แรมบรังด์ ฮาร์เมนซูน ฟาน แรยน์ (Rembrandt Harmenszoon van Rijn) 
ผู้ซึ่งเป็นจิตรกรและช่างพิมพ์ในประวัติศาสตร์ศิลปะยุโรปและเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดรายหนึ่งของโลก 

 ประวัติ 

                 แรมบรังด์ ฮาร์เมนซูน ฟาน แรยน์  (Rembrandt van Rijn) เกิดเมื่อ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2149 ถึง 4 ตุลาคม พ.ศ. 2212 เป็นจิตรกรและช่างพิมพ์ในประวัติศาสตร์ศิลปะยุโรปและเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดรายหนึ่งของโลก

              ผลงานของแรมบรังด์ทำให้เนเธอร์แลนด์รุ่งเรืองสุดขีดหรือที่เรียกว่ายุคทอง  (Dutch golden age)  ในช่วงศตวรรษที่ 17 และเป็นผู้มีอำนาจทั้งด้านอิทธิพลการเมือง, วิทยาศาสตร์, พาณิชย์ และวัฒนธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องจิตรกรรม

              แรมบรังด์ เป็นบุตรคนที่ 9 ของครอบครัวเจ้าของโรงงานและหุ้นส่วนโรงสีลมในเมืองไลเดน เขาได้เข้าเรียนที่โรงเรียนมัธยมศึกษาโปรเตสแตนท์ และในขณะที่เขาศึกษาเพิ่มขึ้น เขาก็ได้รับความรู้ความสามารถทางด้านจิตรกรจากพ่อแม่ของเขาไปด้วย

               ความหวังของเขาถูกเติมเต็ม และเขากลายเป็นลูกศิษย์ของศิลปินท้องถิ่น จาค็อบ ฟาน สวาเนนเบิร์ก (Jacob van Swanenburgh) ซึ่งเพิ่งกลับมาหลังจากการอยู่อาศัยที่ยาวนานในอิตาลี ระหว่างช่วงนี้เขาได้วาดฉากมากมายของแม่มดและนรก เขาสอนRembrandt van Rijnว่าถ่ายความรู้สึกของมนุษย์ลงในภาพอย่างไร ใช้แสงและความมืดเพื่อแบ่งแยกองค์ประกอบสำคัญจากสิ่งเล็กน้อยอย่างไร

                   หลังจากเสร็จการฝึกหัดของเขา แรมบรังด์ในวัยเยาว์ไปอัมสเตอร์ดัมเป็นครั้งแรก รับการสอนจากปิเอเตอร์ ลาสท์แมน (Pieter Lastman) ภายในเวลา 6 เดือน แรมบรังด์ก็สามารถเรียนรู้ทุกแง่มุมจาก Pieter และเดินทางกลับมายัง Leiden บ้านเกิดของเขา แรมบรังด์โด่งดังมีชื่อเสียงอย่างรวดเร็ว และด้วยวัยยังไม่ถึง 22 ปีเต็ม เขาเริ่มรับลูกศิษย์รุ่นแรก หนึ่งในลูกศิษย์ของเขาได้กลายเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงในเวลาต่อมาคือ Gerrit Dou

 จุดเด่นในการลงแสง Rembrandt Lighting 

           แรมบรังด์ไลท์ติ้ง คือ หนึ่งในประเภทของการจัดแสงถ่ายภาพ ซึ่งได้หยิบยืมสไตล์การจัดแสงของแรมบรังด์จิตรกรเอกของโลกชาวดัตซ์ มาใช้เพื่อการถ่ายภาพในปัจจุบัน  

            ตั้งแต่ยุคบาโรค แม้แต่ศิลปินชื่อก้องโลกรุ่นหลังๆ เช่น Goya และ Picasso ยังถือเอาผลงานของแรมบรังด์ เป็นแรงบันดาลใจในการทำงาน  

            แรมบรังด์ใช้แสงลักษณะนี้วาดภาพของตัวเค้าเอง (Self Portrait) และผลงานศิลปะ อีกหลากหลายรูปแบบจนมีชื่อเสียง

          ต่อมาเมื่อมนุษย์เราสามารถผลิตฟิล์มถ่ายภาพได้แล้วมนุษย์เราก็ยังไม่สามารถถ่ายภาพบุคคลให้ออกมาสวยงามได้ จึงได้ย้อนไปดูงานศิลปะภาพวาดไตล์ของ  แรมบรังด์ว่า ทำไมถึงทำให้ภาพวาดนั้น สวยงาม ดูมีมิติ สามารถบอกระยะ ตื้น ลึก ของภาพได้เสมือนจริง และค้นพบว่าการจัดแสงแบบแรมบรังค์เป็นจุดเด่นดังกล่าว นักวิทยาศาสตร์หรือนักศิลปศาสตร์ จึงได้ยอมรับและได้นำชื่อของศิลปินเอกท่านนี้มาเป็นชื่อ แสงหลักของการถ่ายภาพ ประเภทหนึ่ง

ผลงานวาดภาพตนเอง และวาดภาพบุคคลของแรมบรังด์ที่โดดเด่นด้านการจัดแสงได้เหมือนจริง มีมิติ
จนเป็นที่ยกย่องของช่างภาพในปัจจุบัน จนเป็นที่มาของการจัดแสงแบบแรมบรังด์ Rembrandt Lighting)

  ผลงานสร้างชื่อเสียง  

ผลงานชิ้นเอกที่สร้างชื่อเสียงให้กับ แรมบรังด์ ฮาร์เมนซูน ฟาน แรยน์ภาพ
บทเรียนกายวิภาคของนายแพทย์ทุลพ์  
ซึ่งแสดงภาพของการสาธิตการชำแหละศพในสมัยศตวรรษที่ 17 

               ในพ.ศ. 2175 แรมบรังด์ได้รับหน้าที่ให้วาดภาพ “บทเรียนกายวิภาคของนายแพทย์ทุลพ์” (Anatomy Lesson of Dr. Nicolaes Tulp) เขาเห็นงานนี้เป็นความท้าทาย เขาทิ้งศพที่ถูกวางในแนวทแยงอย่างแทบจะไม่เสียหาย จัดกลุ่มสมาชิกของสมาคมในครึ่งวงกลมรอบร่าง คนหนึ่งกำลังดูที่เอ็นของมืออย่างตั้งใจมาก พวกเขาทั้งหมดถูกแต่งตัวในเสื้อคลุมสีน้ำตาลกับปกเสื้อขนาดใหญ่ ไม่สวมหมวกและจ้องด้วยความสนใจที่ศพหรือผู้บรรยาย คนหนึ่งถือแผ่นกระดาษ ตัวนายแพทย์ทุลพ์เองแต่งชุดสีดำ ปกเสื้อเชือกของเขาเล็กกว่าคนอื่นๆ มาก

        แรมบรังด์ใช้เสื้อผ้าและหมวกของเขาเพื่อแยกเขาเป็นตัวแสดงหลัก เป็นครั้งแรกที่แรมบรังด์เชื่อมประเภทภาพกลุ่มกับการพรรณนาเหตุการณ์ ฉากจริงๆ ไม่ได้ดูเหมือนแบบนี้ แต่สะท้อนกฎขององค์ประกอบทางศิลปะ

 ผลงานชิ้นเอก 

การเฝ้ายามกลางคืน หรือ กองทหารของฟรันส์ แบนนิง ค็อค พ.ศ. 2185
สีน้ำมันบนผ้าใบ แสดงที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติแห่งอัมสเตอร์ดัม

               อีกผลงานชิ้นใหญ่ คือ  ภาพวาดกลุ่มทหารกองหนุนของฟรานส์ แบนนิ่ง ค็อคค์ (The Militia Company of Captain Frans Banning Cocq) หรือ “การเฝ้ายามกลางคืน” (The Night Watch) นี่ไม่เป็นภาพมีชื่อสุดของแรมบรังด์เท่านั้น แต่เป็นหนึ่งภาพวาดมีชื่อสุดในประวัติศาสตร์ของศิลปะยุโรป

              ในภาพ ฟรานส์ แบนนิ่ง ค็อคค์ ร้อยเอกและหัวหน้าลูกค้า ซึ่งแต่งตัวในสีของอัมสเตอร์ดัม (แดงและดำ) กำลังออกคำสั่งต่อร้อยโทของเขาให้นำเหล่าทหารเสือมาอยู่ในความสนใจ แต่ละคนต้องจ่ายแรมบรังด์ 100 กิลเดอร์สำหรับภาพนี้ ซึ่งตั้งใจไว้สำหรับบ้านทหารกองหนุนที่สร้างขึ้นใหม่ด้วยกันกับภาพของกลุ่มอื่นๆ แต่ข้างๆ ลูกค้าทหารกองหนุน 16 นาย แรมบรังด์รวมรูปอื่นๆ ที่สำคัญอย่างยิ่ง คือเด็กผู้หญิงสว่างอย่างเจิดจ้าในตำแหน่งที่โดดเด่น เธอกำลังถือกรงเล็บไก่ตัวผู้บนเข็มขัดของเธอ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของพวกเขา

ขอบคุณภาพประกอบและเนื้อหาเรียบเรียงจาก 

วิกิพีเดีย
https://www.procolorlab.com/smf/index.php?topic=45.0 

https://public.in.th/Rembrandt-van-Rijn