www.trueplookpanya.com
คลังความรู้
แนะแนว
ข่าวรับตรง
ธรรมะ




คลังความรู้ > ภาษาและวัฒนธรรม > ประถมต้น

ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน
ทีมงานทรูปลูกปัญญา | 2009-08-17 13:31:38

ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน

มารยาทของการจับมือ (shaking Hands)

1. ให้จับมือทักทายกันด้วยมือขวา จับแน่นแต่พอควร อย่าให้แน่นเกินไป หรือบีบแรงเกินไป ขณะจับมือทักทายกันควรสะบัดมือเล็กน้อยพองาม

2. ผู้ชายมักจะจับมือกับผู้ชายด้วยกัน เมื่อมีการแนะนำให้รู้จักกัน หรือขณะกล่าวคำอำลา แต่เมื่อมีการแนะนำให้ผู้ชายกับผู้หญิงรู้จักกัน ฝ่ายชายจะไม่จับมือทักทายกับฝ่ายหญิง เว้นแต่ฝ่ายหญิงจะยื่นมือมาให้ ฝ่ายชายจึงจะจับมือกับฝ่ายหญิงได้

3. ถ้าเป็นคนเพศเดียวกันและมีอาวุโสเท่ากัน ใครจะยื่นมือให้จับก่อนก็ได้ แต่ถ้าต่างอาวุโสกัน คนที่มีอาวุโสมากกว่าควรเป็นฝ่ายยื่นมือให้ก่อน

4. ถ้าเป็นคนต่างเพศกัน ผู้ชายต้องรอให้ผู้หญิงยื่นมือมาให้ก่อนจึงจะจับมือได้ ส่วนฝ่ายหญิงจะยื่นมือให้จับหรือไม่ เป็นสิทธิของฝ่ายหญิงที่จะพิจารณาว่าสมควรหรือไม่ แต่ถ้าฝ่ายหญิงเป็นเจ้าภาพหรือเจ้าของบ้าน ฝ่ายหญิงจะจับมือทักทายกับแขกที่มา

5. ผู้หญิงอาจจับมือทักทายโดยไม่ต้องถอดถุงมือออก แต่ผู้ชายควรถอดถุงมือของมือขวาออกเสียก่อน ยกเว้นเมื่อ สวมเครื่องแบบเท่านั้น


มารยาทหรือธรรมเนียมในการแนะนำให้รู้จักกัน

1. ควรแนะนำผู้ชายให้รู้จักกับผู้หญิง มิใช่แนะนำผู้หญิงให้รู้จักกับผู้ชาย แต่ถ้าฝ่ายชายเป็นผู้มีตำแหน่งสูง หรือมีอาวุโสกว่ามาก หรือจะเป็นนายจ้างของฝ่ายหญิง จึงควรแนะนำฝ่ายหญิงให้รู้จักกับฝ่ายชาย

2. ควรแนะนำคนที่มีอาวุโสน้อยกว่า ให้รู้จักกับคนที่มีอาวุโสมากกว่า

3. คนที่ถูกแนะนำให้รู้จักจะถูกเอ่ยชื่อทีหลัง

4. สำนวน ใช้ How do you do? ทักทายเมื่อมีการแนะนำให้รู้จักกัน เมื่อฝ่ายหนึ่งกล่าวว่า How do you do? อีกฝ่ายหนึ่งจะตอบว่า How do you do? เช่นกัน ถ้าต้องการแสดงความเป็นกันเองจะทักทายกันด้วย Hello หรือ Hi ก็ได้

5. สำหรับคนในวัยเดียวกันและเพศเดียวกัน ผู้แนะนำให้รู้จักจะเอ่ยชื่อใครก่อนก็ได้แต่ตามปกติมักแนะนำผู้หญิงสาวที่ยังไม่แต่งงานให้กับหญิงที่แต่งงานแล้วและแนะนำผู้น้อยให้รู้จักกับผู้ใหญ่

6. เมื่อแนะนำตัวเองไม่ต้องมี Miss., Mr. หรือ Mrs. นำหน้าชื่อ ให้บอกชื่อเฉย ๆ ในทำนองเดียวกัน เมื่อแนะนำสามีหรือภรรยา ไม่ต้องใช้ Mr. หรือ Mrs. นำหน้าชื่อ
  

มารยาทในการกล่าวขอโทษ (Excuse me)

1. ใช้เป็นประโยคกล่าวนำในการทักทายผู้อื่นอย่าสุภาพ เพื่อถามอะไรบางอย่างที่เราต้องการทราบ

2.  ใช้กล่าวเพื่อขอทางเดินผ่านอย่างสุภาพ เช่น ถ้าเราต้องการเดินผ่านทางที่มีคนยืนขวางทางอยู่ซึ่งอาจเป็นทางเดิน ประตู บนรถไฟ ฯลฯ เราเพียงแต่พูดอย่างสุภาพว่า Excuse me หรือ  Excuse me, please. แล้วเดินฝ่าเข้าไป ตามปกติเขาจะพยายามหลีกทางให้เราเดินผ่านไป โดยตอบว่า Sorry.

3. ขณะที่เรากำลังพูดคุยอยู่กับผู้อื่น ถ้าเรามีความจำเป็นต้องขอตัวลากลับ หรือปลีกตัวไป เรากล่าว Excuse me.  …………….

4. ถ้าเรามีนัดกับผู้อื่น แล้วบังเอิญเราไปไม่ทันตามเวลาที่ได้นัดไว้ เมื่อเราไปถึงเราอาจกล่าวขอโทษ  โดยพูดว่า Excuse me for being late.


มารยาทในการกล่าวขอโทษ(I beg your pardon.)

1. เมื่อใช้กล่าวในการทักผู้อื่นอย่างสุภาพ เพื่อถามอะไรบางอย่าง ใช้  I beg your pardon. หรือ  Pardon me.

2. เมื่อเราไม่เห็นด้วยกับผู้อื่น หรือขออนุญาตขัดคอเขา เราอาจขอโทษ โดยใช้สำนวน I beg your pardon. หรือ  Pardon me.

3. ขณะที่เราพูดคุยกับผู้อื่น ถ้าเราฟังไม่ได้ยิน หรือได้ยินไม่ชัด หรือฟังไม่ทัน เราต้องการให้เขาพูดซ้ำเราควรพูดว่า I beg your pardon. หรือ Pardon. โดยมีสำเนียงเหมือนประโยคคำถาม


มารยาทในการกล่าวขอโทษ (I'm sorry.)

1. เมื่อเราทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนโดยวิธีใดก็ตาม เช่น เหยียบเท้าของเขา เดินชนถูกตัวเขา เดินชนโต๊ะทำงานของเขา ทำให้เสื้อผ้าของเขาเปื้อนโดยไม่เจตนา เป็นต้น ถ้าเขาเดือดร้อนเล็กน้อย ควรกล่าวขอโทษโดยพูดว่า  I'm sorry. ถ้าเขาเดือดร้อนมากก็ควรพูดว่า  I'm very sorry.

2. เมื่อผู้อื่นถามเราเกี่ยวกับบางสิ่งบางอย่าง เราตอบไม่ได้ เพราะเราไม่ทราบ เราอาจพูดอย่างสุภาพว่า  I'm sorry I don't know.

3. เมื่อผู้อื่นขอความช่วยเหลือจากเรา แต่เราไม่สามารถจะช่วยเขาได้ เราควรพูดว่า  I'm sorry I can't help you.

4. เมื่อเรามีความจำเป็นต้องรบกวนหรือขัดจังหวะผู้อื่น เราควรขอโทษ โดยพูดว่า  I'm sorry to disturb you. หรือ  I'm sorry to trouble you.

5. เมื่อผู้อื่นเล่าให้ฟังว่าเขาไม่สบาย คนในบ้านของเขาป่วย หรือเขาประสบเคราะห์ร้ายในบางสิ่งบางอย่าง เราควรพูดว่า  I'm sorry to hear that.

6. เมื่อเราบกพร่องในบางสิ่งบางอย่าง เช่น ไปไม่ทันนัด ลืมทิ้งจดหมายที่คนอื่นฝากให้ทิ้ง ไม่ได้ทำงานที่รับปากว่าจะทำหรือเป็นหน้าที่ต้องทำ ทอนเงินให้ลูกค้าไม่ครบ

7. เมื่อลูกค้าต้องการซื้อของบางอย่างในร้าน แล้วของนั้นหมดแล้ว

8. ถ้าเขาพูดซ้ำแล้ว เรายังไม่รู้เรื่องอีก เราต้องการให้เขาพูดซ้ำเป็นครั้งที่สอง


มารยาทในการกล่าวขอบคุณ(Thank you)

1. ควรกล่าวขอบคุณทุกครั้งที่ผู้อื่นถามทุกข์สุขของเรา คนในครอบครัว หรือญาติพี่น้อง

2. ควรกล่าวขอบคุณเมื่อรับสิ่งของจากผู้อื่น

3. ควรกล่าวขอบคุณเมื่อได้รับความช่วยเหลือจากผู้อื่น เช่น เขาช่วยเปิดประตูให้เรา บอกเวลาให้เราทราบ บอกทางให้เรา ให้ของเรายืม อนุญาตให้เราทำสิ่งที่เราต้องการ

เมื่อมีคนกล่าวขอบคุณเรา เราอาจจะยิ้มเฉยๆ หรืออาจจะตอบด้วยสำนวนต่อไปนี้
        You're welcome.
        You're quite welcome.
        Don't mention it.
        Not at all.


มารยาทในการพูดโทรศัพท์ (Phone Manners)

1. เมื่อท่านรับโทรศัพท์ ท่านอาจพูดว่า  Yes ด้วยเสียงสูงคล้ายคำถาม หรือตอบว่า  Mr.(Mrs. Miss.)………….. speaking.

2. ถ้าท่านไม่สามารถรับโทรศัพท์ได้ในขณะนั้น ให้บอกผู้โทรศัพท์มาว่า ท่านจะโทรศัพท์กลับไปภายหลัง

3. อย่าให้เด็กเล็กๆ รับโทรศัพท์ เพราะอาจพูดกันไม่รู้เรื่อง

4. ถ้าผู้ที่เขาต้องการจะพูดทางโทรศัพท์ด้วยไม่อยู่ ให้ถามเขาว่าจะสั่งอะไรไว้ไหม(ข้างโทรศัพท์ของท่านควรมีกระดาษและดินสอเตรียมไว้พร้อมเสมอ)

5. ถ้าท่านอยู่บ้าน แต่ไม่อยากรับโทรศัพท์ ท่านอาจให้คนใช้หรือใครคนหนึ่งพูดว่า

"Mr. , Mrs. , Miss. (ชื่อ)………………can't come to the phone right now. Could you leave your name please and I'll have himcall you back? "
หรือ
"Mr. , Mrs. , Miss. (ชื่อ)………………can't come to the phone right now. May I take a message?"
หรือ
"Mr. , Mrs. , Miss. (ชื่อ)………………isn't in. May I take a message?"

6. ถ้าท่านเป็นผู้โทรศัพท์ไปและทราบว่าหมุนหมายเลขโทรศัพท์ผิดหรือต่อผิด ท่านควรพูดว่า I'm sorry , I must have the wrong number.

7. ถ้ามีคนหมุนเลขผิดหรือต่อผิดถึงท่าน ท่านควรตอบว่า Sorry , wrong number.

8. เมื่อท่านโทรศัพท์ถึงคนที่ท่านไม่รู้จัก ท่านควรใช้คำนำหน้าชื่อ Miss. , Mrs. , Mr. หรือ Dr. แล้วแต่กรณี ถ้าท่านพูดกับคนที่อ่อนวัยกว่าท่านมาก ท่านจะใช้คำนำหน้าชื่อก็ได้ ถ้าท่านเป็นหญิงสาว ให้ใช้ชื่อเต็มโดยไม่ต้องมี Miss. หรือ Mrs. เมื่อสุภาพบุรุษพูดกับสุภาพสตรีไม่ต้องใช้ Mr. แต่ให้บอกชื่อเต็มและนามสกุล เมื่อชายโทรศัพท์ถึงชายด้วยกัน ให้ใช้ชื่อเฉยๆ ไม่ต้องมี Mr. ถ้าคนใช้เป็นผู้รับโทรศัพท์ ให้ท่านบอกชื่อตัวเองว่า  This is Mr. ………………. May I speak to Mr. Preecha Raksombat.

9. ถ้าคนที่ท่านต้องการจะพูดโทรศัพท์ด้วยไม่อยู่ อย่าบ่นว่า Oh แล้ววางหูโทรศัพท์ แต่ควรพูดว่า
"Would you tell him (or her) …..ชื่อท่าน….called, please? Thank you. หรือ Thank you. I'll call back later.

10. ตามปกติผู้ที่โทรศัพท์มาควรจะเป็นผู้วางหูโทรศัพท์ก่อน แต่ฝ่ายไหนจะยุติการสนทนาทางโทรศัพท์ก็ได้


มารยาทในการรับประทานอาหาร (table manners)

1. ในงานเลี้ยง เจ้าภาพจะกำหนด ที่นั่งให้แก่ท่าน หรือพาท่านไปนั่ง แต่ในการรับประทานอาหารอย่างกันเอง ท่านจะเลือกที่นั่งตรงไหนก็ได้

2. ท่านควรรอให้เจ้าภาพคลี่ผ้าเช็ดปาก (napkin) ออกก่อน จึงค่อยคลี่ผ้าเช็ดปากของท่านเป็นการเริ่มต้นรับประทานอาหาร และควรวางผ้าเช็ดปากไว้บนตักของท่าน เมื่อรับประทานอาหารเสร็จให้จับตรงกลางผ้าเช็ดปากหยิบขึ้นมาวางไว้ข้างบนโต๊ะอาหารโดยไม่ต้องพับ แต่ถ้าเป็นการรับประทานอาหาร