เรื่องและภาพ: กัลยาณี แนวเล็ก

ชมรมปีนหน้าผาเทียม

“กีฬาปีนหน้าผาเทียม” กีฬา x-treme ที่เต็มไปด้วยความหวาดเสียว ตื่นเต้น และท้าทาย จนถูกเข้าใจผิดว่าเป็นสำหรับผู้ใหญ่เท่านั้น แต่ความจริงเด็กๆ ก็สามารถปีนป่ายได้อย่างปลอดภัย และสามารถพัฒนาขีดความสามารถเทียบรุ่นผู้ใหญ่ได้

ชมรมปีนหน้าผาเทียม โรงเรียนวัดไทร (ถาวรพรหมานุกูล) ถือเป็นโรงเรียนแรกที่บรรจุกีฬาปีนหน้าผาเทียมเข้าเป็นหนึ่งในวิชาเรียน ช่วยปูพื้นฐาน สร้างนักกีฬาปีนหน้าผาเทียมรุ่นเยาว์สู่วงการ หนึ่งในนั้นก็คือ แม็ก-วานุสิทธิ์ พันธมิตร ชั้น ม.3 ผู้หลงเสน่ห์กีฬาประเภทนี้ตั้งแต่เรียนชั้น ป.6 และกำลังเตรียมตัวเข้าแข่งขันกีฬาปีนหน้าผาของกีฬาแห่งประเทศไทยอีกด้วย

หลักสูตรการปีนป่าย
นอกจากโรงเรียนวัดไทรจะเปิดการเรียนการสอนกีฬาปีนหน้าผาเทียมเป็นแห่งแรกโดยสอนในหลักสูตรกีฬาสากล ที่นี่ยังมีหน้าผาเทียมขนาดมาตรฐานตั้งอยู่ในโรงเรียนเป็นแห่งแรก ด้วยการสนับสนุนของ อ.จำลอง ฉิมคล้าย เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กนักเรียนที่สนใจกีฬาปีนหน้าผาได้มีกิจกรรมเสริมสุขภาพร่างกาย และเรียนรู้จนได้เป็นนักกีฬาและสามารถพัฒนาจนทัดเทียมระดับสากล โดยชมรมปีนหน้าผาเทียมเปิดโอกาสให้เด็กเล็กตั้งแต่ชั้น ป.1 รวมไปถึงบุคคลภายนอกที่สนใจได้ทดลองเล่นหน้าผาเทียมด้วย

รวมความท้าทาย ทั้งร่างกายและสมอง
“ทุกวันการซ้อมจะเริ่มจากการวิ่งเพื่ออบอุ่นร่างกายอย่างต่ำครึ่งชั่วโมงครับ แล้วก็จะมายืดเหยียดกล้ามเนื้อเพื่อให้กล้ามเนื้อคลายตัว จากนั้นจึงปีนวอร์มอัพกันในระดับต่ำๆ ครับ แล้วค่อยซ้อมปีนในรูปแบบต่างๆ ครับ” “แม็ก” เล่าให้ฟังถึงตารางการฝึกซ้อมที่เข้มข้นไม่แพ้มืออาชีพ

ความท้าทายของกีฬาปีนหน้าผาเทียมคือการกำหนดความยากง่ายออกเป็น 3 ประเภท “กีฬาปีนหน้าผามี 3 ประเภทครับ คือปีนในระดับความยาก Speed และ Bouldering ในการปีนความยากแบ่งเป็นประเภท Lead และ Top Roping ซึ่ง Lead คือการมัดเชือกอยู่ที่ตัวเราแล้วเกี่ยวเชือกขึ้นไปข้างบนไปจนสุดครับ ส่วน Top Roping คือห้อยเชือกมาจากข้างบนแล้วให้เราปีนตามตัวที่เขากำหนด” “แม็ก” อธิบาย

“สำหรับประเภท Speed คือการปีนแข่งกับเวลา เพื่อคัดตัวเข้ารอบต่อๆ ไปครับ และประเภทสุดท้ายคือ Bouldering จะปีนโดยใช้อุปกรณ์เพียงสองอย่างคือรองเท้ากับถุงชอล์ก รองเท้าปีนหน้าผาจะแปลกจากรองเท้าที่เราใส่เดินธรรมดาครับ เพราะว่ารองเท้าปีนจะใช้ความฝืด ส่วนถุงชอล์กใส่ผงแมกนีเซียมคาร์บอเนตไว้ข้างในเพื่อซับเหงื่อและกันลื่นครับ เราจะปีนตามตัวที่เขากำหนดให้ จะมีไม่เกิน 12 ตัวและความสูงไม่เกิน 5 เมตรครับ”

ปีนให้สูงไปให้สุด
นอกจากประโยชน์เพื่อสุขภาพและการใช้เวลาว่างให้เป็นแล้ว “แม็ก” มุ่งหวังที่ใช้กีฬาที่เขาชื่นชอบเป็นใบเบิกทางสู่อนาคต “เพื่อความฝันอันสูงสุดคือเป็นนักกีฬาปีนหน้าผาทีมชาติครับ ผมชอบเล่นเพราะเป็นกีฬาที่ท้าทายและไม่เหมือนใครครับ กีฬาอื่นก็เท่าที่เล่นมาไม่มีอะไรสนุกเท่าปีนหน้าผาแล้ว นอกจากนี้ยังเป็นแนวทางในการศึกษาต่อ เผื่อว่าเราจะไปต่อโรงเรียนไหนที่มีโควต้าทางด้านกีฬา เราก็ได้เปรียบครับ”

หากถามถึงความปลอดภัยในการเล่นกีฬาปีนหน้าผาเทียม ทางชมรมฯ ให้คำตอบด้วยความมั่นใจว่ามีมาตรฐานเป็นสากล อุปกรณ์ทุกชิ้นใช้ของที่เป็นสากล สิ่งที่ทำให้ผู้ปกครองมั่นใจได้ว่าเด็กๆ สามารถเล่นกีฬานี้ได้อย่างปลอดภัยคือการให้มาเห็นและมาเล่นสถานที่จริง

“อยากให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกคนที่มีเวลาว่าง ถ้าไม่รู้ว่าจะทำอะไรก็ให้มาปีนหน้าผาเพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ด้านกำลังแขน กำลังขา เอว และหน้าท้อง เพราะการปีนหน้าผามันไม่เรียบ มีแต่ตัวที่ยื่นออกมา ก็เลยต้องใช้หน้าท้องครับ”

สนใจกีฬาปีนหน้าผาเทียม สามารถติดต่อชมรมปีนหน้าผา โรงเรียนวัดไทร นอกเวลาเรียน เลขที่ 12 ม.2 ถนนเอกชัย 23 แขวงบางขุนเทียน โทร.02-415-0624, 02-893-2220

ลองลงสนามฝึกซ้อมกีฬาปีนหน้าผาเทียม คลิกที่นี่
 

ที่มา : นิตยสาร plook ฉบับที่ 26 เดือนกุมภาพันธ์ 2556