการช่วยโลกในเรื่องนี้ได้ก็คือไม่นิ่งดูดาย  พบสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่อาจเป็นสาเหตุให้เกิดโรคระบาดให้รีบแจ้งทางการได้ทราบโดยทันที

ที่มา 
- ๗  เมษายน  วันอนามัยโลก :  สนเทศน่ารู้  :  สำนักงานหอสมุดกลาง  มหาวิทยาลัยรามคำแหง
- https://www.google.co.th/

ข้อมูลจาก : บทความพิเศษ ประกอบรายการของสถานีวิทยุ  เรื่อง "วันอนามัยโลก"  ผลิตโดย  งานบริการการผลิต  ส่วนสนับสนุนการผลิตวิทยุ  ฝ่ายออกอากาศวิทยุกรุงเทพ