นักสู้ผู้ไม่แพ้

ระยะนี้ เราคงคุ้นเคยกับคำทักทายว่า “น้ำท่วมบ้านหรือยัง” เพียงคำทักทายสั้นๆ นี้ อาจทำให้เราต่างรับรู้ได้ถึงความรู้สึกเข้าอกเข้าใจระหว่างกัน “เออ เราหัวอกเดียวกัน” “ฉันเห็นใจเธอ” “ฉันห่วงใยเธอนะ”

เราต่างก็เผชิญความทุกข์ทั้งกายและใจ ใครที่ไม่ประสบอาจเข้าใจได้ยากว่าความทุกข์นั้นหนักหนาสาหัสเพียงใด แต่ถ้าลองคิดดูว่า ไม่ใช่เราคนเพียงคนเดียวหรือครอบครัวเดียวที่ประสบเหตุการณ์นี้ ความสูญเสียยังเกิดขึ้นกับทั้งผู้คนและสัตว์ที่ต้องรับผลกระทบเดือดร้อนกันทั่วหน้า สำหรับบางพื้นที่ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ อาจกล่าวได้ว่าประสบกับความเดือดร้อนยิ่งกว่าเรา ยิ่งทำให้เรามองความทุกข์ของตัวเองเบาบางลง

สำหรับนักสู้ ไม่ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายแค่ไหนก็ย่อมมองเห็นด้านดีงาม และเห็นโอกาสในวิกฤติได้เสมอ ความยากลำบากได้บ่มเพาะเยาวชนอาสาและนักสู้รุ่นใหม่ ดังที่ “รายการพื้นที่ชีวิต” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 3 พฤศจิกายน 2554 ได้บอกเล่าเรื่องราวอุทกภัยและบทบาทของอาสาสมัครที่ช่วยกันทำงานในวิกฤติครั้งนี้

รศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดี ฝ่ายกิจการนักศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ ให้สัมภาษณ์ยกย่องถึงอาสาสมัครที่ศูนย์ผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ ม.ธรรมศาสตร์ ว่า “พวกเรารู้ไหม พวกเราคือคนเดือนตุลา 54 เป็นคนเดือนตุลาในแบบของเราเอง” ขณะที่เยาวชนอาสากลุ่มหนึ่งได้แสดงถึงจิตใจที่ดีงาม “เรามาด้วยใจ เราเหนื่อย ปวดเมื่อย แต่อย่างไรเราก็ยังมากัน ทั้งที่เงินก็ไม่ได้ นอนก็ไม่ได้นอน ข้าวก็ไม่ได้กิน แต่เราก็ยังมาเพื่อช่วยคนอื่น”

ใจความตอนหนึ่งที่พี่จำได้เป็นบทสัมภาษณ์ของนักศึกษาธรรมศาสตร์คนหนึ่ง ซึ่งกล่าวถึงสิ่งที่เขาประทับใจในการได้ช่วยเหลือผู้อพยพว่า “หนึ่งคือความร่วมมือของประชาชนและเอกชน ต่างมาช่วยกัน สองคือพลังของเยาวชน ทุกคนช่วยกันทำงานตั้งแต่เช้าถึงตีหนึ่งตีสอง ไม่เหน็ดเหนื่อย บางคนก็ได้แง่คิดจากวิกฤติครั้งนี้ว่า คนเราบางทีอยากได้อะไรเยอะเกินไป สุดท้ายธรรมชาติจะบอกเราเองว่าเราควรได้แค่ไหน”

แล้วน้องๆ ล่ะคะ ไม่ว่าน้องจะมีประสบการณ์ในฐานะใด ทั้งเป็นผู้ประสบภัย ผู้ช่วยเหลือ ผู้เฝ้าดูเหตุการณ์ หรือเป็นทุกๆ อย่างที่กล่าวมา ลองทบทวนว่าเราได้บทเรียนอะไรบ้างกับตัวเองและสังคม เราควรปรับเปลี่ยนและเตรียมอะไรบ้างสำหรับการใช้ชีวิตในอนาคต เพื่อที่เราจะไม่ต้องประสบกับเหตุการณ์เลวร้ายเช่นนี้ซ้ำอีก สำหรับพี่ได้เรียนรู้ว่า “ชีวิตไม่แน่นอน เราต้องไม่ประมาท”

ภาพประกอบจาก https://mblog.manager.co.th/