ดังนั้น วันนี้เราจึงจะมาเรียนรู้ขั้นตอนและวิธีการที่จะช่วยให้ลูกของเราปลอดภัยจากการจมน้ำกันค่ะ
ในวัยนี้พ่อแม่จะสังเกตเห็นว่าลูกจะชอบเล่นน้ำมาก สามารถนั่งเล่นน้ำในกะละมังได้เป็นเวลานาน ๆ พ่อแม่ต้องคอยดูแลอย่างใกล้ชิด ห้ามให้ลูกเล่นน้ำโดยลำพังเด็ดขาด หากบ้านอยู่ใกล้แหล่งน้ำ บ่อ หรือบึง ก็ควรมีการกั้นคอกป้องกัน ไม่ให้ลูกคลานแล้วพลัดหล่นลงไปได้
ในวัยนี้ลูกเริ่มเรียนรู้ในเรื่องราวต่าง ๆ ด้วยเหตุผลง่าย ๆ ได้มากขึ้น ดังนั้นพ่อแม่สามารถสอนให้รู้จักอันตรายของแหล่งน้ำ และหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้แหล่งน้ำโดยลำพัง พูดให้ลูกฟังด้วยเหตุและผล ห้ามขู่หรือดุ เพราะอาจทำให้ลูกกลัวน้ำ และไม่กล้าฝึกว่ายน้ำอีกต่อไป
ในวัยนี้ลูกจะเริ่มมีความพร้อมในเรื่องของร่างกายมากขึ้น กล้ามเนื้อมัดใหญ่ แขน ขา เริ่มทำงานสอดประสานกันได้ดีขึ้น ดังนั้นพ่อแม่อาจเริ่มสอนหรือพาลูกไปเรียนว่ายน้ำได้ หากพ่อแม่สอนเอง ก็เริ่มจากการสอนให้ว่ายน้ำง่าย ๆ คือ ระยะสั้น ๆ ให้ตะกายเข้าฝั่ง สอนเลี้ยงตัวเพื่อให้โผล่พ้นน้ำชั่วขณะ (water recovery) เป็นต้น
ในวัยนี้ลูกจะเริ่มมีทักษะในการช่วยเหลือตัวเองมากขึ้น หากได้รับการสอนว่ายน้ำมาตั้งแต่เด็ก ลูกจะเริ่มช่วยเหลือตัวเองได้ดีขึ้น หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน แต่ที่สำคัญพ่อแม่ยังคงต้องเน้นย้ำในเรื่องของความปลอดภัย และไม่ประมาท เพราะมีหลายกรณีที่เกิดเหตุการณ์จากความประมาท หรือคึกคะนองของเด็ก ทำให้เกิดเรื่องร้ายแรงขึ้น และถึงแม้จะว่ายน้ำเป็นก็ตาม ในทุกครั้งที่ลูกเล่นน้ำ ไม่ว่าจะเป็นในสระว่ายน้ำ หรือตามแหล่งน้ำธรรมชาติ จะต้องมีพ่อแม่คอยดูแลตลอดเวลา ไม่ควรปล่อยให้ลูกคลาดสายตานะคะ
สุภาพรรณ ศรีสุข (ครูแหม่ม)
ที่ปรึกษาวิชาการ โรงเรียนศิลปพัฒนาการสมองเด็ก K.D.S.