ข้อสอบ Reading Comprehension เป็นข้อสอบวัดความเข้าใจในการอ่าน มักจะปรากฏอยู่เป็นจำนวนมากในทุกๆ ข้อสอบ เนื่องจากทักษะการอ่านนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการศึกษาในระดับที่สูงขึ้น ลักษณะข้อสอบที่พบมากที่สุดในข้อสอบ Reading Comprehension คือ Reading Passage และมักจะเป็น Passage ที่ค่อนข้างยาวทั้งสิ้น

การอ่าน Passage เป็นทักษะที่ปรากฏในข้อสอบภาษาอังกฤษมากที่สุดและพบในทุกๆ ข้อสอบภาษาอังกฤษทั่วโลก นอกจากนี้ยังเป็นส่วนที่มีน้ำหนักคะแนนมากที่สุดอีกด้วย การทำข้อสอบ Reading Passages นั้น นักเรียนจำเป็นต้องมีความรู้ทั้งด้านคำศัพท์ ไวยากรณ์ การอ่าน และการวิเคราะห์ อีกทั้งข้อสอบที่มีปริมาณมากทำให้ต้องแข่งกับเวลาที่จำกัด นักเรียนจึงต้องมีทักษะในการบริหารจัดการเวลาอีกด้วย Reading Passages จึงถือเป็นทักษะที่ยากที่สุดทักษะหนึ่งในการทำข้อสอบภาษาอังกฤษก็ว่าได้

 

ลักษณะคำถามในข้อสอบ Reading Passages มี 3 แบบ คือ 

1. คำถามที่เราสามารถหาคำตอบได้เลยโดยไม่ต้องวิเคราะห์ เนื่องจากคำตอบนั้นมีอยู่ในเนื้อเรื่องชัดเจนแล้ว

2. คำถามที่เราต้องวิเคราะห์ข้อมูลหรือตีความข้อมูลจาก Passage เพื่อหาคำตอบเอง ข้อสอบภาษาอังกฤษโดยทั่วไปมักจะมีคำถามประเภทนี้ค่อนข้างมาก

3. คำถามที่เราต้องอาศัยความรู้รอบตัวและประสบการณ์ส่วนตัวเพื่อหาคำตอบ

 

เทคนิคที่เป็นประโยชน์ต่อการทำข้อสอบ Reading Comprehension

1. Paraphrase

การซ้ำคำพูดใหม่ด้วยคำอื่นหรือประโยคแบบอื่น เป็นการเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ที่ยังคงความหมายของประโยคเดิมแต่ทำให้เข้าใจความหมายง่ายขึ้น ทักษะนี้จะช่วยให้นักเรียนแปลความหมายของประโยคหรือเนื้อความต่างๆ ได้ดีขึ้น ตัวอย่างเช่น

Lila was 15 minutes late. Matthew had left when he arrived.

ประโยคข้างต้นมีความหมายเช่นเดียวกับประโยคดังต่อไปนี้

Matthew was not there when Lila arrived.

 

2. Context clues

ในบางครั้งคำหรือวลีที่เราไม่ทราบความหมายนั้น คำหรือกลุ่มคำที่อยู่ด้านหน้าหรือด้านหลังสามารถชี้นำบอกความหมายหรือให้ข้อมูลบางอย่างช่วยให้เราเข้าใจความหมายของคำหรือวลีนั้นๆ ได้ context clues มี 8 ชนิด ดังนี้

 

2.1 Restatement

การกล่าวซ้ำโดยใช้ถ้อยคำต่างกัน หากนักเรียนรู้จักคำที่มีความหมายเหมือนกันหรือคล้ายกัน (synonyms) ก็จะทำให้มีทักษะ Restatement มากขึ้น

2.2 Definition

การนิยามความหมาย อาจใช้คำต่อไปนี้ is, was, means, be called, refer to, be described as เป็นต้น

2.3 Example

การยกตัวอย่าง มักมีตัวชี้แนะดังนี้ for example, e.g., such as, for instance, like, including, especially, เครื่องหมาย : เป็นต้น

2.4 Substitution

การทดแทนคำหรือวลีที่ให้ความหมายเดียวกันในประโยคถัดไปหรือย่อหน้าถัดไป

2.5 Contrast

คำหรือวลีที่ขัดแย้งกันจะช่วยให้เราตีความหมายของประโยคที่เชื่อมกันได้ง่ายขึ้น คำเชื่อมแสดงความขัดแย้ง เช่น but, however, whereas, yet, while, although, even though, on the other hand เป็นต้น

2.6 Situation

การตีความของคำหรือวลี อาจพิจารณาจากสถานการณ์ใน paragraph นั้นๆ ทั้งนี้นักเรียนสามารถใช้ความรู้รอบตัวหรือประสบการณ์ส่วนตัวช่วยตีความได้

2.7 Cause & Effect

ความสัมพันธ์เชิงสาเหตุและผลลัพธ์จะช่วยให้นักเรียนเดาความหมายของคำหรือประโยคที่ไม่ทราบความหมายได้

ตัวอย่างคำบอกสาเหตุ because, since, for, as, due to, owing to, now that

ตัวอย่างคำบอกผลลัพธ์ so, thus, hence, cause, result in, accordingly, consequently เป็นต้น

2.8 Modifier

ส่วนขยายจะช่วยให้นักเรียนตีความหมายของศัพท์ยากได้

 

รูปแบบคำถามที่มักปรากฏในข้อสอบ Reading Comprehension

1. Title/Topic (ชื่อเรื่อง/ประเด็น)

Title หรือ Topic นั้นมักจะเป็นคำหรือกลุ่มคำที่ปรากฏซ้ำ ในบทความ

ตัวอย่างคำถาม

    What is the best title for this passage?

    What is the topic of the paragraph?

    What is the story about?

    Which of the following is the best title for this passage?

 

2. Main Idea (ใจความสำคัญ)

ใจความสำคัญมักปรากฏในรูปประโยค ซึ่งต้องครอบคลุมใจความทั้งหมดของบทความ อาจปรากฏอยู่ในตอนต้น กลาง หรือท้ายของบทความ

ตัวอย่างคำถาม

    What is the main idea of this paragraph?

    What is the main idea of this passage?

    What is the passage mainly about?

    What does this paragraph tell us about the topic?

 

3. Reference (การอ้างอิง)

การอ้างอิง คือ การนำคำอื่นมาใช้แทนสิ่งที่ได้กล่าวถึงก่อนหน้าหรือกำลังจะกล่าวถึงต่อไป ส่วนใหญ่มักใช้เป็นคำสรรพนาม โดยมักจะแทนสิ่งที่อยู่ไม่ไกลจากคำที่ใช้แทนนั้น รวมถึงต้องใช้รูปที่สอดคล้องกับคำที่ถูกแทนด้วย

ตัวอย่างคำถาม

    What does ‘it’ refer to?

    The word “them” refers to?

    The word “X” refers to?

    In line …, what does the word ‘X’ refer to?

 

4. Inference (การอนุมาน, การสรุปอย่างมีเหตุผล)

การอนุมาน คือ การสรุปจากข้อมูลทั้งหมดที่เราได้อ่าน เป็นสิ่งที่ผู้เขียนไม่ได้บอกมาโดยตรง ผู้อ่านต้องตีความเองอย่างมีเหตุผล

ตัวอย่างคำถาม

    It can be inferred from the passage that …

    What can be inferred from the passage?

    Which of the following can be inferred about …?

    We can conclude from the passage that …

 

5. Detail (รายละเอียด)

Supporting Details หรือรายละเอียดสนับสนุน คือ ข้อมูลที่ใช้ขยายหรือสนับสนุนใจความสำคัญของบทความ อาจเป็นการยกตัวอย่าง เหตุผล การกล่าวซ้ำ

ตัวอย่างคำถาม

    What is NOT true about …?

    According to the passage, which of the following …?

    According to the passage, which of the following statement is TRUE?

    What is NOT mentioned in the passage?

    That passage states that …

    

6. Vocabulary (คำศัพท์)

เราสามารถเดาความหมายของคำศัพท์จากข้อความแวดล้อมโดยอาศัยตัวชี้แนะต่างๆ เช่น คำจำกัดความ ตัวอย่าง คำเหมือน คำตรงข้าม เป็นต้น

ตัวอย่างคำถาม

    The word ‘X’ means …

    The word ‘X’ is closet in meaning to …

    The word ‘X’ in line … can best be replaced by …

 

7. Implication (การตีความ)

Imply คือ การบอกข้อมูลเป็นนัยให้แก่ผู้อ่าน ผู้อ่านต้องสรุปหรือตีความให้ตรงกับที่ผู้เขียนต้องการสื่อ

ตัวอย่างคำถาม

    From the text, it can be implied that …

    From the first paragraph, it can be implied that …

    What is the purpose of the passage?

 

8. Purpose (จุดประสงค์)

ทุกๆ บทความนั้นจะต้องมีจุดประสงค์หรือจุดมุ่งหมายของผู้เขียนเสมอ ตัวอย่างเช่น

    To inform        แจ้งให้ทราบ

    To analyze        วิเคราะห์

    To discuss        อภิปราย

    To explain        อธิบาย

    To persuade        โน้มน้าวใจ

    To convince        โน้มน้าว

    To criticize        วิจารณ์

    To inspire        ให้แรงบันดาลใจ

    To entertain        ให้ความเพลิดเพลิน

    To amuse        ทำให้ขบขัน

    To frighten        ทำให้หวาดกลัว

ตัวอย่างคำถาม

What is the author’s main purpose in the passage?

 

9. Mood/Tone (อารมณ์, ความรู้สึก/น้ำเสียง)

น้ำเสียงหรือความรู้สึกที่ผู้เขียนแสดงออกมาในบทความ สามารถแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ได้แก่

    amused        ขบขัน

    cheerful        ร่าเริง

    encouraging        ให้กำลังใจ

    enthusiastic        กระตือรือร้น

    excited        ตื่นเต้น

    hopeful        มีความหวัง

    optimistic        มองโลกในแง่ดี

    sympathetic        เห็นใจ

    ashamed        ละอายใจ

    critical            วิจารณ์

    depressed        หดหู่

    disappointed        ผิดหวัง

    ironic            เหน็บแนม

    pessimistic        มองโลกในแง่ร้าย

    regretful        เสียใจ

    sarcastic        เสียดสี

    tragic            โศกเศร้า

    curious        อยากรู้อยากเห็น

    informative        ให้ข้อมูล

    nostalgic        ระลึกความหลัง

    subjective        รู้สึกส่วนตัว

ตัวอย่างคำถาม

    The tone of this passage is …

    What is the writer’s attitude towards …?

    The tone of the passage could best be described as …

 

ตัวอย่างข้อสอบ Reading Comprehension

    Studying birds is one of the most interesting of all hobbies. Some people go on bird walks just to enjoy the beauty and songs of birds. Other people list the birds they see and take notes on their habits. Some bird watchers carry cameras and take pictures of the birds.  

    What is the best title for this paragraph?

1. The beauty and songs of birds

2. One of the most interesting hobbies

3. Bird-studying as a hobby

4. Going on bird walks

คำตอบ จากเรื่องกล่าวว่า การดูนกเป็นงานอดิเรกที่น่าสนใจมากที่สุดอย่างหนึ่ง บางคนไปเดินดูนกเพื่อชมความงามและฟังนกร้องเพลง บางคนจดบันทึกนกที่ตนเองพบรวมไปถึงลักษณะนิสัย บางคนก็ถ่ายรูปเก็บไว้ ดังนั้นตอบ c.

 

The Mediterranean climate is little suited to stock-breeding; only sheep and goats can make use of the extensive feeding grounds with their meager rainfall.

    The word “meager” means …

1. not much in quantity

2. to be over sufficient

3. a great amount of

4. to be empty of water

คำตอบ จากเรื่องกล่าวว่าอากาศแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนไม่ค่อยเหมาะสมต่อการเลี้ยงสัตว์ มีแต่แกะกับแพะเท่านั้นที่สามารถหากินได้ในแผ่นดินที่ฝนตกน้อย ดังนั้นตอบ a.

 

Caffeine is a drug that is found in coffee, tea, the cola drinks, and some other common “soft” beverages. Most people on our American culture consume relatively large quantities of it.

    What does “It” refer to?

1. tea

2. cola

3. coffee

4. caffeine

คำตอบ ในเรื่องกล่าวถึงคาเฟอีนว่าเป็นสารเสพติดที่มีในกาแฟ ชา น้ำอัดลม และเครื่องดื่มอื่นๆ ชาวอเมริกันส่วนมากบริโภคคาเฟอีนเป็นจำนวนมาก ดังนั้นตอบ d.

 

According to the much debated theory proposed by father-son team Luis and Walter Alvarez in 1980, an asteroid or comet slammed into the earth at the end of the Cretaceous period 65 million years ago, spewing so much dust into the atmosphere that sunlight was blocked for months. Temperatures plummeted, plants withered and many species of life, including the mighty dinosaurs, perished en masse.

    From the theory above, we can conclude that …

1. An asteroid or comet hit and killed many species of life.

2. Plants withered because there was no air.

3. An asteroid or comet was composed of dust.

4. Many species of life become extinct because of the lack of sunlight.

คำตอบ ในเรื่องกล่าวถึงทฤษฎีที่ว่า ดาวหางดวงหนึ่งพุ่งชนโลกปลายยุคครีเทเชียสเมื่อ 65 ล้านปีก่อน ทำให้เกิดฝุ่นละอองกระจายไปทั่วทั้งบรรยากาศ แสงอาทิตย์ถูกปิดกั้นเป็นเดือน อุณหภูมิลดฮวบ พืชเหี่ยวเฉา สัตว์หลายสายพันธุ์รวมทั้งไดโนเสาร์ล้มตาย ดังนั้นตอบ d.

 

Those of us who complain about automobile’s poisonous fumes tend to forget about the pollution that was cause by horses. According to Andrian, “It took a long time to develop methods of controlling the pollution problem horses created, the horses wouldn’t cooperate”.

    It can be implied from this text that …

1. Cars caused more pollution than horses.

2. Horses also gave out poisonous fumes which caused pollution.

3. Both cars and horses are causing current city pollution.

4. Horses were used as a major means of transportation in the past.

คำตอบ จากข้อความกล่าวเป็นนัยว่า ม้าก็เป็นตัวสร้างควันพิษเช่นกัน ดังนั้นตอบ b.

 

One afternoon I rushed out of the house. Forgetting my keys, and found myself locked out. There was nothing I could do but wait for my husband to come home, so I went over to a neighbor who was outside raking leaves.

    “You locked yourself out? He said.

    “Yeah. This is the second time since we moved in. After the first time we took an extra key and put it in a jar, then stuck it in a potted plant on the back deck.”

    “So what’s the problem?”

    “I put the plants inside for the winter.”

What is the tone of the story?

1. tragic

2. optimistic

3. romantic

4. humorous

คำตอบ เป็นเรื่องราวเชิงขบขัน ดังนั้นตอบข้อ d.