ทักษะและวิธีการสื่อสาร
ทีมงานทรูปลูกปัญญา
|
06 ส.ค. 64
 | 123.6K views



การสื่อสารของมนุษย์

 เมื่อมนุษย์อยู่ร่วมกันเป็นสังคมมีการติดต่อสื่อสารและทำกิจกรรมต่างๆด้วยกัน มนุษย์จะรับรู้เรื่องราวและความหมาย รหัส หรือ สัญลักษณ์ต่างๆโดยรวมเรียกว่าภาษา

การสื่อสารของมนุษย์มีองค์ประกอบดังนี้

1.ผู้ส่งสาร(ผู้พูดหรือผู้เขียน)

2.สื่อหรือช่องทาง รวมทั้งการติดต่อ

3.สารซึ่งใช้เป็นเนื้อหาบอกข้อมูลต่างๆ

4.ผู้รับสาร(ผู้ฟัง/ผู้ดู/ผู้อ่าน)

5.สภาพแวดล้อม ได้แก่ กาลเทศะ โอกาส และบุคคล ซึ่งเป็นปัจจัยกำหนดให้สื่อสารเหมาะสมกับชีวิตและวัฒนธรรม

การฟีังและการดู

การฟังเป็นการรับสารทางเสียง ส่วนการดูเป็นการรับสารทางภาพ

ความสำคัญของการฟังและการดู

       คนเรามีหูไว้ฟังเสียงและเรื่องราวต่างๆอีกทั้งยังมีตาไว้ดู สังเกต และมองสิ่งต่างๆรอบตัวนำมาใช้สร้างสรรค์สังคมให้เจริญรุ่งเรื่องมานับพันๆปีจากคนสมัยก่อน

 จุดมุ่งหมายของการฟังและการดู

       ในยุคข้อมูลข่าวสารปัจจุบันมีเรื่องราว ข้อมูลข่าวสารมากมาย นักเรียนจำเป็นต้องเลือกสรร ฟังและดูสารที่มีคุณค่าและมีประโยชน์ หากไม่รู้จักคัดเลือกสารก็จะเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ ฉะนั้นควรมีจุดมุ่งหมายของการฟังและการดูดังนี้

   1. ฟัีงและดูเพื่อรับสาระความรู้ เพิ่มพูนสติปัญญาและความคิดสร้างสรรค์

   2.ฟังและดูเพื่อความบันเทิงผ่อนคลาย

การพัฒนาทักษะของการฟังและการดู

 

ธรรมชาติสร้างให้คนเราฟังและดูตั้งแต่กำเนิดฉะนั้นควรจะพัฒนาทักษะอยู่เสมอ

1.ตั้งใจฟังและดู

2.ตั้งคำถาม

3.จดบันทึก

 การพัฒนาทักษะการฟังและการดูเหล่านี้จะช่วยให้การฟังและการดูเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

หลักการฟังเพื่อจับประเด็นและใจความสำึคัญ

 การฟังจับประเด็นและใจความสำคัญใช้เพื่อฟังสาระและความบันเทิงให้แน่ชัดขึ้นอย่างเช่นใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร เมื่อไร แล้วสรุปเป็นประเด็น

 หลักการฟังเพื่อวิเคราะห์ข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็น 

นอกจากจะฟังเข้าใจและสามารถสรุปได้แล้ว นักเรียนจะต้องใช้ความคิดอย่างมีวิจารณญาณว่าข้อมูลเรื่องราวที่ฟังส่วนใดสิ่งใดเป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น สิ่งใดเป็นความคิดเห็นส่วนตัว ซึ่งเราจะสามารถกลั่นกรองความคิด ความเชื่อถือ ไม่ให้หลงไปเชื่อผู้อื่นได้ง่ายๆ

    การฟังข้อคิดเห็น ส่วนใหญ่จะอยู่ในโฆษณาซึ่งโน้มน้าวใจ เพราะใช้ความเกินจริง

มารยาทในการฟัีงและดู

    การพัฒนาการฟังและการดูยังไม่ใช่สิ่งที่เพียงพอ ควรเสริมสร้างนิสัยและมารยาทที่ดีในการฟังและดูด้วยซึ่งเป็นคุณสมบัติของผู้มีวัฒนธรรม

      1.แสดงท่าทีสุภาพ เหมาะสมแก่โอกาสและสถานที่ บุคคลโดยเฉพาะในโอกาสและสถานที่ที่เป็นทางการ พิธีการ

      2.สนใจและตั้งใจในขณะที่ฟังและดู

      3.ให้เกียรติผู้พูด

การพูด

มนุษย์สามารถเปล่งเสียงและรู้จักพัฒนาเสียงที่ไม่มีความหมายให้เข้าใจร่วมกัน แต่ละคนตั้งแต่ทารกจะสามารถ"พูดได้ "ด้วยการเลียนเสียงของผู้อื่นจากนั้นก็พัฒนามาเป็น" พูดเป็น"เมื่อมีโอกาสฝึกฝนก็จะกลายเป็น"พูดดี"

    ความสำคัญของการพูด

     ในการติดต่อสื่อสารและทำกิจกรรมร่วมกัน จำเป็นต้องพูดปราศรัยบอกกล่าวเรื่องราวให้คนอื่นเข้าใจ ถ้าทุกคนพูดดี สังคมก็จะเกิดความสันติสุข ถ้าทุกคนพูดไม่ดี สังคมก็จะเกิดความขัดแย้ง

     การพัฒนาทักษะการพูด

    1.การฝึกออกเสียง

    2.ฝึกบุคลิกภาพในขณะที่พูด

   3.ฝึกรูปแบบการพูดในสถานการณ์ต่างๆ

   จุดมุ่งหมายในการพูด

   1.พูดเพื่อแจ้งให้ทราบ

   2.พูดเพื่อโน้มน้าวใจ

   3.พูดเพื่อจรรโลงใจหรือให้ข้อคิดเตือนใจ

   4.พูดเพื่อค้นหาคำตอบ

      ประเภทของการพูด

     1.การพูดเล่าเรื่องราว เล่าเหตุการณ์ การเล่านิทาน

     2.การพูดรายงาน

     3.การพูดแสดงความคิดเห็น และมีการพูดโต้วาทีด้วย

     มารยาทในการพูด

    1. พูดสุภาพ

    2. พูดให้เกียรติผู้ฟัง 

    3.พูดสิ่งที่มีประโยชน์

     การพูดเป็นทักษะอย่างหนึ่งในการติดต่อสื่อสาร และมีพลังอำนาจที่จะนำไปใช้ให้บรรลุสิ่งต่างๆที่ต้องการ ปัจจุบันมีสื่อมากมาย เช่น วิทยุ โทรทัศน์ ดังนั้นควรจะฝึกการพูดให้มีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้ใช้สื่อพวกนั้นอย่างถูกต้อง

    การอ่าน 

    ปัจจุบันเป็นยุคของข้อมูลข่าวสาร ซึ่งต้องใช้ทักษะการอ่านเพื่อรับสารให้มากขึ้นทั้งการอ่านสิ่งพิมพ์ที่เป็นรูปเล่ม ข้อความต่างๆที่พิมพ์ลงในวัสดุหีบห่อต่างๆ

    ความสำคัญของการอ่าน

นอกจากคนเราจะฟังเพื่อรับข้อมูลข่าวสารแล้วการ"อ่าน"ยังเป็นการรับรู้ข้อมูลข่าวสารอีกทางหนึ่งด้วยจะเห็นว่าชาติที่เจริญคือชาติที่มีคนรักการอ่าน ส่วนประเทศที่ด้อยพัฒนา พบว่าคนในชาตินั้นอ่านหนังสือไม่ได้ ดังนั้นเราจึงตวรพัฒนาการอ่านให้มากๆ

     การพัฒนาทักษะการอ่าน

     1.ใช้กระบวนการอ่าน ต้องเข้าใจความหมายต่างๆในบทที่เราจะอ่าน

     2.รู้จักสำรวจและเลือกอ่าน รู้จักส่วนประกอบต่างๆของหนังสือ ตั้งแต่ปกหน้าจนถึงปกหลัง

     3.ใช้พจนานุกรมและปทานานุกรม เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน

     4.ฝึกอ่านเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน

       ประเภทของการอ่าน

1.อ่านในใจและการอ่านออกเสียง

2.อ่านเพื่อจับใจความและแสดงความคิดเห็น

3.การอ่านคำประพันธ์และท่องจำ

      มารยาทในการอ่าน

คุณสมบัติของนักอ่านที่ดีคืออ่านเก่ง อ่านเป็น มีมารยาทในการอ่าน

1.แสดงกิริยา มารยาทในการอ่านได้เหมาะสม

2.ปฏิบัติตัวตามระเบียบการใช้ห้องสมุด

3.ไม่ขีดเขียน พับหน้ากระดาษตัดฉีก

    จะเห็นว่าทักษะการอ่านมีความสำคัญต่อชีวิต ควรฝึกอ่าน รู้จักลักษณะการอ่านและวิธีการอ่านลักษณะต่างๆช่วยให้การอ่านมีประสิทธิภาพ

 การเขียน

การเขียนเป็นการถ่ายทอดเรื่องราวเป็นลายลักษณ์อักษร

 ความสำคัญของการเขียน

     การบอกกล่าวเรื่องราวต่างๆ มีข้อจำกัดในการสื่อสารแต่ข้อความที่เป็นลายลักษณ์อักษร เครื่องหมาย หรือรหัสต่างๆ จะทำให้สามารถรับรู้เรื่องราวได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

  การพัฒนาทักษะการเขียน

 การพัฒนาทักษะการเขียนมีดังนี้

 1.สำรวจทัศนคติของตนว่าชอบเขียนหรือไม่

 2.ใช้กระบวนการเขียน ตั้งแต่ถ้อยคำ ประโยค โวหาร การเขียน นำมาเรียบเรียงเป็นเนื้อหาต่างๆ

 3.สะสมความรู้และทักษะต่างๆจากการฟัง ดู และการอ่าน

4.ศึกษาแนวการเขียนของนักเขียนต่างๆ

ประเภทของการเขียน

1.การเขียนเล่าเรื่องและแสดงความคิดเห็น

2.การเขียนจดหมายส่วนตัว

3.การเขียนย่อความหรือสรุปประเด็น

4.การเขียนรายงาน

5.การเขียนโครงงาน

มารยาทในการเขียน

1.การใช้ภาษาถ้อยคำ

2.ให้เกียรติและยอมรับเจ้าของข้อมูล

3.เลือกใช้สื่อที่ถูกต้องเหมาะสม

การเขียนเป็นการถ่ายทอดเรื่องราวที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ปลูกฝังความรู้ให้กับเราโดยบันทึกลงบนวัสดุต่างๆตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน