บทเรียนออนไลน์ วิชาสุขศึกษาและพลศึกษา เรื่อง ชีวิตและครอบครัว
ทีมงานทรูปลูกปัญญา
|
18 ม.ค. 65
 | 24.4K views



ผังมโนทัศน์สาระการเรียนรู้

 

 

ชีวิตและครอบครัว

 

 

วัยรุ่นกับการปรับตัว
     หมายถึง แนวทางการแสดงพฤติกรรมของวัยรุ่นให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงด้านต่าง ๆ


การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย จิตใจและอารมณ์ สังคม และพัฒนาการทางเพศของวัยรุ่น
     วัยรุ่นเป็นวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทั้งทางร่างกาย จิตใจและอารมณ์ โดยเด็กชายเริ่มเข้าสู่วัยรุ่นเมื่ออายุประมาณ 13–15 ปี เริ่มมีนมแตกพาน และ อาการฝันเปียก เนื่องจากฮอร์โมนเพศทำให้เกิดมีความรู้สึกทางเพศ ขณะที่เด็กหญิงเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นเร็วกว่าเด็กชายโดยเฉลี่ยประมาณ 2 ปี โดยจะเริ่มขึ้นเมื่ออายุประมาณ 11–13 ปี อวัยวะเพศจะโตขึ้น เต้านมจะโตขึ้นเริ่มมีประจำเดือน ซึ่งเป็นลักษณะที่บ่งบอกว่าได้บรรลุนิติภาวะทางเพศแล้ว และสามารถตั้งครรภ์ได้
     วัยรุ่นเป็นวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ได้ง่าย จึงเรียกว่า วัยพายุบุแคม สาเหตุสำคัญที่ทำให้วัยรุ่นมีอารมณ์เปลี่ยนแปลงง่ายและมีการแสดงออกรุนแรงมี 2 ประการ คือ
     1. ผลจากการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย
     2. สภาพแวดล้อม

 

 

เพื่อนเป็นผู้ที่มีความสำคัญต่อการแสดงพฤติกรรมต่าง ๆ ของวันรุ่น

 


แนวทางในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงทางจิตใจและอารมณ์ของวัยรุ่น
     1. พยายามศึกษาเรียนรู้เรื่องอารมณ์ สาเหตุผลกระทบที่เกิดขึ้น ตลอดจนวิธีแก้ไข
     2. พยายามฝึกสำรวจและควบคุมอารมณ์ของตนเอง หาวิธีผ่อนคลายความรู้สึกด้วยวิธีที่เหมาะสม
     3. ฝึกตนเองให้กล้าเผชิญหน้ากับปัญหา
     4. ฝึกเปิดใจกว้างที่จะรับฟังความคิดผู้อื่น หรือผู้ที่อาวุโสกว่าและมีประสบการณ์มากกว่า
     5. ฝึกจิตใจให้ร่าเริงด้วยการปฏิบัติกิจกรรมที่สร้างสรรค์และเหมาะสม

 

แนวทางในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคมของวัยรุ่นต่อครอบครัว
     1. ควรมีทัศนคติที่ดีต่อครอบครัวของตนและต้องยอมรับสภาพครอบครัวตามความเป็นจริง
     2. ยอมรับว่าสมาชิกในครอบครัวมีบทบาทหน้าที่และสิทธิแตกต่างกัน ควรเปิดใจรับฟัง
     3. ควรศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะเฉพาะวัย เพื่อที่จะปรับตัวให้เข้ากับบุคคลอื่นในบ้าน
     4. พยายามช่วยประหยัดรายจ่ายของครอบครัว ซึ่งจะเป็นการแบ่งเบาภาระที่ตนจะพึงกระทำได้
     5. รู้จักบทบาทหน้าที่และสิทธิที่มีอยู่ของตน และแสดงบทบาทหน้าที่ของตนให้สมบูรณ์


ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน
     1. ทำความเข้าใจและยึดหลักความเสมอภาคทางเพศเป็นพื้นฐานของการสร้างความสัมพันธ์
     2. ทำความเข้าใจและนำแนวทางหลักการสร้างเสริมสัมพันธภาพอันดีใช้เป็นแนวทาง คือ การรู้จักตนเองและคนอื่น ยอมรับสภาพความเป็นจริงของตน ไม่ยึดถือข้อบกพร่องมาเป็นปมด้อยในการคบหาคนอื่น ไม่อิจฉาริษยาเพื่อนที่มีฐานะดีกว่า มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี รู้จักพูด ฟัง และพูดเรื่องต่าง ๆ ในจังหวะที่เหมาะสม เปิดโอกาสให้เพื่อนได้แสดงความคิดเห็น เอาใจใส่ ตลอดจนมีความซื่อสัตย์และจริงใจต่อเพื่อน รวมถึง ให้มองโลกในความเป็นจริงทั้งสองด้าน เพราะอาจถูกหลอกได้ง่ายหรือถูกมองว่าใจแคบ


วัยรุ่นกับพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ
คือ ลักษณะการมีพฤติกรรมทางเพศไม่สอดคล้องกับเพศของตน ได้แก่
     1. การมีพฤติกรรมรักร่วมเพศ (homosexuality) เป็นพฤติกรรมของบุคคลที่มีความรู้สึกทางเพศหรือมีความสัมพันธ์ทางเพศร่วมกับบุคคลที่มีเพศเดียวกัน กลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมรักร่วมเพศแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ
          1) พวกที่มีลักษณะทางร่างกายและจิตใจตรงกันข้ามกับเพศของตนเอง ในเพศชายเรียกว่า เกย์ควีน (queen) ส่วนในเพศหญิง เรียกว่า ทอม ซึ่งมาจากคำว่า ทอมบอย (tomboy)
          2) พวกที่มีร่างกายและจิตใจเป็นผู้ชายหรือเป็นผู้หญิงแต่รักและมีความรู้สึกทางเพศกับคนเพศเดียวกัน เพศชายเรียกว่า เกย์คิง (king) ส่วนในเพศหญิง เรียกว่า ดี้ มาจากคำว่า เลดี้ (lady)
          3) พวกที่มีรักร่วมเพศและต่างเพศอยู่ในคนเดียวกัน หรือเรียกว่า ไบเซ็กซ์ชวล (bisexual)
     2. การมีความสุขทางเพศจากการได้แต่งตัวเป็นเพศตรงข้ามหรือลักเพศ (transvestism) เป็นพฤติกรรมของบุคคลที่มีความสุขจากการได้แต่งตัว แต่งหน้า สวมเสื้อผ้า และพูดจาแสดงท่าทางเป็นเพศตรงข้ามตน
     3. การมีพฤติกรรมความต้องการเปลี่ยนแปลงเพศ (transexualism) เป็นบุคคลที่ต้องการที่จะมีเพศตรงข้ามกับเพศของตนตามธรรมชาติ


วัยรุ่นกับทักษะการตัดสินใจเพื่อป้องกันปัญหาการถูกล่วงละเมิดทางเพศ
     1. ทักษะในการปฏิเสธ เป็นทักษะเบื้องต้น มีแนวทางปฏิบัติดังนี้
          1) ปฏิเสธอย่างจริงจังทั้งท่าทาง คำพูด และน้ำเสียง เพื่อแสดงความตั้งใจชัดเจนที่จะขอปฏิเสธ
          2) ใช้ความรู้สึกมาเป็นข้ออ้างประกอบเหตุผล
          3) ขอความเห็นชอบและแสดงความขอบคุณเมื่อผู้ชวนยอมรับ จะเป็นการรักษาน้ำใจของผู้ชวน
          4) หากถูกเซ้าซี้หรือถูกสบประมาท ไม่ควรหวั่นไหวและวู่วามไปกับคำพูด เพราะจะทำให้ขาดสมาธิในการปฏิเสธ อาจบอกลาเพื่อให้ออกจากสถานการณ์ในขณะนั้นทันที
     2. ทักษะในการต่อรอง เป็นวิธีโน้มน้าวผู้ชวนปฏิบัติในสิ่งที่เราไม่ต้องการและไม่เห็นด้วย
     3. ทักษะในการผัดผ่อน เป็นวิธีการผ่อนคลายหรือยืดเวลาเพื่อให้ผู้ชวนเปลี่ยนความตั้งใจ
     4. ทักษะอื่น ๆ เช่น หลีกเลี่ยงที่จะไม่อยู่ในที่ลับตาคน หลีกเลี่ยงการถูกสัมผัสเนื้อต้องตัว


คำสำคัญ  วัยรุ่น  การปรับตัว  วัยพายุบุแคม  ฝันเปียก  ประจำเดือน  พฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพซ  พฤติกรรมรักร่วมเพศ  ลักเพศ  การถูกล่วงละเมิดทางเพศ  ทักษะการตัดสินใจ  ทักษะในการต่อรอง

 

 

แหล่งที่มาของเนื้อหา : สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช www.wpp.co.th