www.trueplookpanya.com
คลังความรู้
แนะแนว
ข่าวรับตรง
ธรรมะ




คลังความรู้ > หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม > ป.3

ประเพณีไหว้พระจันทร์
ทีมงานทรูปลูกปัญญา | 2009-08-25 17:33:43

ประเพณีไหว้พระจันทร์

เป็นเวลานานเท่าใดแล้วก็ไม่รู้ ที่ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ ซึ่งโบราณเรียกว่าพระอาทิตย์และพระจันทร์นั้น ทำหน้าที่ให้แสงสว่าง, ให้ความอบอุ่น และอำนวยประโยชน์ให้แก่มนุษย์โลกได้อยู่อย่างมีความสุข ทำมาหากินได้อย่างอุดมสมบูรณ์

สมัยก่อนมนุษย์ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพกสิกรรมจึงเห็นบุญคุณของธรรมชาติและมีความเชื่อในสิ่งที่มองไม่เห็น ต่างพากันจัดพิธีกรรมนำพืชผลแรกได้ของตนมาเซ่นไหว้ สังเวย เป็นการแสดงความขอบคุณและเอาอกเอาใจให้สิ่งที่มองไม่เห็นนั้นพอใจ  ดูแลช่วยเหลือตนและครอบครัวให้ได้ผลผลิตมากและอยู่โดยปราศจากเภทภัยใด ๆ  เทศกาลไหว้พระจันทร์ของชนชาติในอาเซียนที่ส่วนใหญ่เป็นกสิกรจึงเกิดขึ้น โดยนัยนี้และสืบทอดเป็นประเพณีต่อมา โดยจีนจะถือวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ถ้าตามของไทยก็จะเป็นเดือนสิบอันเป็นช่วงที่เก็บเกี่ยวกันเรียบร้อยแล้ว ทำพิธีสักการะขอบคุณต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย นับตั้งแต่แม่พระธรณี พระพิรุณและพระพาย ที่ได้ช่วยให้การทำกสิกรรมของตนสำเร็จลุล่วงได้ผลดี  ในโอกาสนี้ชาวจีนซึ่งมีตำนานความเชื่อว่าในดวงจันทร์หรือในพระจันทร์นั้นมีกระต่ายซึ่งเป็นผู้ก่อให้เกิดพืชพรรณต่าง ๆ อาศัยอยู่ และถือว่าดวงจันทร์คือเทพเจ้าที่มีความสำคัญต่อชีวิตความเป็นอยู่ของมนุษย์อย่างมาก  ก็จะทำพิธีไหว้พระจันทร์ด้วย  เรื่องกระต่ายในดวงจันทร์นี้บางตำนานก็บอกว่าในดวงจันทร์นั้นมีผู้หญิงสาวสวยชื่อ ซังโอ๋ อาศัยอยู่ นางซังโอ๋ผู้นี้ขโมยน้ำอมฤตของไซอ้วงบ้อมากินทำให้คงความเป็นอมตะไม่แก่ไม่ตาย พอถึงฤดูหนาวก็จะนำน้ำอมฤตลงมาประพรมให้แก่โลกทำให้ต้นข้าวเจริญงอกงามและให้ผลผลิตดี  จึงเป็นที่มาของการนำข้าวที่ปลูกได้มาทำขนมโก๋เลี้ยงดูพระจันทร์เป็นการขอบคุณ

การไหว้พระจันทร์จะเป็นหน้าที่ของฝ่ายหญิงเป็นผู้ทำพิธีเพราะเชื่อว่าพระจันทร์เป็นสัญลักษณ์ของผู้หญิง ของไหว้ที่สำคัญจะประกอบด้วยส้มโอและหัวเผือก โดยหลังจากเสร็จสิ้นการไหว้แล้วส้มโอจะเป็นผลไม้เสี่ยงทาย ด้วยการผ่าออกดูตรงกลางผลถ้ากลางผลส้มโอแห้งไม่มีน้ำถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี ทั้งยังมีความเชื่อว่าถ้าหญิงสาวที่ยังโสดนำชิ้นส่วนของส้มโอมาถูหน้าแล้วจะทำให้ผิวพรรณผุดผ่อง และถ้ากินเนื้อส้มโอดวงตาจะสุกใสเป็นประกายสวยงาม   ส่วนเผือกนั้นเชื่อว่ากินแล้วจะกำจัดโรคผิวหนังให้หมดไป  การนำส้มโอและเผือกมาใช้ในพิธีไหว้พระจันทร์ยังมีความเกี่ยวเนื่องกับการกู้ชาติของจีนด้วย กล่าวคือ  ในสมัยที่เจงกิสข่าน แห่งมองโกลได้เข้าปกครองจีนในสมัยปลายราชวงศ์หยวน พ.ศ. 1911 ครั้งนั้นเจงกิสข่าน  ปกครองชาวจีนอย่างเข้มงวด ครอบครัวหนึ่ง ๆ จะมีมีดปังตอไว้ใช้ได้เพียง 1 เล่มเท่านั้น เป็นการกำจัดอาวุธไม่ให้ชาวจีนมีโอกาสแข็งข้อนั่นเอง  ชาวจีนจึงต้องดำเนินการแบบใต้ดินเพื่อกู้ชาติ ด้วยวิธีเขียนหนังสือนัด-แนะให้ลงมือกำจัดชาวมองโกลในคืนวันเพ็ญเดือน 8 แล้วยัดใส่ขนมไหว้พระจันทร์ ซึ่งเป็นขนมหวานรูปทรงกลมแจกจ่ายกันไปดูคล้ายการให้ของขวัญกันธรรมดา มองโกลจะได้ไม่สงสัย ซึ่งกลอุบายนี้ได้ผล สามารถฆ่ามองโกลล้มตายลงมาก จนเจงกิสข่านต้องยกทัพออกมาปราบ จีนตกอยู่ในอำนาจมองโกลนานถึง 88 ปี ในภายหลังจึงกำหนดใช้วันเพ็ญเดือน 8 ซึ่งเป็นวันที่นัดแนะกันกู้ชาติ ทำพิธีไหว้พระจันทร์มี ส้มโอและหัวเผือกเซ่นไหวเป็นสัญลักษณ์แทนศรีษะของคณะกู้ชาติที่ถูกเจงกิสข่านสังหาร

ประเพณีไหว้พระจันทร์หรือชมพระจันทร์ของจีนเข้าสู่ญี่ปุ่น ตั้งแต่สมัยเฮอิอันระหว่างศตวรรษ 8-12 โดยในเทศกาลดังกล่าว ครอบครัวชาวญี่ปุ่นจะใช้โต๊ะสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ที่สวยงามวางสิ่งของถวายเทพเจ้า สถานที่ตั้งจะอยู่ในที่ที่มองเห็นพระจันทร์ได้ชัดเจน ของถวายเทพเจ้าก็จะมีก้อนแป้งข้าว หัวเผือก ลูกพลับ เป็นต้น แล้วจะมีแจกัน ปักประดับด้วยหญ้าตระกูลอ้อ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของฤดูใบไม้ร่วงด้วยฉลองฤดูใบไม้ร่วง ชาวสิงคโปร์จะไหว้พระจันทร์ด้วยขนมไหว้พระจันทร์แบบเดียวกับที่เมืองไทยทำขาย  และมีผลไม้หลักเหมือนกันกับจีน คือเผือกกับส้มโอ กับมีโคมไฟที่ประดิษฐ์หรือตกแต่งอย่างสวยงาม  สำหรับเมืองไทยของเรานั้น พอใกล้ถึงวันไหว้พระจันทร์ ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 18 กันยายน  บรรยากาศทั่วไปก็จะคึกคักด้วยมีข้าวของเครื่องใช้ในการประกอบพิธีจำหน่ายอยู่ทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในย่านเยาวราช  เจริญกรุง  เขตสัมพันธวงศ์ เพราะเป็นแหล่งที่พักอาศัยของชาวไทยเชื้อสายจีนเป็นจำนวนมาก คนไทยที่ถึงแม้จะไม่ได้ไหว้พระจันทร์แต่ก็จะมีส่วนอุดหนุนขนมไหว้พระจันทร์กันด้วยความเต็มอกเต็มใจยิ่ง คนจีนนั้นเขามีวัฒนธรรมเข้มแข็งไม่ว่าจะไปอยู่ในที่ใดของโลก สิ่งที่จะติดตัวไปด้วยตลอดและพร้อมจะเผยแพร่ให้ผู้อื่นอยู่เสมอคือวัฒนธรรมประเพณีของเขา อยากเห็นคนไทยภาคภูมิใจและพร้อมจะเผยแพร่วัฒนธรรมของไทยในทุกแห่งที่ไปอยู่บ้าง


เรียบเรียง - คู่มือท่องเที่ยวไชน่าทาวน์ : ประวิทย์  พันธุ์วิโรจน์ : 2545
              - สกุลไทย : 2539


ข้อมูลจาก : บทความพิเศษ ประกอบรายการของสถานีวิทยุ อสมท. เรื่อง "ประเพณีไหว้พระจันทร์" ผลิตโดย ส่วนสนับสนุนการผลิตวิทยุ งานบริการการผลิต ฝ่ายออกอากาศวิทยุ กรุงเทพ