www.trueplookpanya.com
คลังความรู้
แนะแนว
ข่าวรับตรง
ธรรมะ




คลังความรู้ > สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม > ม.2

“เพชรประดับพระมหามงกุฎ” ถวายสดุดี สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ
ทีมงานทรูปลูกปัญญา | 2012-06-19 16:52:58

“เพชรประดับพระมหามงกุฎ”

เนื่องในปี ๒๕๕๕ เป็นปีที่ครบ ๑๕๐ ปี วันประสูติของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพองค์ปฐมเสนบดีกระทรวงมหาดไทย พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4

ผู้ทรงเป็นพระกำลังสำคัญของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระปิยมหาราช ในการปฏิรูปการปกครองแผ่นดินสู่ยุคสยามใหม่อย่างเป็นที่พอพระราชหฤทัยยิ่ง จนกระทั่งได้รับการขนานพระนามว่า ทรงเป็น “เพชรประดับพระมหามงกุฎ” และองค์การยูเนสโกแห่งสหประชาชาติได้ถวายการสดุดีให้ทรงเป็น “บุคคลสำคัญของโลก” โดยทรงเป็นคนไทยคนแรกที่ได้รับการยกย่อง

           หม่อมเจ้าพูนพิศมัย ดิศกุล ได้เคยมีรับสั่งเล่าประทานไว้เป็นเกร็ดความรู้ถึงสมัยที่พระบิดาทรงเป็นเสนาบดี กระทรวงมหาดไทยว่า “การเสด็จไปทรงงานที่กระทรวงฯ เป็นประจำวันนั้น ท่านจะเสด็จขึ้นทางบันไดหลังบ้าง ข้างหน้าบ้าง เพื่อจักสามารถทอดพระเนตรได้ทั่วถึง ตรัสว่า การรักษาความสะอาดและสรรหาคนดีรับราชการ นั้น ต้องทนเหนื่อยเอา แม้บางครั้งรู้จักกันมานานก็เหมือนสั้น ใจเขาใจเราต้องศึกษากันไป  และมักจะทรงโปรดพระดำเนินเป็นรอบๆ ทั่วไปกับหยุดทอดพระเนตรมีรับสั่งกับข้าราชการตามโต๊ะ โดยทรงถามถึงทุกข์สุขทั้งของตนและครอบครัว บางทีทรงเห็นคนลายมือดีมีระเบียบก็ชมเชย

           ถ้าผู้ใดอ่านหนังสือท่านก็หยุดดูว่าอ่านเรื่องอะไร” มีอยู่วันหนึ่งท่านตรัสว่า “ทั้งๆ ดูอยู่เอง ด้วยไม่ยอมอยู่ในอำนาจการเพ็ดทูล ก็ยังถูกหลอก คนนั้นเขาอ่านหนังสืออยู่หน้าเดียว ๓–๔ วันแล้ว คงนึกว่าไม่สังเกต แล้วก็ทรงพระสรวล มีอยู่ครั้งหนึ่ง ที่ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย มีห้องเสวยกลางวันอยู่ข้างห้องเสนาบดี เป็นโต๊ะกลมราว ๖-๗ ที่นั่ง และมีพนักงานอยู่ประจำ ๑ คน พอดีพระโอรสพระองค์หนึ่งซึ่งรับราชการอยู่กรมสรรพากร ซื้อจานข้าวแกง ไปนั่งกินที่โต๊ะในห้องนั้น เผอิญทอดพระเนตรเห็นจึงพระพักตร์บึ้งไปทันที แล้วตรัสถามว่า เจ้าชาย พวกเธอเขากินกันที่ไหน พระโอรสกราบทูลว่า ข้างล่าง สมเด็จฯ ทรงตรัสว่า เธอก็ลงไปกินกับเขา ที่นี่เป็นห้องเสนาบดี ไม่มีพ่อลูก พระโอรสลุกขึ้นถือจานข้าวนั้นออกไปทันที ทั้งๆ ที่กำลังกินเสวยอยู่อย่างหิวโหย”

            เช่นเดียวกับงานตำรวจ ที่ทรงมีรับสั่งว่าเป็นหน่วยงานหลักของกระทรวงมหาดไทย และต้องอยู่ร่วมปฏิบัติภารกิจเคียงคู่กันไปโดยไม่สามารถแยกออกจากกัน ตามพระราชประสงค์ของพระพุทธเจ้าหลวงให้จงได้ นายตำรวจภูธรนายหนึ่งจะไปจับผู้ร้ายเล่าว่า “จะต้องจับให้ได้ตัว เพราะกลัวเสด็จในกรมท่าน ท่านเป็นคนจริงนะซี เราถึงกลัวเคยมีรับสั่งกับข้าราชการมหาดไทยครั้งหนึ่งว่า เจ้าคุณ อำนาจอยู่ที่ราษฎรเชื่อถือ ไม่ใช่อยู่ที่พระแสงราชสัตรา จะไปอยู่ที่ไหนก็ตามที ถ้าเจ้าคุณทำให้ราษฎรเชื่อถือด้วยความศรัทธาแล้ว ไม่มีใครถอดเจ้าคุณได้แม้ในหลวง เพราะท่านก็ทรงปรารถนาให้ราษฎรอยู่เย็นเป็นสุขเช่นเดียวกัน ท่านตรัสเสมอว่า จงอย่ามีพวก แบ่งเป็นกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ คลาสนั้นคลาสนี้ เพราะถ้ามีพวกเรา ก็จะต้องมีพวกเขาเกิดขึ้น และมากกว่าเสมอด้วย เราทุกคนอยู่กันด้วยงานที่โลกต้องหมุนไป และต่างล้วนเป็นข้าพระบาทของในหลวง ที่มีภาระหน้าที่ในการพิทักษ์รักษาประเทศชาติและประชาชน”

            มีเรื่องเล่าด้วยว่า “พระองค์จะไม่ทรงกริ้วใครต่อหน้าผู้คนแม้สักครั้งเดียว ถ้าใครประพฤติปฏิบัติผิดก็จะทรงเรียกเข้าห้องเสนาบดี พูดชี้แจงกันตรงๆ โดยตรัสว่า คนเราต้องทำผิดบ้าง ความผิดกับความชั่วไม่เหมือนกัน แต่ความผิดจักต้องเป็นอุทาหรณ์สอนใจ กล่าวคือ ถ้าผิดต้องให้โอกาสเขา แต่หากชั่วจนช่วยไม่ได้แล้วต้องตัดไปเลเรื่องศัตรูก็เหมือนกัน ถ้าเราหนีพ้นก็หนีให้สุดไกล แต่ถ้าหนีไม่พ้นก็จงเข้าใกล้ไปเสียเลย และรู้เสมอว่า เขาทำอะไรและเราทำอะไร และไม่เคยมีผู้ใดเคยได้ยินคำหยาบจากพระองค์ท่านเลย ถ้าทรงกริ้วใครผิดไป ท่านก็กลับไปขอโทษแม้พวกมหาดเล็ก ท่านทรงมีความนอบน้อม ถ่อมพระองค์อยู่เป็นอาจิณ”

            ประชาชนคนไทยทุกคนไม่เคยลืมสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ในคุณงามความดีของพระองค์ท่านที่ได้ทรงบำเพ็ญตลอดพระชนม์ชีพ ประทานไว้แก่ประเทศชาติเป็นอเนกอนันต์กว่าหลายสิบปีล่วงไปแล้วนั้น และเนื่องในโอกาสที่ครบ ๑๕๐ ปี วันประสูติ และครบ๕๐ ปี ที่องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ได้ยกย่องให้เป็นบุคคลสำคัญของโลกคนแรกของประเทศไทย

            ในปี ๒๕๕๕ นี้ รัฐบาลจึงได้กำหนดจัดงานเทิดพระเกียรติแด่พระองค์ท่านขึ้น ให้ข้าราชการประชาชนได้ระลึกถึงคุณงามความดีของพระองค์ท่านที่ทรงมีคุณูปการแก่ประชาชนชาวไทยเป็นอย่างยิ่งมาจนถึงทุกวันนี้

 

เรียบเรียงโดย หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ 
ประธานกรรมการพิพิธภัณฑ์และหอสมุดสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ
https://www.thailocaladmin.go.th/upload/ebook/column/2012/5/2002_5008.pdf