www.trueplookpanya.com
คลังความรู้
แนะแนว
ข่าวรับตรง
ธรรมะ




คลังความรู้ > สื่อพัฒนานอกระบบ > มัธยมต้น

พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ
ทีมงานทรูปลูกปัญญา | 2012-03-23 17:12:56

พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ

 

วัฒนธรรมไทยได้จำเริญอยู่เคียงคู่กับไทยโบราณมาอย่างสืบเนื่อง และหากสามารถรักษาสืบไปด้วยภูมิปัญญาและความเข้าใจอันถ่องแท้แล้ว ก็จะทำให้ปัจจุบันและอนาคตของเรากอปรด้วยความหมายที่ทรงคุณค่ามิเสื่อมคลาย

คำถามมีอยู่ว่าเหตุใดวัฒนธรรมอันดีงามยิ่งใหญ่ไพศาลนี้ถึงกลับเสื่อมถอยลงได้เล่า?

ทั้งนี้ทั้งนั้นเพราะคนทั้งหลายไม่ใส่ใจ พากันมองข้ามไปเสีย หรือว่าอาจยังมีเหตุอื่นที่สำคัญกว่าเคลือบแฝงอยู่อีก?

เมื่อได้ใช้ความคิดทบทวนไปมานานครั้งเข้าจึงเห็นว่าการที่วัฒนธรรมไทยต้องเสื่อมโทรมและอับเฉาลงทุกทีๆนั้น ก็ด้วยเหตุที่มิได้มีผู้ใดนำเอายอดแห่งแก่นสารของวัฒนธรรมไทยไปเผยแพร่ในหมู่ชนอย่างกว้างขวางและถูกต้องบริบูรณ์ด้วยการใช้รูปแบบง่ายๆ เข้าใจไม่ยาก โดยให้ประสานสอดคล้องกับสิ่งแวดล้อมและมีชีวิตความเป็นอยู่ของคนในปัจจุบันสมัย

ดังนั้นเมื่อคนทั้งหลายไม่มีโอกาสที่จะรับรู้และเข้าใจวัฒนธรรมแห่งชาติตนเอง ที่มีสืบต่อกันมานานแล้ว จะให้เขาเหล่านั้นชื่นชอบและยอมรับได้อย่างไร?

เมื่อเราควรตระหนักเช่นนี้จึงเห็นว่าต้องลงมือทำเลย

ด้วยเหตุนี้เราผู้ยึดถือวัฒนธรรมเป็นภารกิจย่อมต้องลงแรงส่งเสริมกิจกรรมด้านนี้อย่างสุดกำลัง

อย่างไรก็ตามวัฒนธรรมมีขอบเขตกว้างขวางยิ่งนัก กอปรด้วยปรัชญา ความคิด วรรณคดี ศิลปะ ประวัติศาสตร์ บุคคล และชีวิตความเป็นอยู่ ฯลฯ มากมายหลายประการ ด้วยเหตุนี้ เราจำเป็นต้องมีปณิธานอันแน่วแน่ที่จะดำเนินภาระกิจสืบต่อไปด้วยความเชื่อมั่น

การก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณริเริ่มมาจากความคิดของ คุณเล็ก วิริยะพันธ์ ซึ่งตัวช้างเอราวัณทำมาจากแผ่นทองแดงที่มีความหนาประมาณ 1.2 มิลลิเมตร แต่หลากหลายขนาด โดยการนำแต่ละแผ่นมาเผาไฟแล้วนำมาเคาะขึ้นรูปด้วยมือ แล้วนำมาเชื่อมต่อประกอบกันกับโครงสร้างเหล็กที่ขึ้นโครงไว้ โดยใช้ช่างเคาะประมาณ 270 คน เป็นประติมากรรมช้างสามเศียรลอยตัวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ใช้ศิลปะหลากหลายรูปแบบมาตกแต่งผสมผสานกันภายในตัวอาคารให้สวยงามตามคติความเชื่อตามหลักไตรภูมิ และการเข้าชมภายในตัวอาคารนั้นจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ

ชั้นที่ 1 ชั้นบาดาล
เป็นชั้นที่ใช้เก็บโบราณวัตถุ เช่น เครื่องถ้วยเบญจรงค์ ถ้วยน้ำชาจีน ปั้นชาจีน สังคโลก หยก ฯลฯ ซึ่งก็จะมีหลายสมัย เป็นของสะสมของคุณเล็ก วิริยะพันธ์ และปัจจุบันนี้โบราณวัตถุทุกชิ้นงานอยู่ในความดูแลของมูลนิธิเล็ก - ประไพ วิริยะพันธ์ และในส่วนของบริเวณตรงกลางห้องมีมนุษยนาคนั่งอยู่เพื่อจัดแสดงเป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่ดูแลนครบาดาล

ชั้นที่ 2 ชั้นโลกมนุษย์
เป็นชั้นของงานศิลปะ ซึ่งก็จะมีทั้งศิลปะ ไทย จีน ยุโรป เขมร ฯลฯ
- กระจกสี ซึ่งเป็นผลงานงานของศิลปินชาวเยอรมันนี จะประกอบด้วย แผนที่โลกโบราณ บริเวณรอบๆ เป็นภาพจักราศี 12 ราศี และรูปหน้าอารมณ์ของคนบนโลก ที่มีความแตกต่างกัน เปรียบกระจกสีนี้เหมือนกับหลังคาโลก
- งานสลักดุนแผ่นดีบุก เสาทั้ง 4 ต้นในตัวอาคารชั้นนี้จะใช้แผ่นดีบุกดุนลายกล่าวถึงศาสนาหลักที่ค้ำจุนโลก ประกอบด้วย ศาสนาพุทธ ( เสาหน้าด้านซ้าย ) เสาศาสนาคริสต์ ( เสาหน้าด้านขวา ) เสาศาสนาฮินดู ( เสาหลังด้านซ้าย ) และ เสาศาสนาพุทธนิกายมหายาน ( เสาหลังด้านขวา ) เกี่ยวกับเจ้าแม่กวนอิม แต่ละต้นใช้เวลาทำประมาณ 3 ปี ช่างจากนครศรีธรรมราช
- งานปูนปั้นประดับเบญจรงค์ เป็นส่วนของงานที่นำเครื่องถ้วยชามเบญจรงค์มาตัดเป็นชิ้นเล็กๆ หลายขนาดตกแต่งลวดลายตามบันไดทั้งสองสี ซุ้มเก๋งจีน และภายในตัวอาคาร ฝีมือช่างจังหวัดเพชรบุรี เป็นระยะเวลาประมาณ 6 ปี บันไดสีขาวทางขึ้น ( บันไดเงิน ) บันไดสีชมพูทางลง ( บันไดทอง ) ภายในซุ้มเก๋งจีนตรงกลางระหว่างบันไดประดิษฐานด้ยองค์เจ้าแม่กวนอิมเป็นหินแกะสลัก บนยอดเก๋งจีนคือพระเกตุ สัญลักษณ์ผู้ดูแลโลกมนุษย์

ชั้นที่ 3 ชั้นสวรรค์ (ภายในท้องช้าง)
เป็นชั้นที่ใช้เก็บพระพุทธรูป องค์เล็กด้านบนคือพระพุทธสิหิงค์ปางสมาธิ องค์ใหญ่ด้านหน้าคือพระพุทธรูปปางลีลา ส่วนในตู้กระจกด้านซ้ายและขวาเป็นองค์เก่าแก่ตั้งแต่ศิลปะสมัยทวารวดีจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ ในส่วนบนเพดานจะเป็นภาพวาดสีฝุ่นเกี่ยวกับระบบสุริยะจักรวาลซึ่งเป็นฝีมือของศิลปินชาวเยอรมัน ( Mr. Jacob Schwarzkopf )

สร้างพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณเมื่อ พ.ศ. 2537 ( ค.ศ. 1994 )
เปิดให้เข้าชม พ.ศ. 2546 ( ค.ศ. 2003 )
ความสูงทั้งตัวช้างและอาคาร 43.60 เมตร (ประมาณตึก 14 ชั้น )
ความกว้าง 12 เมตร
ความยาว 39 เมตร
น้ำหนักทั้งตัวและเศียรช้าง 250 ตัน ( 250,000 กิโลกรัม )

หมายเหตุ : ขอเรียนมัคคุเทศก์ที่นำคณะมาเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ เพื่อให้เป็นไปตาม พ. ร. บ. มัคคุเทศก์และการท่องเที่ยว ท่านจะต้องดูแลและให้ข้อมูลกับลูกทัวร์ของท่าน หากท่านต้องการข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ ท่านสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ฝ่าย ประชาสัมพันธ์หรือฝ่ายมัคคุเทศก์เพื่อที่ท่านจะได้ใช้ในการบรรยายให้กับลูกทัวร์ของท่าน

วัตถุประสงค์การสร้างพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ
• เพื่อให้คนในปัจจุบันได้เรียนรู้เรื่องราวของอดีต เพราะอดีตเปรียบเสมือนเข็มทิศและหางเสือที่มีไว้สำหรับเดินเรืออย่างมีสวัสดิภาพ
• เพื่อใช้ศิลปะที่เป็นมรดาจากบรรพบุรุษซึ่งสั่งสมมานานและมีคุณค่าไม่เสื่อมคลาย เป็นประจักษ์พยานแห่งความเจริญด้านจิตใจของสังคมตะวันออกที่มีศาสนาเป็นเครื่องค้ำชูสันติภาพของโลก
• เพื่อให้มนุษย์ร่วมโลกรู้จักประเพณีและวัฒนธรรมของเรา และใช้เป็นเครื่องกล่อมเกลาผู้ที่กำลังหลงทาง อยู่ในสังคมวิทยาศาสตร์เจริญ แต่ในขณะเดียวกัน ก็ทำให้ผู้คนนับถือลัทธิวัตถุนิยมที่มุ่งแสวงหาแต่ความสุขในทางโลก
• เพื่อประกาศเจตนารมณ์ของผู้สร้าง ว่าพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ คือ มรดกของมนุษยชาติที่จะคงอยู่คู่ฟ้าดินตลอดไป


คำขวัญพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ

ช้างสามเศียรใหญ่

เอราวัณ

ท่องไปในหิมวันต์

จักรวาล

ทั่วไตรภูมิปรากฏร่าง

มโหฬาร

ยืนตระหง่านเป็นสัญลักษณ์คู่

สุวรรณภูมิ

เสาดีบุกใหญ่เชิด

ค้ำชู

คุณธรรมสากลสู่

ทั่วโลก

สุขสวัสดิมงคลเกิด

สามภพ

สัจธรรมแจ้งเจนจบ

ใจมนุษย์

ปณิธานเพื่อสันติภาพ

คุณเล็ก

วิริยะพันธุ์สานสำเร็จ

คุณพากเพียร

พาหนะแห่งองค์อินทร์

ช้างสามเศียร

พิพิธภัณฑ์แหล่งเรียนรู้เชิดชู 

ชาติภูมิ

 

ธรรม – เสา – โลก
มนุษย์ต่างมีศรัทธาและยึดมั่นในศาสนาที่ต่างกัน แต่แก่นแท้ของศาสนานั้นมี ธรรม เป็นหลักเดียว ข้อปฏิบัติของแต่ละศาสนาจึงเป็นแนวทางที่ช่วยชี้แนะให้มนุษย์เข้าถึงธรรม แต่เพราะสิ่งที่มนุษย์ต้องการบรรลุนั้นไม่เหมือนกัน วิถีแห่งการปฏิบัติตนบนความเชื่อและยึดถือจึงต่างกัน

(เสาคริสต์) มอบความรักเพื่อปลดเปลื้องบาปของมนุษย์
- การก่อเกิดของมวลมนุษย์ การเชื่อฟังในพระเจ้า สู่การไถ่บาปของพระเยซูให้กับมนุษย์ ด้วยฐานะบุตรแห่งพระเจ้า ผู้มีความรักอันบริสุทธิ์ รักที่ไม่มีข้อแม้ และยอมสละชีวิตเพื่อปลดเปลื้องบาปให้กับมนุษย์ สอนให้มนุษย์รู้จักรักและการจะได้มาซึ่งความรัก ต้องเชื่อมั่นและศรัทธาในตนเอง

(เสาพราหมณ์ – ฮินดู) ชี้ทางด้วยภาวนา และบูชาเพื่อพ้นทุกข์
- พระตรีมูรติมหาเทพผู้เป็นศูนย์รวมความเชื่อ และศรัทธาจากศาสนิกชนทั่วโลก โดยเฉพาะองค์พระนารายณ์ผู้ยิ่งใหญ่ ที่ได้อวตารลงมาถึง 10 ปาง เพื่อช่วยเหลือทั้งมนุษย์และเทพยดา จากภัยพิบัติทางธรรมชาติ จากหมู่มาร และจากมนุษย์ด้วยกัน

(เสาพุทธมหายาน) สร้างสันติสุขด้วยกรุณา
- ถ่ายทอดเรื่องราวของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ตั้งแต่เมื่อครั้งยังเป็นมนุษย์จนบรรลุเป็น พระโพธิสัตว์ ผู้มากด้วยความกรุณาที่มีต่อทั้งมนุษย์และสรรพสัตว์ โดยระงับการนิพพานไว้จนกว่าจะช่วยเหลือมวลมนุษย์และเหล่าสัตว์ทั้งหมดจนพ้นจากความทุกข์
(เสาพุทธเถรวาท) หลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดด้วยปัญญาและความเพียร
- การบำเพ็ญเพียรของพระโพธิสัตว์ทั้งสิบชาติ ด้วยคุณธรรมสิบประการ ได้แก่ เนกขัมบารมี วิริยะบารมีเมตตาบารมี อธิษฐานบารมี ปัญญาบารมี ศีลบารมี ขันติบารมี อุเบกขาบารมี สัจจะบารมี และทานบารมี เรื่องราวทั้งหมดนี้ได้ถูกร้อยเรียงไว้ เพื่อแสดงให้เห็นถึงการบำเพ็ญเพียรอย่างอุตสาหะของมหาบุรุษ ก่อนที่จะได้มาตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ชี้หนทางแห่งการหลุดพ้นจากความทุกข์แก่มวลมนุษยชาติ

ลวดลายจำหลักดีบุกที่เสาทั้งสี่ต้นนั้น จึงสื่อความหมายถึงความงดงาม และง่ายในการมองเห็นศาสนาแต่แฝงไว้ซึ่งกุศโลบาย ให้เกิดการศึกษา ทำความเข้าใจ และปฏิบัติเพื่อให้เข้าถึงแก่นของศาสนาอย่างแท้จริง ด้วยเจตนารมณ์ของผู้สร้างช้างเอราวัณ ที่จะนำเอายอดแห่งแก่นสารทางวัฒนธรรมมาเผยแพร่ในรูปแบบที่เข้าใจง่ายนั้น จึงได้ใช้ศิลปะเป็นเครื่องมือสำคัญ ทำหน้าที่รักษาวัฒนธรรมและจรรโลงศาสนา และแสดงกตัญญุตาสืบทอดเจตนารมณ์เดิมที่จะสร้างช้างเอราวัณด้วยดีบุก แต่ต้องเปลี่ยนไปใช้แผ่นทองแดงแทน เพื่อความเหมาะสม ต้นเสาทั้งสี่ภายในตัวอาคาร จึงถูกหุ้มด้วยภาพสลักดุนดีบุกในเรื่องราวของศาสนาที่ประณีตและงดงามทั้งสิ้น


ระเบียบและข้อปฏิบัติในการเข้าชม
• โปรดอย่าทำเสียงดังทำลายความสงบภายใน
• โปรดอย่าแตะต้องขีดเขียนบนสิ่งก่อสร้าง
• โปรดอย่าเด็ดดอกไม้ ใบไม้
• โปรดอย่าปีนไต่รูปปั้น และสถานที่ก่อสร้างต่างๆ
• โปรดอย่าทิ้งสิ่งของสกปรก
• โปรดอย่าลงเล่นน้ำในบึง บ่อ คลอง และน้ำตก
• ห้ามนำอาวุธปืน และวัตถุระเบิดเข้าภายในพื้นที่พิพิธภัณฑ์
• ห้ามจุดประทัด ดอกไม้ไฟ หรือก่อกองไฟเด็ดขาด
• ห้ามนำสัตว์เลี้ยงทุกชนิดเข้าภายในพื้นที่พิพิธภัณฑ์
• ห้ามสูบบุหรี่ ภายในอาคาร
• ห้ามนำอาหารและเครื่องดื่มเข้าภายในอาคาร
• ห้ามถ่ายภาพวัตถุโบราณ
• ห้ามถ่ายภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหวทุกชนิดเพื่อการค้า หรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใด* ก่อนได้รับอนุญาต
* กรุณาติดต่อสอบถามเป็นรายกรณี ที่เบอร์ 02-3713135-6 ฝ่ายการตลาด 112
ในวันจันทร์ – ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 8.00 – 17.00 น.

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของพิพิธภัณฑ์ ให้คำแนะนำตามสมควร หากผู้ใดละเมิดจะถูกเชิญออก และถ้าเกิดความเสียหาย ผู้ทำความเสียหายจะต้องรับผิดชอบ สำหรับท่านที่มาเป็นหมู่คณะ สถาบัน องค์กร หรือหน่วยงานที่สังกัดจะต้องรับผิดชอบการกระทำของบุคคลที่ร่วมมาในคณะ

การเดินทางสู่พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ
รถยนต์ส่วนตัว
ใช้เส้นทางด่วน ปลายทางที่บางนา – สมุทรปราการ ลงเส้นถนนสุขุมวิท ตรงไปทางสำโรง ผ่านคาร์ฟูร์(สำโรง) ชิดซ้ายแล้วเลี้ยวซ้ายกลับรถใต้ทางด่วนเข้าพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ

รถโดยสารสาธารณะ
รถประจำทางสาย 25, 142, 365
รถปรับอากาศสาย ปอ.102, ปอ.507, ปอ.508, ปอ.511, ปอ.536

เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.00 น. – 17.00 น.
ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก (อายุ 6-15) 100 บาท
ผู้ใหญ่ต่างชาติ 300 บาท เด็กต่างชาติ 150 บาท

ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ
99/9 หมู่ 1 ตำบลบางเมืองใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ 10270
โทร 0-2371-3135-6 โทรสาร 0-2380-0304 

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก เว็บไซต์พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.erawan-museum.com/