Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

คนขี้เกียจไม่ดีจริงหรือ ? ชวนดูอีกด้านของความขี้เกียจที่มีแต่ข้อดี

Posted By Plook Magazine | 22 ก.ย. 63
6,174 Views

  Favorite

ปัจจุบันนี้ไม่มีใครไม่เคยได้ยินคำว่า ‘Productive’ คือ การทำตัวให้มีประสิทธิภาพอยู่ตลอดเวลา ซึ่งผู้เขียนพบว่า มันช่างเหนื่อยจริง ๆ เพราะคนเราไม่ใช่เครื่องจักรที่สามารถจะทำสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย แต่พอจะนั่ง ๆ นอน ๆ พักให้หายเหนื่อยหน่อย คนที่บ้านก็ไม่เข้าใจหาว่าเรานี่มันขี้เกียจตัวเป็นขน โตไปจะทำมาหากินอะไรได้ ! ทั้งที่ความขี้เกียจ การนอนชิลล์ การนั่งเหม่อแบบไร้สาระสักวัน มันก็มีประโยชน์และมีข้อดีเหมือนกันนะ   

 

 

ขี้เกียจเพื่อชาร์จแบต

คนที่ขี้เกียจจะไม่ค่อยมีปัญหาเรื่อง ‘Burnout’ หรือที่เราเรียกว่า ‘หมดไฟ’ และจะไม่ค่อยรู้สึกโหยหาวันหยุดหรือ vacation เพราะทุกวันของคนขี้เกียจคือ vacation ได้ เช่น การงีบหลับ การไม่ทำอะไร นอนกลิ้งไปกลิ้งมา (Lounging around) 

 

ร่างกายของคนเราถูกออกแบบมาเพื่อให้พัก หรืออยู่เฉย ๆ บ้าง โดยเฉพาะสมองที่ต้องการการพักผ่อนที่เพียงพอทุกวัน ไม่ใช่ไปหวังพักผ่อนเอาตอนแก่หรือวันหยุด การอนุญาตให้ตัวเองได้ทำตัวขี้เกียจ นอนกลางวัน หรือเลื่อนนาฬิกาปลุกบ้างโดยไม่รู้สึกผิด นอกจากจะทำให้ระบบไหลเวียนเลือดดี ระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้นแล้ว มันยังเป็นการชาร์จแบตเอาไว้ใช้ในวันที่จำเป็นจริง ๆ อีกด้วย

 

 

ขี้เกียจแล้วทำให้คิดถึงอนาคต

ความเครียดและความกังวลจากการเรียนส่งผลเสียต่อวัยรุ่นทั้งร่างกายและจิตใจ การที่คนเราได้นั่งดูทีวีชิลล์ ๆ เล่นเกมแบบไม่ต้องคิดอะไร หรือแม้กระทั่งนอนเล่นเฉย ๆ กับน้องเหมียว ช่วงเวลาที่มันได้ขี้เกียจนี่แหละมักเป็นโมเมนต์ที่จะทำให้เราได้ ‘ฝันกลางวัน’ เกี่ยวกับอนาคตข้างหน้า (Long-term goals) หรือได้วางแผนชีวิต เพราะมีผลวิจัยชี้ว่า เมื่อคนเราอยู่เฉย ๆ ไม่ทำอะไรเลย ปล่อยให้จิตใจล่องลอยไปเรื่อย ๆ เราจะคิดถึงเรื่องสำคัญในชีวิต 7-14 ครั้งต่อวัน เมื่อเทียบกับตอนที่เราจดจ่อไปที่สิ่งใดสิ่งหนึ่ง (แต่จะทำได้ไหมนั่นอีกเรื่องนะ)

 

 

 

ขี้เกียจแล้วครีเอทีฟขึ้น

เวลาที่รู้สึกขี้เกียจ ไม่อยากทำอะไรเลยเนี่ย จะทำให้จิตใต้สำนึกของเราว่างเปล่า ไม่เก็บเรื่องยุ่งยากมาคิดให้ปวดหัว บางคนอาจจะค้นพบไอเดียใหม่ ๆ แบบคาดไม่ถึง เพราะขณะที่หัวเราโล่ง ๆ เราจะสามารถเชื่อมโยงเรื่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในอดีต ปัจจุบัน และอนาคตได้ชัดเจนมากขึ้น แถมนักจิตวิทยายังแนะนำอีกด้วยว่า ช่วงเวลาที่เราไม่ทำอะไรเลยนั้นอาจเป็นช่วงเวลาที่คนเราจะปิ๊งไอเดียเกี่ยวกับการคิดค้นนวัตกรรม สร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์ใหม่ ๆ และแต่งเพลงได้ดีอีกด้วย  

 

 

 

คนขี้เกียจแก้ปัญหาเก่ง

คนขี้เกียจมีแนวโน้มที่จะเป็นคนเซฟเวลาเก่ง คนขี้เกียจมักไม่ซับซ้อน และมีแนวโน้มที่จะคิดหาวิธีแก้ปัญหาเสมอ เช่น ถ้าขี้เกียจก็อยากหาเครื่องทุ่นแรงมาช่วยทำงานจะได้ไม่ต้องเหนื่อย ก็เลยเกิดแรงบันดาลใจให้ประดิษฐ์คิดค้นเครื่องทุ่นแรงมาใช้ นายคนนั้นก็คือ เจมส์ วัตต์ นักคิดค้นเครื่องจักรไอน้ำจนนำมนุษยชาติไปสู่การปฏิวัติอุตสาหกรรม เช่นเดียวกับคนขี้เกียจเดินก็เลยคิดโทรศัพท์ขึ้น ขี้เกียจคำนวณก็เลยคิดค้นคอมพิวเตอร์ เพราะคนขี้เกียจมักจะมีความคิดโลดแล่นในการแก้ปัญหายาก ๆ ด้วยวิธีง่าย ๆ เสมอ   

 

 

อ่านมาถึงตรงนี้ก็เหมือนจะย้อนแย้งเบา ๆ ว่า ขนาดขี้เกียจก็ยังต้องขี้เกียจให้มีประสิทธิภาพเหรอ ? จริง ๆ แล้วไม่ใช่นะ แค่อยากจะชี้ให้เห็นว่า โอเคเราขี้เกียจได้ แต่ความขี้เกียจและความไม่รับผิดชอบนั้นไม่ใช่เรื่องเดียวกัน หากเราจะขี้เกียจแล้วมันสร้างความเดือดร้อนต่อตัวเองและคนอื่นเช่น ขี้เกียจไปโรงเรียน ซึ่งแบบนี้ไม่เรียกขี้เกียจ แต่คือการไม่มีความรับผิดชอบมากกว่า

 

 

แหล่งข้อมูล
6 Scientifically Proven Benefits of Being Lazy  

 

 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Plook Magazine
  • 3 Followers
  • Follow