www.trueplookpanya.com
คลังความรู้
แนะแนว
ข่าวรับตรง
ธรรมะ




แนะแนว > พี่แนะน้อง

portfolio : เต๋า AF8
ทีมงานทรูปลูกปัญญา | 2015-10-02 18:10:39

เรื่องและภาพ : กัลยาณี แนวเล็ก

 เต๋า AF8 


เต๋า AF8


“ไม่มีความจำเป็นเหลือให้เธอพอใจ เหมือนของที่เธอไม่เอาเลยอยากทิ้ง” เนื้อเพลงแอบเศร้าบวกกับเสียงร้องที่ชวนให้อินไปตามเพลง “ไม่มีความจำเป็น” ของนักร้องหนุ่มขาวใสศิษย์ AF เต๋า-เศรษฐพงศ์ เพียงพอ หรือ เต๋า AF8 ล่าสุดกับบทคิง พระรองผู้น่าสงสารในซีรีส์รีเมคเวอร์ชันไทยเรื่อง Kiss Me รักล้นใจ นายแกล้งจุ๊บ ทางช่องทรูโฟร์ยู นอกจากงานละครที่มีอย่างต่อเนื่องเต๋าก็มีโอกาสได้พากย์เสียงในหนังต้อนรับปิดเทอม โปเกมอน เดอะมูฟวี่ พร้อมร้องเพลงประกอบ


แรงบันดาลใจให้อยากเป็นนักร้อง

อย่างแรกเลยก็คือคุณพ่อ คุณพ่อเล่นกีตาร์ ร้องเพลงครับ ซึ่งเราก็เห็นมาตั้งแต่เราตัวเล็กๆ พ่อก็จะซื้อกีตาร์ตัวเล็กๆ ให้เราถือ พ่อก็มีวงดนตรีของพ่อ ต้องบอกก่อนว่าพ่อก็เคยมีความฝันว่าจะเป็นนักร้องเหมือนกัน เพราะพ่อก็ทำเทปอัดเพลง เดินไปให้ค่ายต่าง ๆ เหมือนกันตอนนั้น เออเราน่าจะได้เชื้อพ่อมา เราก็เลยแบบว่ารู้สึกสนุก รู้สึกอินเวลาเล่นดนตรีหรือว่าร้องเพลงนะครับ อยู่กับดนตรีฟังเพลงแล้วเรามีความสุขจังเลย และอีกอย่างหนึ่งคือรายการประกวดร้องเพลงที่มีมาไม่ว่าจะเป็นเอเอฟที่เปิดโอกาสให้กับคนที่มีฝันที่ไม่ได้มีอยู่แค่ในกรุงเทพ พอมีโอกาสมีประตูมาถึงที่แล้วเนี่ย เราก็คิดว่าเออมันเป็นโอกาสที่เขาเรียกว่ามีหลายล้านคนที่อยากจะได้มันแต่ว่าก็ต้องแข่งขันและต้องพยายามให้ถึงที่สุด และก็ไม่ยอมล้มเลิกความฝัน
 

เต๋า AF8
เพลงแรกของเต๋า

เพลงแรกที่หัดเล่นกีตาร์และกล้าที่จะร้องเพลงดีกว่า แต่ว่าไม่ได้ไปร้องโชว์ที่ไหน คือหัดเล่นและก็ร้องในห้อง เป็นเพลงที่ร้องบ่อยที่สุด ในยุคนั้นก็จะดังพอสมควรเพลงรักครั้งแรกของวงบางแก้ว ก็มาหัดเล่นกีตาร์ จำได้เลยคอร์ด E ขึ้นก่อน แล้วมันอารมณ์แบบวัยรุ่นมากเลยตอนนั้น ตั้งแต่มัธยมมันก็ได้ฟีลไปจีบสาว


ก้าวต่อไปในวงการเพลง

วงการเพลงสมัยนี้ก็มีคนเป็นนักร้องเยอะนะครับ และที่สำคัญคือรายได้ไม่ค่อยมีละ บอกตรง ๆ เลยว่ารายได้น้อยมากจากการดาวน์โหลดเพลง เพราะว่ามีดาวน์โหลดเถื่อนก็มี แผ่นผีก็มี mp3 ก็ยิ่งเยอะ จริง ๆ เราก็อยากทำเพลงต่อนะครับ แต่ว่าก็อยากจะให้แฟน ๆ ช่วยสนับสนุน หรือว่าคนไทยทุกคนสนับสนุนของจริงนะครับ เขาจะได้มีงบประมาณในการทำเพลงต่อ อันนี้พูดจริง ๆ นะครับ ถ้าสมมติว่าไม่มีคนซื้อเขาก็ทำออกมาเขาก็ไม่ได้ขายอยู่ดี ก็ต้องพูดว่าเป็นธุรกิจอย่างหนึ่ง แต่ว่าถ้าเป็นความฝันที่ร้องเพลงเนี่ยก็จะร้องไปเรื่อย ๆ เรามีความสุขกับการร้องเพลง ได้เล่นดนตรี ได้อยู่กับเพื่อน จะไปร้องที่ไหนเราก็อยากจะร้องอยู่แล้ว อันนั้นมันสามารถร้องได้อยู่แล้ว แต่อนาคตของการทำเพลงมันก็อยู่ที่ตัวเราด้วยและตัวลูกค้าด้วย และตัวคนซื้อด้วย อันนี้ก็อยากจะฝากแฟน ๆ ทุกคนช่วยกันสนับสนุนของจริงนะครับผม
 

เต๋า AF8


เรื่องของงานละคร

ตอนที่ผมเข้ามาในบ้านเอเอฟผมไม่ได้เสนอด้านนี้เลย คือผมไม่ได้มีความสามารถในด้านนี้เลย ศูนย์เลยเพราะเราไม่เคยเรียน ไม่รู้มาก่อนเลยว่าการแสดงคืออะไร และต้องทำยังไงให้เป็นนักแสดงให้ได้ จนมาถึงตอนนี้ผมก็งงตัวเองเหมือนกันว่าอยู่ดี ๆ มันมาได้ไง ก็ต้องมองย้อนกลับไปตั้งแต่อยู่บ้านเอเอฟ ว่าเรามีโอกาสได้เรียน และโชคดีมากเลยที่ผมมีโอกาสเรียนสามเดือนเต็ม ๆ เพราะว่าแฟน ๆ ช่วยโหวตให้ผมอยู่ต่อถึงสามเดือนครบ ก็เลยทำให้ผมได้เรียนรู้การแสดง เรียนรู้การร้องเพลง เรียนรู้การเต้นเยอะขึ้นได้มากขึ้น ได้เรียนรู้กับอาจารย์ที่มีคุณภาพระดับประเทศระดับโลกเลย ผมก็ทำให้เราเริ่มคลำทางว่าเราจะไปทางไหนดี และก็มีความสามารถในด้านอื่น ๆ นอกจากร้องเพลงมาเสริมในตัวเราทำให้เราทำอะไรได้หลายอย่างนะครับ ทั้งการแสดง การร้องเพลง

แต่พอได้ออกมาจากบ้าน เราก็มีโอกาสได้มาเล่นซีรีส์คอฟฟี่ปริ้นส์ นั่นก็เป็นอีกจุดหนึ่งนะครับที่ทำให้เราเริ่มจริงจังเรื่องของการแสดงเพราะว่ามันเป็นซีรีส์ที่ดังมาก ๆ ของเกาหลีแล้วเราเอามาทำเป็นรีเมคเป็นเวอร์ชันไทย ซึ่งทุกคนก็ต้องคาดหวังอยู่แล้วว่าจะต้องออกมาไม่น่าเกลียด และต้องให้ดีกว่า ทำให้ต้องตั้งใจและทางพี่ย้งเขาก็ขอนักแสดงทุกคนที่เล่นให้ไปเวิร์กชอปกับเขา ครูบิว กับครูเชลนะครับ ทั้งหมดเดือนกว่าแล้วก็ไปฝึกการแสดงตั้งแต่พื้นฐานใหม่หมดเลย ตั้งแต่การหายใจ การเดิน การคิด การจินตนาการ บอกเลยตอนแรกงงมาก ๆ ขนาดเรียนอยู่บ้านเอเอฟออกมาสามเดือนก็มาเจออีกก็ยังงงอยู่อีก แต่ว่าพอได้มาทำการแสดงจริง ๆ มันเลยได้รู้ว่ามันเป็นยังไงมากกว่า จากการที่เราเรียนอยู่แล้วเราก็ยังนึกภาพไม่ออกหรอก แต่พอเราไปอยู่หน้ากล้อง หน้าเซทแล้วเนี่ย ได้ไปดูผู้ใหญ่ประสบการณ์เยอะ ๆ เขาเล่นกันเขาเล่นยังไง ส่งอารมณ์กันยังไงที่สำคัญคือสมาธิครับ ก็เลยทำให้เรารู้ว่า เออ การแสดงมันก็ไม่ได้ยากเกินกว่าความสามารถของเรานะถ้าเราตั้งใจครับ
 

เต๋า AF8


บทบาทที่ได้รับในงานแสดง

บทบาทที่ได้รับส่วนใหญ่ก็จะอยู่ในช่วงวัยรุ่น และก็ฝึกงานประมาณมัธยม มหาวิทยาลัย บทบาทก็จะแตกต่างที่คาแรกเตอร์มากกว่า จะมีทั้งกวน ๆ เงียบขรึมเลยก็มี และก็สลับร่างเลยก็มี ต้องเล่นเป็นผู้หญิงด้วยก็ยากเป็นละครเรื่องแรกด้วยคู่ปรับสลับร่างตอนนั้นจำได้เลย เครียดเหมือนกันแต่ว่าก็ต้องศึกษาและดีที่มีพี่แพทช่วยไปเยอะครับ และพอมาเล่นหนังก็ต้องเล่นโตกว่าอายุหน่อย เป็นคนที่แบบเงียบ ๆ แต่จริง ๆ แล้วร้ายมาก หนึ่งคาแรกเตอร์นั้นก็เป็นเด็กที่บ้านมีปัญหาดราม่าเก็บกด ก็จะหลากหลายครับ จะไม่ค่อยได้ซ้ำทางกันเท่าไหร่
(บทที่อยากเล่น) ก็มีอีกหลายบทนะครับ คงจะเป็นฟีลผู้ชายที่ดูโรแมนติกหน่อย เพราะตอนนี้เรากวน ๆ ไปหมดเลย ถ้าได้โรแมนติกหรือว่าฉีกแนวไปเลยเป็นแอคชั่นก็น่าจะดี


ยกให้เป็นไอดอล

รุ่นพี่แหละครับ เพราะว่าเราได้ใกล้ชิดที่สุดและเราเห็นผลงานเขามาตลอด มีพี่ตุ้ย เกียรติกมล และพี่บอย พิษณุ พี่ สองคนนี้คือเราจะปรึกษาได้ตลอดเวลา ไม่ว่าเราจะมีปัญหาเรื่องอะไร เราก็จะขอคำแนะนำจากพี่ ๆ เขาก็มีประสบการณ์และเขาก็ยินดีที่จะช่วยเหลือน้องคนนี้เต็มที่ครับ ถ้าเราทำตัวให้ได้แบบเขาหรือว่าทำงานแล้วผลงานให้ได้แบบเขาเราก็จะสามารถอยู่ในวงการนี้ได้นานครับ


เป้าหมายที่วางไว้

จริง ๆ แล้วเราก็อยากจะทำตรงนี้แหละครับ เคยคิดเล่น ๆ นะว่าอยากจะลองไปเป็นดีเจดู จะเป็นยังไง นั่งพูดคนเดียวหน้าไมค์ ไม่มีใครโต้ตอบกับเรา เราจะเป็นยังไง เราชอบฟังเพลงอยู่แล้วไง แล้วก็เปิดเพลงให้แฟนเพลงได้ฟังว่าเพลงที่เราชอบเป็นแบบนี้ ๆ นะ แต่จริง ๆ แล้วคงเป็นไปไม่ได้หรอกครับ เพราะว่าเขาเปิดให้เพราะว่าแฟน ๆ ขอมา ก็อาจจะลองดูครับ แล้วถ้าเราไปนั่งหน้าไมค์คนเดียวแล้วเราจะพูดรู้เรื่องไหม แล้วก็มันจะรู้สึกยังไง จะสนุกหรือเปล่า (ชอบพูดคุย) จริง ๆ ไม่ชอบนะครับ ไม่ได้ชอบคุยอะไรขนาดนั้นนะครับ แต่ว่าถ้าสมมติได้ไปอยู่ตรงนั้นอาจจะช่วยฝึกเราก็ได้ให้เราเป็นคนช่างพูดมากขึ้นครับ
 

เป้าหมายในชีวิต

อย่างแรกให้ครอบครัวสบายก่อน เราทำงานตรงนี้เราก็ให้ที่บ้านหมด เราอยากจะให้คุณพ่อคุณแม่ ป้า พี่น้อง ญาติพี่น้องทุกคนสบายและก็ไม่อยากให้ทำงานหนักเหมือนเมื่อก่อน เราก็ผ่านตรงนั้นมาได้ พอมีโอกาสตรงนี้เราก็อยากจะทำทุกอย่างให้เต็มที่และก็ทำให้คนที่จ้างเรา คนที่เชื่อใจเราในการทำงานภูมิใจ พอใจ และแฟน ๆ ที่รอผลงานติดตามของเราอยู่ภูมิใจกับตัวเราด้วย ผลงานของเราด้วย และที่สำคัญคือให้ครอบครัวสบายและก็เป็นเสาหลักของที่บ้าน ตอนนี้เราก็อยากจะทำอะไรก็ได้ให้เราได้โลดแล่นอยู่ในวงการให้ได้นานที่สุด เพราะว่าเราก็ชื่นชอบสนุกกับมัน ไม่ใช่เพราะคำว่าเงินมันก็ไม่ใช่ คือเราก็สนุกกับมันที่ได้ทำ ผมชอบมัน ผมรักมัน และก็อยากจะทำให้แฟน ๆ และก็คนดูและคนจ้างงานพอใจ ดีใจและชื่นชอบฝนผลงานของเราที่เราได้ผลิตออกมาหรือว่าแสดงออกมาครับ ก็อยากจะอยู่ตรงนี้ให้นานที่สุดครับ

 

instagram: taophiangphor
twitter: @TaoPhiangphor