สำหรับสาว ๆ แล้ว การแต่งหน้าถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่งในการใช้ชีวิตประจำวันเลยก็ว่าได้ เพราะการแต่งหน้านั้นไม่ใช่แค่ช่วยให้ดูดีขึ้นเพียงอย่างเดียว แต่มันยังช่วยสร้างความมั่นใจให้กับสาว ๆ ได้อีกด้วย โดยไอเทมหลักที่ขาดไม่ได้ในการแต่งหน้าเลยก็คือแป้งพัฟและต้องเป็นแป้งพัฟคุมมันไม่อุดตันด้วย ข้อนี้ทุกคนน่าจะรู้กันดีอยู่แล้ว โดยเฉพาะสาวไทยที่ต้องเจอกับอากาศร้อน ๆ ไหนจะเหงื่อ ไหนจะความมันบนใบหน้าอีก แป้งพัฟธรรมดา ๆ คุมความมันไม่อยู่หน้าเยิ้มแน่ ๆ ดังนั้นการเลือกแป้งพัฟคุมมันไม่อุดตันจึงเป็นอะไรที่สำคัญ ซึ่งนอกจากการเลือกแป้งพัฟคุมมันไม่อุดตันแล้วอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือการที่จะต้องเลือกแป้งพัฟให้เหมาะสมกับผิวหน้าของตนเองด้วย ซึ่งก็มีวิธีเลือกง่าย ๆ ดังนี้

                    เทคนิคการเลือกแป้งพัฟให้เหมาะสมกับผิวหน้า

1.ผิวหน้าแห้ง ควรเลือกแป้งพัฟที่มีมอยเจอร์ไรเซอร์

สาว ๆ ที่มีผิวแห้ง มักประสบกับปัญหาผิวหน้ามีริ้วรอยเหี่ยวย่นได้ง่ายและมีรูขุมขนที่กว้าง คุณสาว ๆ ผิวแห้งทั้งหลายควรเลือกแป้งพัฟที่มีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์ และสารสกัดจากธรรมชาติ ที่ช่วยให้ผิวหน้านุ่ม ชุ่มชื้น ลดริ้วรอยต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงการเลือกใช้แป้งที่มีส่ารต้านอนุมูลอิสระของวิตามินซี ซึ่งช่วยบำรุงผิวให้ขาว เนียนใส และไม่ทำให้ผิวหน้าแห้งกร้านได้ง่ายอีกด้วย

2.สาวผิวมัน เลือกแป้งพัฟสูตรคุมมันขั้นเทพเอาอยู่แน่นอน

สาว ๆ ที่มีผิวหน้ามัน มักประสบปัญหาต้องเติมแป้งระหว่างวันอยู่บ่อยครั้ง ด้วยมีความมันส่วนเกินบนใบหน้า จากการเลือกใช้แป้งพัฟที่หลุดล่อนง่าย ไม่ติดทนนาน ซึ่งแป้งเหล่านี้อาจทำให้เกิดปัญหาผิวหมองคล้ำได้อย่างง่ายดาย ดังนั้น สิ่งที่สาว ๆ ผิวมันควรให้ความสำคัญก็คือ การเลือกซื้อแป้งที่สามารถควบคุมความมันบนใบหน้าได้อย่างดีเยี่ยม เมื่อทาแล้วติดทนนาน กันน้ำกันเหงื่อได้เป็นอย่างดี เมื่อใช้แล้วแป้งไม่หลุดและไม่เป็นคราบได้ง่าย นั่นเอง

3.สาว ๆ ผิวแพ้ง่าย และเป็นสิวควรเลือกแป้งที่มีสารสกัดจากธรรมชาติ

สำหรับคุณสาว ๆ ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย เป็นสิวได้ง่าย จะต้องพิถีพิถันในการเลือกเครื่องสำอางมากเป็นพิเศษเลยนะคะ และสิ่งที่คู่ควรกับสาว ๆ ผิวบอบแบบแพ้ง่ายก็หนีไม่พ้นแป้งพัฟสูตรอ่อนโยนต่อผิว ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติที่ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง ไม่มีแอลกอฮอร์ น้ำหอม พาราเบนส์และซิลิโคน ที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงแป้งที่มีส่วนผสมจากทัลคัม เพราะสารเหล่านี้จะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดสิวอุดตันและทำให้เกิดอาการแพ้ตามมาอีกด้วย ที่สำคัญคุณสาว ๆ ไม่ควรลืมทดสอบอาการแพ้ โดยทดลองทาแป้งที่บริเวณข้อพับด้านใน แล้วทิ้งไว้เป็นเวลา 24-48 ชั่วโมง ถ้าไม่เกิดอาการแพ้ตามมาแสดงว่าใช้ได้ค่ะ

4.ผิวผสม เลือกแป้งที่ควบคุมความมันและไม่ทำให้ผิวแห้งกร้าน

สาว ๆ หลายคนอาจจะยังไม่รู้ตัวว่าตนเองมีผิวผสม สามารถเช็คดูได้ง่าย ๆ เลยค่ะ คือ ให้เพื่อน ๆ ลองสังเกตตัวเองดูว่า ผิวบริเวณ T-zone ของนเองอย่างบริเวณหน้าผาก จมูก และคาง มีความมันและความชุ่มชื้นมากกว่าผิวบริเวณแก้มและรอบดวงตาหรือไม่ ถ้าหากใช่แสดงว่าคุณมีผิวผสมนั่นเอง และคุณสาว ๆ ที่มีผิวผสมก็ควรเลือกใช้แป้งพัฟที่ สามารถดูดซับความมันส่วนเกินบนใบหน้าได้ และมีสารสกัดจากธรรมชาติที่อ่อนโยนต่อผิว ทั้งยังมีส่วนผสมที่ช่วยในการบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้าน หรือจะเลือกซื้อแป้งที่มีส่วนผสมของครีมกันแดด ก็จะสามารถช่วยปกป้องผิวไม่ให้หมองคล้ำจากรังสียูวี สามารถลดปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอได้เป็นอย่างดี

5.สาว ๆ ที่มีผิวหมองคล้ำ เลือกใช้แป้งที่มีส่วนผสมของกันแดดและรองพื้น

ปัญหาผิวหมองคล้ำของคุณสาว ๆ เรียกได้ว่าเป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องแก้ไขเลยนะคะ เพราะผิวที่หมองคล้ำจากการโดนแดด และมีจุดด่างดำบนใบหน้า เพื่อน ๆ ควรเลือกใช้แป้งที่มีส่วนผสมของครีมกันแดด ซึ่งจะช่วยปกป้องผิวหน้าจากรังสียูวีได้ นอกจากนี้เพื่อน ๆ ก็ควรเลือกใช้แป้งที่ผสมรองพื้น เพื่อช่วยในการปกปิดจุดด่างดำบนใบหน้าและรูขุมขนรวมถึงริ้วรอยต่าง ๆ เพราะแป้งที่ผสมรองพื้นจะช่วยให้ผิวหน้าขาวเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ และถ้าหากต้องการให้ผิวหน้าดูขาวกระจ่างใสเป็นประกาย สาวผิวคล้ำก็ควรเลือกใช้แป้งพัฟที่มีส่วนผสมของซิมเมอร์ เพราะจะช่วยให้ผิวหน้าดูฉ่ำวาวมีออร่า และที่สำคัญเพื่อน ๆ ควรเลือกเบอร์แป้งให้ใกล้เคียงกับสีผิวของตนเองมากที่สุด เพื่อเวลาทาแล้วจะไม่ทำให้หน้าดูลอยจนน่ากลัวนั่นเอง

                     เป็นอย่างไรบ้างคะ กับเทคนิคการเลือกซื้อแป้งพัฟให้เหมาะสมกับสภาพผิวของตนเองที่เราเอามาฝาก ก็หวังว่าจะช่วยทำให้สาว ๆ หาแป้งพัฟที่ใช่สำหรับตนเองเจอนะคะ และสุดท้ายนี้อยากจะฝากถึงสาว ๆ ที่มีผิวหน้ามันว่าถ้าจะเลือกใช้แป้งพัฟไม่ใช่ว่าจะเลือกแค่แป้งพัฟที่ควบคุมความมันได้ดีเพียงอย่างเดียวแต่ต้องเลือกแป้งพัฟคุมมันไม่อุดตันด้วยถึงจะส่งผลดีต่อผิวหน้าของสาวผิวมันได้อย่างดีที่สุด