สงครามโลกครั้งที่ 2 (พ.ศ. 2482-2488)
ทีมงานทรูปลูกปัญญา | 2011-04-18 11:40:01
สงครามโลกครั้งที่ 2 (พ.ศ. 2482-2488)
ความตึงเครียดระหว่างประเทศที่เกิดขึ้น นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 1 สิ้นสุดลงพิสูจน์ให้เห็นว่าสงครามไม่สามารถแก้ปัญหาข้อขัดแย้งได้ การเจรจาหลังสงครามยุติก็ยิ่งก่อความไม่พอใจกับประเทศที่เกี่ยวข้อง นอกจากแก้ปัญหาแล้วเงื่อนหลายข้อที่เกิดจากสนธิสัญญาสันติภาพแวร์ซายส์ ยังก่อปัญหาเพิ่มขึ้น เมื่อสถานการณ์ความขัดแย้งดำเนินไปจนถึงขีดสุดโดยมาตรการต่างๆไม่สามารถ ป้องกันได้ สงครามโลกครั้งที่ 2 (World War II) ก็เกิดขึ้นผู้แพ้อย่างเยอรมนีและความพร้อมที่จะแสดงบทบาทสำคัญให้โลกประจักษ์อีกครั้งหนึ่ง
มูลเหตุของสงคราม
1. ความหย่อนประสิทธิภาพขององค์การสันนิบาตชาติ แม้จุดประสงค์สำคัญของการก่อตั้งองค์การแห่งนี้คือ การรักษาสันติภาพองค์การสันนิบาตชาติไม่อาจทำสำเร็จเพราะอุปสรรคข้อใหญ่ 6 ประการ
1.1 ประเทศมหาอำนาจที่สำคัญไม่ได้ร่วมเป็นสมาชิกก่อตั้งคือ สหรัฐอเมริกา รัสเซียจะเข้าร่วมเป็นสมาชิกก็เมื่อเวลาผ่านไปนานแล้วคือ พ.ศ. 2477 (รัสเซียเปลี่ยนชื่อเป็นสหภาพโซเวียตหลังเปลี่ยนแปลงการปกครองใน พ.ศ. 2460)
1.2 สันนิบาตชาติทำได้เพียงแต่เสนอแนะให้สมาชิกทำตาม แต่ไม่อำนาจบังคับเหตุการณ์ตึงเครียดต่างๆ ที่ชี้ให้ถึงความล้มเหลวในการรักษาสันติภาพขององค์การสันนิบาตชาติที่สำคัญ การยึดครองแมนจูเรียของญี่ปุ่นใน พ.ศ. 2475 สันนิบาตชาติไม่สามารถหยุดยั้งการกระทำดังกล่าวไดและญี่ปุ่นยังท้าทายโดยการลาออกจากสมาชิกภาพ
1.3 การครอบครองเอธิโอเปียของอิตาลีใน พ.ศ. 2479 แม้องค์การสันนิบาตชาติใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจก็ไม่สามารถหยุดยั้งอิตาลีได้ อิตาลีก็ลาออกจากสมาชิกภาพเช่นเดียวกับญี่ปุ่น
1.4 สงครามกลางเมืองในสเปนระหว่างพวกฟาสซิสต์ (Fascists) กับพวกนิยมระบอบสาธารณรัฐ
1.5 การรุกรานจีนของญี่ปุ่นใน พ.ศ. 2480-2482 ทำให้ญี่ปุ่นสามารถยึดครองพื้นที่ของจีนได้ถึง 1 ใน 4
1.6 การผนวกออสเตรียและเชโกสโลวะเกียของเยอรมนีใน พ.ศ. 2481 และ พ.ศ. 2482
2. ความปรารถนาที่จะสร้างความยิ่งใหญ่ของเยอรมนี ความไม่พอใจสนธิสัญญาสันติภาพแวร์ซายส์ ปัญหาทางเศรษฐกิจที่เยอรมนีได้รับเพราะเพราะต้องเสียดินแดนเป็นค่าปฏิกรรม สงครามให้แก่ฝ่ายสัมพันธมิตรสิ่งสำคัญคือความฝังใจของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ผู้นำเยอรมนีที่มีความภาคภูมิใจในความยิ่งใหญ่ของชนเผ่าอารยันว่าสูงเหนือกว่าชนเผ่าพันธุ์อื่น สู่การบีบคั้นเข่นฆ่าเผ่าพันธุ์ที่ด้อยกว่า คือ ยิว
3. การรวมกลุ่มพันธมิตรระหว่างเยอรมัน อิตาลีและญี่ปุ่น ซึ่งต่างก็ปกครองด้วยระบบฟาสซิสต์
4. ความอ่อนแอของอังกฤษและฝรั่งเศส ซึ่งแสดงท่าทีประนีประนอมกับฝ่ายอักษะ
การเกิดสงครามและผลของสงคราม
ฮิตเลอร์ผู้นำพรรคนาซีได้อำนาจบริหารประเทศ ได้นำเยอรมนีออกจากการเป็นสมาชิกสันนิบาตชาติในพ.ศ. 2475 เริ่มละเมิดสนธิสัญญาแวร์ซายส์ เช่นการเสริมสร้างอาวุธและแสนยานุภาพทางกองทัพบุกยึดเขตไรน์แลนด์ โดยไม่ฟังเสียงคัดค้านของอังกฤษและฝรั่งเศส เมื่อเยอรมนียึดครองโปแลนด์อังกฤษและฝรั่งเศสจึงประกาศสงครามกับเยอรมนีวันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2482
สงครามดำเนินไปจนยุโรปแทบทั้งหมดอยู่ภายใต้การยึดครองของฝ่ายอักษะ อังกฤษแม้ยังยืนหยัดอยู่แต่ก็ถูกโจมตีทางอากาศอย่างหนัก เยอรมนีส่งกองทหารบุกสหภาพโซเวียตในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2484 และญี่ปุ่นโจมตีฐานทัพเรือสหรัฐอเมริกาที่เพิร์ล ฮาร์เบอร์ (Pearl Harbor) หมู่เกาะฮาวาย ในวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2484 ทำให้สหภาพโซวียตและสหรัฐอเมริกาประกาศสงครามต่อฝ่ายอักษะด้วยและผนึกกำลังร่วมกับฝ่ายพันธมิตรตอบโต้เยอรมนี อิตาลี ละญี่ปุ่นจนถึงเยอรมนีต้องประกาศยอมแพ้อย่างไม่มีเงื่อนไขเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2488 ส่วนที่ญี่ปุ่นซึ่งยึดครองประเทศต่างๆ ในเอเชียและมีไทยเป็นพันธมิตรแบบจำยอมยังคงรบต่อไปจนกระทั่งสหรัฐอเมริกาต้องตัดสินใจใช้อาวุธที่เป็นประดิษฐกรรมล่าสุดคือการทิ้งระเบิดปรมาณูถล่มเมืองฮิโรชิมา (Hiroshima) ญี่ปุ่น
การเข้าเป็นสมาชิกขององค์การสหประชาชาติ
เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลงบรรดาประเทศฝ่ายพันธมิตรได้จัดตั้งองค์การสหประชาชาติขึ้น
1. ทำสนธิสัญญากับฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2489 ยกดินแดนที่ได้มาจากฝรั่งเศสในกรณีพิพาทอินโดจีน คือ ดินแดนทางฝั่งขวาของแม่น้ำโขงละเขมรส่วนใน ได้แก่ พระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณ คืนให้แก่ฝรั่งเศสดังเดิม ฝั่งเศสจึงตกลงที่จะเลิกคัดค้านการเข้าเป็นสมาชิกองค์การสหประชาชาติของไทย
2. เปิดสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับสหโซเวียต
3. เปิดสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับสาธารณรัฐจีนเป็นครั้งแรก ในพ.ศ. 2497 ไทยได้เข้าร่วมสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันร่วมกันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (สปอ.) เพื่อร่วมมือประเทศอื่นๆ อีก 7 ประเทศ คือสหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ฟิลิปปินส์ และปากีสถาน ต่อต้านการขยายตัวของฝ่ายคอมมิวนิสต์นับแต่นั้นมา ต่อมาองค์การได้ยุบเลิกไปใน พ.ศ. 2520
เมื่อประเทศฝ่ายเสรีประชาธิปไตยและฝ่ายคอมมิวนิสต์หันมาดำเนินนโยบายเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดและประนีประนอมกันมากขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงเรียนศึกษานารี เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร
จัดทำโดย นางสาวเพชรดา วิทยานนท์