เจ้าแห่งเพลงขลุ่ย
วันที่ ๔ กันยายน เป็นวันคล้ายวันเกิดของคีตกวีไทยท่านหนึ่ง ที่มีความเชี่ยวชาญในการเดี่ยวเครื่องดนตรีไทยหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นปี่ ขลุ่ย หรือระนาดเอก ทั้งยังได้เคยเดี่ยวขลุ่ยถวายสมเด็จพระนางเจ้าวิคตอเรียแห่งอังกฤษ เมื่อปี ๒๔๒๘ เป็นที่พอพระราชหฤทัยมาก ได้รับสั่งถามว่า “เวลาเป่า หายใจบ้างหรือไม่” เพราะเสียงขลุ่ยดังกังวานอยู่ตลอดเวลา คีตกวีไทยท่านนี้คือพระยาประสาน ดุริยศัพท์ ชื่อเดิมคือนายแปลก ประสานศัพท์ นักดนตรี ๑ ใน ๑๙ คนที่ได้รับการคัดเลือกให้ไปแสดงฝีมือดนตรีไทยในประเทศอังกฤษ เนื่องในงานมหกรรมแสดงสินค้าและดนตรีนานาชาติที่รัฐบาลอังกฤษจัดขึ้นและได้เชื้อเชิญประเทศสยามให้เข้าร่วมแสดงดนตรีด้วย
จากความรู้ความสามารถในดนตรีไทยเป็นเลิศนั้น ทำให้นายแปลก ฯ มีความก้าวหน้าในราชการ ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นขุนประสานดุริยศัพท์ หลวงประสานดุริยศัพท์ พระประสานดุริยศัพท์ จนถึง พระยาประสานดุริยศัพท์ เป็นเจ้ากรมปี่พาทย์หลวงในสมัย ร.๖ อันเป็นตำแหน่งสูงสุด
อย่างไรก็ตาม ในยุคสมัยที่วัฒนธรรมการดนตรีตะวันตกหลั่งไหลเข้ามาไม่หยุดเช่นปัจจุบัน ถ้าจะถามว่ามีใครรู้จักเพลงของพระยาประสานดุริยศัพท์บ้าง นอกจากคอดนตรีไทยจริงๆ แล้ว ก็คงจะพากันปฏิเสธ เพราะสมัยนี้คนไทยไม่ค่อยได้ฟังดนตรีไทยแบบดั้งเดิม แต่จะได้ฟังเพลงไทยสากลบ้าง เพลงลูกทุ่งบ้างที่ดัดแปลงมาจากทำนองไทยเดิม ฟังโดยไม่รู้ที่มา บางคนอาจคิดว่าแต่งขึ้นใหม่ แต่ความจริงใช้ทำนองไทยเป็นหลักอยู่ ซึ่งในส่วนของพระยาประสานฯ ก็มีเพลงของท่านที่ถูกนำมาดัดแปลง เรียบเรียงใหม่หลายเพลงและยังนิยมกันอยู่ถึงปัจจุบัน อย่าง เพลงมัทรีร้องไห้ ร้องโดยบุษยา รังสี ...ยามเย็นจวนค่ำ.. ตะวันต่ำ.. อกช้ำ..น้ำตานองใจ..นั่นก็มาจากเพลงธรณีร้องไห้ หรือธรณีกรรแสง เพลงดำเนินทราย ...แสงจันทร์นวลผ่อง พี่อยู่กับคู่ประคอง..เพลงยอดนิยมสำหรับคู่บ่าวสาว (สมัยยังไม่มีเพลงแต่ปางก่อน) นั่นก็มาจากเพลงลาวดำเนินทราย ที่พระยาประสานดุริยศัพท์ท่านนำทำนองร้องสักวาของจ่าโคมมาแต่งทำนองดนตรี และความไพเราะของเพลงลาวดำเนินทรายนี้เอง ก็ทำให้กรมหมื่นพิชัยมหินทโรดมทรงพระนิพนธ์เพลงลาวดวงเดือนขึ้นมาบ้าง พระยาประสานดุริยศัพท์ (แปลก ประสานศัพท์) รับราชการมาจนถึงต้นปี ๒๔๖๗ ก็ล้มเจ็บ และถึงแก่อนิจกรรมเมื่อวันที่ ๕ มีนาคมปีนั้นเอง ซึ่งพระยาภูมีเสวินกล่าวไว้ว่า การสูญเสียชีวิตของพระยาประสานดุริยศัพท์ เท่ากับเป็นการสูญเสียตำราดนตรีตู้ใหญ่ที่สุดตู้หนึ่งไป
ที่นำเรื่องนี้มาเผยแพร่ไว้ ก็เพื่อให้คนไทยได้รู้จักคีตกวีคนสำคัญของไทย และไม่หลงลืมผู้ที่สร้างสรรค์วัฒนธรรมการดนตรีไว้เป็นมรดกของชาติ
ที่มา
- หนังสือประวัติการดนตรีไทย ของปัญญา รุ่งเรือง, หนังสือดนตรีไทยครั้งที่ ๕ (มหาวิทยาลัย) ๙ มค. ๒๕๑๔
- คนไทยในราชสำนักพระนางวิคตอเรีย คณะเหม เวชกร พ.ศ. ๒๔๗๘
ข้อมูลจาก : บทความพิเศษประกอบรายการของสถานีวิทยุ อสมท เรื่อง "เจ้าแห่งเพลงขลุ่ย" ผลิตโดย งานบริการการผลิต ส่วนสนับสนุนการผลิตวิทยุ ฝ่ายออกอากาศวิทยุกรุงเทพ