Classroom : ป้าแตงกับโลกเขียว ตอน ครีมกันแดดแบบไหนดี
ทีมงานทรูปลูกปัญญา | 2015-01-16 15:07:35
แดดร้อนแรงจริงอะไรจริง สาวๆ ไม่น้อยที่กลัวแก่ กลัวมีรอยเหี่ยวย่น และกลัวเป็นมะเร็งเพราะแสงแดดของศตวรรษที่ 21 ครีมกันแดดจึงถูกโหมประโคมให้เข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันในฐานะอุปกรณ์สู้แดดอย่างเป็นทางการมาสัก 3-4 ทศวรรษได้ ด้วยความเชื่อที่ว่าครีมกันแดดช่วยป้องกันไม่ให้แสงแดดทำอันตรายต่อผิวหนัง และที่สำคัญคือไม่ทำให้ดำ!
เราอาจแบ่งครีมกันแดดออกเป็น 2 แบบ คือ ครีมกันแดดแบบเคมี (chemical sunscreen) ซึ่งเป็นสินค้าส่วนใหญ่ที่ขายอยู่ในท้องตลาดเมืองไทย กับครีมกันแดดแบบกายภาพ (physical sunscreen) ครีมกันแดดแบบเคมี หรือ “ครีมกันแดดแบบดั้งเดิม” ทำงานด้วยการดูดซับแสง UVA และ UVB ไว้ ไม่ให้ทะลุถึงชั้นผิวหนัง แต่ครีมประเภทนี้มีสารเคมีและวัตถุกันเสียหลายอย่างที่อาจเป็นอันตรายต่อผู้ใช้ ตั้งแต่ก่อให้เกิดอาการระคายเคือง ผื่นแพ้ รบกวนฮอร์โมนในร่างกาย เป็นพิษต่อตับ มีผลต่อระบบประสาท บางชนิดแตกตัวเมื่อถูกแสงอาทิตย์และอาจก่อให้เกิดมะเร็ง ไปจนถึงทำให้เกิดความผิดปกติของระบบสืบพันธุ์ด้วย
ผู้บริโภคจึงมักหันมาใช้ครีมกันแดดแบบกายภาพ ซึ่งมีส่วนประกอบเช่น Zinc oxide กับ Titanium dioxide ที่ทำงานเหมือนตัวสะท้อนแสงออกไปจากผิว เมื่อทาครีมกันแดดชนิดนี้ ผิวเราจึงดูขาวเว่อร์ ทำให้หลายคนถอดใจไม่ค่อยอยากใช้
เว็บไซต์เพื่อสิ่งแวดล้อม grist.org เคยรายงานว่าร้อยละ 85 ของครีมกันแดด 922 ชนิดในท้องตลาด ไม่ได้ช่วยป้องกันผิวจากแสงแดดอย่างที่โฆษณา ซ้ำยังเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคด้วย พร้อมกับแนะนำว่าครีมกันแดดที่ดีควร “ดีต่อเรา ดีต่อสิ่งแวดล้อม และใช้ได้ผลจริง” นั่นคือ
1. เลือกใช้ครีมที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป ตัวเลข SPF บอกถึงความนานในการอยู่กลางแจ้ง เช่น ถ้าผิวเริ่มแดงเมื่อผ่านไป 20 นาที ครีมที่มี SPF 30 ก็ควรป้องกันผิวได้นานขึ้น 30 เท่า (เช่น 10 ชั่วโมง)
2. เลือกครีมที่ป้องกันทั้ง UVA และ UVB
3. หลีกเลี่ยงครีมที่มี oxybenzone และ fragrance เป็นส่วนประกอบ อย่างแรกอาจทำให้เป็นมะเร็งผิวหนังได้ ส่วนอย่างหลังส่งผลเสียหายต่อสุขภาพ ทำให้เกิดภูมิแพ้ ทำลายตับ ฮอร์โมนแปรปรวน เป็นต้น
4. มองหาครีมที่ใช้ Titanium dioxide และ/หรือ Zinc oxide ที่ช่วยสะท้อนแสงแดดออกไป แทนที่จะดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย แต่จะปรากฏเป็นชั้นสีขาวบนผิวของเรา
5. หากจะลงเล่นน้ำทะเล ลองเลือกครีมที่มีส่วนผสมที่ทำจากพืช ไม่เป็นอันตรายต่อปะการัง เพราะทุกปีท้องทะเลต้องรองรับครีมกันแดดมากถึง 4,000-6,000 ตัน ซึ่งมีส่วนทำให้ปะการังฟอกขาว
6. ครีมกันแดดเป็นแค่ส่วนหนึ่งของการปกป้องผิวเท่านั้น ลองหาผ้าคลุมเก๋ๆ แว่นตาที่กัน UV ได้ดี หมวกปีกกว้าง และร่มใช้เป็นตัวช่วยด้วย
7. หลีกเลี่ยงการออกแดดตั้งแต่หลัง 10 โมง ถึง 4 โมงเย็น ซึ่งเป็นช่วงที่แดดแรงที่สุด ถ้าเป็นเมืองไทย ก็ควรจะก่อนและหลังจากนั้น เช่น หลัง 9 โมง ถึง 5 โมงเย็น
เมื่อครีมกันแดดเป็นอันตรายต่อสุขภาพมนุษย์แล้ว ก็อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตอื่นๆ และระบบนิเวศด้วยเหมือนกัน ถึงยังไม่มีการศึกษาในเรื่องนี้มากนัก แต่นักวิทยาศาสตร์ก็ตรวจพบสารป้องกัน UV ในแม่น้ำ ทะเลสาบ และมหาสมุทรทั่วโลก และพบเข้มข้นมากในบริเวณใกล้แหล่งน้ำทิ้ง โดยสารหลายตัวเป็นพิษต่อสัตว์
ช่วงหลายปีมานี้ที่โลกร้อนขึ้นอย่างรู้สึกได้ ป้าแตงขอฝากไว้ว่าถ้าจะสู้แดดก็ควรเลือกครีมกันแดดอย่างฉลาดโดยนึกถึงเพื่อนร่วมโลกด้วยนะจ๊ะ
ภาพประกอบจาก https://pixabay.com/th/