www.trueplookpanya.com
คลังความรู้
แนะแนว
ข่าวรับตรง
ธรรมะ




คลังความรู้ > หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม > ประถมต้น

วันเด็กกับอนาคตของชาติ
ทีมงานทรูปลูกปัญญา | 2009-08-25 17:20:48

วันเด็กกับอนาคตของชาติ

หลังจากฉลองปีใหม่กันไปไม่นาน เด็ก ๆ ยังจะมีกิจกรรมสนุก ๆ ได้อีกรอบหนึ่งในงานวันเด็กแห่งชาติ
ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 14 มกราคม 2548  ที่ทุกปีทั้งภาครัฐและเอกชนต่างก็จะจัดงานใหญ่โต  มีกิจกรรมที่ให้ทั้งความสนุกสนานเพลิดเพลินและให้ทั้งความรู้ในกิจการต่าง ๆ ที่โดยปกติเด็กไม่ค่อยจะมีโอกาสได้สัมผัสใกล้ชิดมาให้เด็กได้เข้าร่วม   ถือเป็นการสร้างเสริมประสบการณ์ชีวิตให้กับเด็กในวัยอยากรู้อยากเห็นสิ่งแปลกใหม่ โดยธรรมชาติอยู่แล้ว    ทั้งนี้ เนื่องจากทุกฝ่ายตระหนักถึงความสำคัญของเด็กที่ในอนาคตเขาจะเติบโตและเป็นผู้สืบทอดทุกสิ่งทุกอย่างจากผู้ใหญ่ในวันนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ  และเห็นความจำเป็นที่จะต้องพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กและเยาวชนให้เกิดคุณลักษณะ 6 ประการ ดังที่บรรจุไว้ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 9 อันประกอบด้วย

     1. มีความผูกพันในครอบครัว  ภาคภูมิใจในความเป็นไทย มีทักษะในอาชีพและดำรงชีวิตที่รู้จักเคารพสิทธิของผู้อื่น
     2. มีสุขภาพและพลานามัยแข็งแรง   รู้จักการป้องกันตนเองจากโรคและสิ่งเสพติด
     3. มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ จริยธรรม  คุณธรรม  และมีพฤติกรรมด้านความรับผิดชอบตามวัย
     4. มีเจตคติที่ดีต่อการทำงาน มีศักดิ์ศรีและความภูมิใจในการทำงานสุจริต
     5. รู้จักคิดอย่างมีเหตุผลรอบด้าน และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
     6. รู้จักช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส และมีส่วนร่วมเพื่อการพัฒนาชุมชนและประเทศชาติ

นอกจากนั้นหลายฝ่ายที่ทำงานเกี่ยวข้องกับเด็กยังได้ก็พยายามคิดหาทางป้องกันและแก้ปัญหาที่จะมีผลกระทบกับเด็กและเยาวชน  ซึ่งพบว่า  “การสร้างความรักความเข้าใจภายในครอบครัว”  เป็นภูมิคุ้มกันที่ดีที่สุดสำหรับป้องกันไม่ให้เด็กทำตัวไม่ดี

เป็นความจริงที่ว่า ครอบครัวแม้เป็นสถาบันเล็กสุดในสังคม แต่กลับมีความสำคัญต่อการหล่อหลอมทรัพยากรมนุษย์ คือเด็กให้ดีหรือไม่ดีได้เป็นอย่างมาก   เพราะโดยธรรมชาติเด็กไม่ได้เกิดมาพร้อมกับความรู้ในการดำรงตน  เด็กจะมาเรียนรู้สิ่งต่างๆ ในภายหลังจากสิ่งแวดล้อมใกล้ตัว เช่น พ่อ-แม่  ดังนั้นพ่อ-แม่จะมีเพียงความรัก ความหวังดีเลี้ยงลูกให้รอดชีวิตและมีสุขภาพดีเท่านั้น จึงไม่เพียงพอ หากจะต้องเป็นพ่อ-แม่ที่เสียสละความสุขส่วนตัวและเสียสละเวลาในการฝึกฝน อบรมลูกด้วยการประพฤติตัวเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูกด้วย จึงขอเสนอแนะแนวคิดและวิธีปฏิบัติไว้ดังนี้

ปลูกฝังความรักความผูกพันต่อกัน  เพื่อสร้างความมั่นใจในความมั่นคง และปลอดภัย
          - แสดงความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันระหว่างพ่อแม่   ไม่ขัดแย้ง  ทะเลาะเบาะแว้งกัน
          - แสดงออกถึงความรักความเมตตาให้เขาเห็นว่าทุกคนสำคัญต่อครอบครัว
          - ปัญหาของลูก เรื่องที่ลูกอยากพูดคุยเป็นสิ่งที่พ่อแม่ต้องให้ความสำคัญ มีเวลาให้เสมอในการรับฟัง และพร้อมที่จะช่วยเหลือเมื่อลูกต้องการความช่วยเหลือ
          - มีความเห็นใจ  เข้าใจ ไม่ตีโพยตีพายเมื่อลูกทำผิด และแสดงความพร้อมที่จะแก้ปัญหาด้วยกันอย่างสุขุมรอบคอบ

ปลูกฝังความอดทน  เพื่อให้เด็กรู้จักระงับอารมณ์อันจะเป็นเกราะป้องกันความเครียดและมีความสามารถในการรับความไม่สมหวังที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต
          - แนะนำให้เด็กร่วมกิจกรรมที่ต้องใช้ความอดทน และรอคอยเพื่อให้ได้ผลคุ้มค่า เช่นการสะสมของที่ระลึก   ให้เก็บออมเงินไว้ซื้อของที่ตัวเขาอยากได้ หรือฝึกลูกสุนัขเป็นต้น เมื่อใดที่เด็กทำท่าจะหมดความอดทนก็คอยให้ความช่วยเหลือและกระตุ้นให้เด็กมีมานะเพื่อได้รับผลอย่างที่มุ่งหวัง
          - เมื่อเด็กมีมานะอดทนทำสิ่งใดได้สำเร็จ ควรแสดงความชื่นชมกับเขา  อย่ารีรอที่จะชมเชย  การแสดงความพอใจ ความภูมิใจในตัวเขาจะเป็นแรงกระตุ้นที่ดีมาก
          - แสดงอารมณ์ที่เยือกเย็นแม้ในภาวะที่เร่งรีบเช่นการจราจรติดขัดก็ไม่แสดงกิริยาวาจาไม่สมควรหรือทำผิดกฎกติกาสังคม

ปลูกฝังความมีระเบียบวินัย  เพื่อสร้างลักษณะนิสัยให้เป็นผู้เคารพกติกาของสังคมและ สามารถอยู่ในสังคมได้อย่างดีในอนาคต
          - ครอบครัวที่มีกฎระเบียบจะทำให้ลูกเคารพ และเชื่อฟังพ่อแม่   เคารพต่อการลงโทษ ในกรณีที่เขาฝ่าฝืนกฎระเบียบที่ตั้งไว้  ดังนั้นการตั้งกฎระเบียบของครอบครัวควรมีความชัดเจน  เข้าใจง่าย  และข้อสำคัญพ่อแม่ต้องทำตัวให้เป็นแบบอย่างที่ดีด้วย ไม่เช่นนั้นจะเหมือนแม่ปูสอนลูกปู และไม่บังเกิดผลดี
          - ต้องรักษาคำพูด รักษาสัญญาที่ให้กับเด็ก เมื่อใดที่ไม่สามารถทำตามสัญญาต้องคุยกันด้วยเหตุผลที่เขาสามารถรับได้

ปลูกฝังความรู้จักคิดอย่างมีเหตุผล  
          - มีการพูดคุย บอกเล่าเรื่องราว/ประสบการณ์ที่ต่างได้พบหรือทำนอกบ้านต่อกัน และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันภายในครอบครัว
          - ทุกคนในครอบครัวสามารถเสนอความเห็นของตนในเรื่องของครอบครัวอย่างมีเหตุผล
          - ถ้าไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของเด็ก พ่อ-แม่ต้องพูดคุยอธิบายเหตุผลให้เข้าใจ   ถ้าเห็นด้วยก็ชมเชยความคิดเห็นและอนุญาต

ปลูกฝังนิสัยในการทำงาน
          - มอบหมายงานบ้านเล็กๆ น้อยๆ ให้รับผิดชอบ
          - ให้มีกิจกรรมที่ต้องทำงานร่วมกันและชื่นชมผลงานที่ร่วมกันทำ เช่นปลูกต้นไม้   จัดบ้าน หรือสร้างที่อาศัยให้สัตว์เลี้ยงเป็นต้น  จะเป็นการถ่ายทอดประสบการณ์การทำงานร่วมกับผู้อื่น  เป็นคนทำงานเป็นและมีความรับผิดชอบต่อการงานในอนาคต  ปลูกฝังคุณธรรมและจริยธรรม
          - ให้มีส่วนร่วมกับครอบครัวทำกิจกรรมทางศาสนา  เช่นพากันไปทำบุญ
          - แสดงความชื่นชมต่อคนที่มีความประพฤติดี  ทำดีต่อผู้อื่นและประเทศชาติให้เขาเห็น
          - ช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสและสังคมตามกำลังความเหมาะสม
          - ให้ความชัดเจนต่อสิทธิของตนและสิทธิของผู้อื่น

“วันเด็ก”  เด็กจะมีความสุขสนุกสนาน และรับความรู้เท่าที่วัยของเขาอำนวยให้ แต่สำหรับผู้ใหญ่แล้วมิใช่มีหน้าที่เพียงจัดงานหรือพาเด็กไปเที่ยวชมงานเท่านั้น หากแต่จะต้องนำพาเด็กให้เดินทางในวิถีอนาคตที่งดงามด้วย ดังพระบรมราโชวาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ได้พระราชทานลงพิมพ์ ในหนังสือวันเด็ก ประจำปี 2522 ที่ว่า

“เด็กเป็นผู้ที่จะได้รับช่วงทุกสิ่งทุกอย่างต่อจากผู้ใหญ่ รวมทั้งภาระรับผิดชอบในการธำรงรักษาอิสรภาพและความสงบสุขของบ้านเมือง  ดังนั้น เด็กทุกคนจึงสมควรและจำเป็นที่จะต้องได้รับการอบรมเลี้ยงดูอย่างถูกต้องเหมาะสม ให้มีความสามารถสร้างสรรค์ ประโยชน์ต่าง ๆ พร้อมทั้งการฝึกหัดขัดเกลาความคิดจิตใจให้ประณีต ให้มีศรัทธามั่นคงในคุณความดี มีความประพฤติเรียบร้อยสุจริต และมีปัญญาฉลาดแจ่มใสในเหตุในผล หน้าที่นี้เป็นของทุกคน ที่จะต้องร่วมมือกันกระทำโดยพร้อมเพรียงสม่ำเสมอ ผู้ที่เกิดก่อน  ผ่านชีวิตมาก่อน จะต้องสงเคราะห์อนุเคราะห์ผู้เกิดตามมาภายหลัง ด้วยการถ่ายทอดความรู้  ความดี และประสบการณ์อันมีค่าทั้งปวงให้ด้วยความเมตตาเอ็นดูและด้วยความบริสุทธิ์ใจ ให้เด็กได้ทราบ ได้เข้าใจ และสำคัญที่สุด ให้รู้จักคิดด้วยเหตุผลที่ถูกต้อง จนสามารถเห็นจริง
ด้วยตนเองได้ในความเจริญและความเสื่อมทั้งปวง  โดยนัยนี้ บิดามารดาจึงต้องสอนบุตรธิดา พี่จึงต้องสอนน้อง คนรุ่นใหญ่จึงต้องสอน
คนรุ่นเล็ก และเมื่อคนรุ่นเล็กเป็นผู้ใหญ่ขึ้น จึงต้องสอนคนรุ่นต่อๆไป ไม่ให้ขาดสาย   ความรู้  ความดี  ความเจริญงอกงามทั้งมวล จึงจะแผ่ไพศาลไปได้ ไม่มีประมาณ เป็นพื้นฐานของความพัฒนาผาสุกอันยั่งยืนสืบไป”


เรียบเรียงจาก   
- ข่าววัฒนธรรม สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ : 2547 
- ข่าวสารกรมสุขภาพจิต : มิถุนายน 2548
- หนังสือวันเด็ก ประจำปี 2522


ข้อมูลจาก : บทความพิเศษ ประกอบรายการของสถานีวิทยุ อสมท. เรื่อง "วันเด็กกับอนาคตของชาติ" ผลิตโดย งานบริการการผลิต ส่วนสนับสนุนการผลิตวิทยุ  ฝ่ายออกอากาศวิทยุ กรุงเทพ