เรื่องและภาพ: กัลยาณี แนวเล็ก

 วี วิโอเลต 

สาวน้อยเจ้าของเสียงหวานแปลกเป็นเอกลักษณ์ เรียกให้โค้ชทั้งสี่หันเก้าอี้มาแย่งชิงเข้าทีมเดอะวอยซ์ซีซั่นที่ผ่านมา ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นแจ้งเกิดในวงการเพลงของเธอคนนี้ วี-วิโอเลต วอเทียร์ นอกจากงานเพลงแล้วเธอยังเป็นดีเจของคลื่น Cat Radio โตโตแมวแมว ล่าสุดอีกหนึ่งบทบาทคือ นักแสดงในหนัง “ฟรีแลนซ์..ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ” หนังโปรเจ็คต์ยักษ์ประจำปีนี้ของค่ายจีทีเอช

ทำไมถึงเลือกประกวด the voice

แค่ลองดูค่ะ จริง ๆ ไม่ได้คาดหวังว่าจะเป็นประตูเข้าวงการหรืออะไร แต่มันดันเป็นอย่างนั้น คือไปประกวดเพราะอยากรู้ว่าตัวเองร้องดีหรือเปล่า ตอนนั้นเป็นปัญหาที่ว่าไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองแล้วทางบ้านและเพื่อนก็บอกว่า เอ้ย ร้องดีก็เลยยุให้ไปประกวดก็เลยลองไปประกวดดูเฉย ๆ ค่ะ

ชอบร้องเพลงมานานแล้วค่ะ (อยากเป็นนักร้องอยู่แล้ว) ก็อยากเป็นอยู่ลึก ๆ แหละเออ (หัวเราะ)
 

เรียกว่านักร้องเต็มตัวได้หรือยัง

วีรู้สึกว่ายังไม่สุดค่ะ เพราะว่าวียังไม่ได้ปล่อยเพลงที่เป็นวีทำเองออกมาเลย มันยังเป็นเพลงประกอบหนัง ประกอบละคร ยังไม่ได้เป็นเพลงที่เป็นซิงเกิ้ลของเรา เพราะฉะนั้นวียังไม่กล้าพูดได้เต็มปากขนาดนั้นค่ะ

(เพลงของวี) เอาจริง ๆ คือการจำกัดแนวเพลงบางครั้งมันอยู่กึ่ง ๆ ตัววีเองก็ยังหาคำจำกัดความอยู่เลย (แนวเพลงที่บอกความเป็นตัวตนของวี) น่าจะเป็นเพลงเรื่องซินเดอเรลลา A Dream Is A Wish Your Heart Makes วีว่ามันเป็นเพลงที่สื่อความหมายได้ตรง และวีชอบเพลงนี้ด้วยค่ะ ก็น่าจะสื่อความเป็นตัววีได้ดีที่สุดมั๊ง (หัวเราะ)

แต่งเพลงเองด้วย วัตถุดิบในการแต่งเพลงคืออะไร

มาจากตัวเองล้วน ๆ เลยค่ะ ตอนแต่ง walk your home คือแต่งจากโจทย์ไม่ได้แต่งจากตัววีเอง แต่ว่าถ้าพอเป็นเพลงส่วนใหญ่ที่แต่งคือจะเอาเรื่องราวของวีมาแต่ง คือมันเหมือนเป็นการระบายอารมณ์หรืออะไรก็ตามของวีลงผ่านเพลงก็จะเป็นเรื่องรอบตัววี
 

แล้วนักแสดงล่ะ

เมื่อมีโอกาสมาแล้ว ก็ขอลองดูค่ะ ลองแล้วชอบก็เลยรับเล่นมาเรื่อย ๆ (หัวเราะ) คือจริง ๆ วีก็เลือกด้วยว่าโอเคมันเหมาะกับเราหรือเปล่า บางบทมันก็ดูแบบ เอ้ยยังไม่ใช่เรา อย่างมีละครติดต่อมาแต่ตอนนี้วียังเรียนอยู่ แล้วละครกับภาพยนตร์คือมันคนละศาสตร์กัน ก็เลยยังรู้สึกว่าวียังเข้าไม่ถึงศาสตร์ของละคร บวกกับตารางเวลาของวีก็ยังไม่ว่างมากด้วย

เด็กฝึกงานเขียนบทหนังที่ GTH

ส่วนหนึ่งคือวีชอบเป็นคนฉลาด วีชอบเป็นตัวสมอง การเขียนบทคือเป็นตัวสมองของเรื่องเลย วีก็เลยอยากลองเน้นไปทางนั้น (หนังของวี) น่าจะเป็นเรื่องความสัมพันธ์ของคน ผ่านมุมมองของผู้หญิง เพราะถ้าดูจากที่วีเคยทำส่งอาจารย์ที่คณะนิเทศฯ มันก็เป็นเรื่องแบบความสัมพันธ์เพื่อนสนิท เป็นเรื่องแบบมุมมองผู้หญิง ๆ เป็นเรื่องเบา ๆ
 

การเขียนเพลงกับเขียนบทภาพยนตร์ มีจุดเหมือนหรือต่างกันยังไง

เอาจริง ๆ คือต่างมันก็รู้อยู่แล้ว เพราะว่ามันคือคนละอย่างกันใช่ไหมคะ เหมือนกันมันต้องมีบิ๊กไอเดียคือภาพยนตร์ถ้าเราจะเขียนเรื่องหนึ่งเราต้องมีไอเดียใหญ่ ๆ เรื่องหนึ่งที่จะบอกว่าเราพูดถึงอะไร และเล่าอะไร เพลงก็เหมือนกัน คือเราต้องบอกว่าเราเล่าอะไรอยู่ หรือพูดถึงอะไรอยู่ อันนั้นน่าจะเป็นข้อที่เหมือนกันค่ะ
 

DJ Cat Radio

ทาง Cat Radio ชวนมาค่ะ เขามองว่าวีเป็นคนที่ค่อนข้างเป็นธรรมชาติ สบาย ๆ  ดีเจที่เขาอยากได้ก็น่าจะเป็นธรรมชาติแบบวี แต่ถือว่าเป็นงานยากตรงที่วีไม่ใช่คนพูดเก่ง ไม่ใช่แนวเอนเตอร์เทนจัด ๆ ช่วงแรก ๆ นี่ก็เลยต้องค่อยเรียนรู้กันไป ถือว่ายังเป็นช่วงฝึกอยู่ (เรื่องสนุก) น่าจะเป็นตอนหัดใช้เครื่องมือดีเจค่ะ และคือวี proud เรื่องนี้มาก หัดอยู่สามอาทิตย์วีลุยเดี่ยวคุมเครื่องเองได้เลย เป็นความภูมิใจหนึ่งมากค่ะ

ก้าวต่อไปของวี

เรียนให้จบก่อนแล้วกัน (หัวเราะ) วีก็คงจะอยู่แถว ๆ นี้ค่ะ ไม่น่าจะไปไกลกว่านี้อาจจะทำตรงนี้ให้ดีกว่าเดิมมากกว่า เพราะตอนนี้มันยังจับฉ่ายอยู่ยังไม่ได้มีอันไหนดีสุด ๆ ไปเลย ก็เลยอยากให้ทำให้ดีที่สุด เป็นดีเจเพื่อหาประสบการณ์ ใจจริงคืออยากเน้นมาทางเพลงและภาพยนตร์มากกว่า