“การแพ้แป้งสาลี” คือการมีปฏิกิริยาที่ไม่พึงประสงค์ ซึ่งเกิดหลังได้รับอาหารที่ประกอบด้วยแป้งสาลี ไม่ว่าจะเกิดจากการรับประทาน การสัมผัสอาหาร หรือจากการสูดดมเข้าสู่ร่างกาย อาการที่แสดงออก เช่น
- มีผื่นลมพิษ ผื่นแดง หน้าบวม ตาบวม ริมฝีปากบวม
- น้ำมูกไหล ไอ จาม หายใจลำบาก หอบ แน่นหน้าอก
- คันปาก ริมฝีปากบวม อาเจียน ท้องเสีย
- มีอาการมึนงง
- เวียนศีรษะ ชีพจรเบาเร็ว ความดันโลหิตต่ำ
อาการเหล่านี้ อาจเกิดขึ้นเพียงเล็กน้อย หรือบางรายอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
หากลูกมีอาการแพ้แป้งสาลี แนะนำให้หลีกเลี่ยงอาหารที่มีแป้งสาลีเป็นส่วนประกอบ เช่น ขนมปัง ขนมเค้ก มักกะโรนี บะหมี่ ฯลฯ และควรอ่านฉลาก เพื่อให้รู้ส่วนประกอบของอาหารต่าง ๆ ก่อนเลือกซื้อเสมอ นอกจากนี้ ผู้ป่วยที่แพ้แป้งสาลีควรงดออกกำลังกาย 2-4 ชั่วโมงหลังอาหาร เพื่อป้องกันการเกิดภาวะแพ้แป้งสาลีรุนแรงได้ค่ะ
อย่างไรก็ตาม อาการแพ้แป้งสาลีสามารถหายได้ โดยจากการศึกษา เด็กที่แพ้แป้งสาลีจะหายจากภาวะแพ้แป้งสาลีตอนอายุมากขึ้น โดยเด็กที่หายตอนอายุ 4 ปี คิดเป็น 59%, 8 ปี คิดเป็น 76%, และหายตอนอายุ 16 ปี คิดเป็น 96%
ช่วงคุณแม่ตั้งครรภ์และให้นมลูก คุณแม่ควรกินอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ และหลังคลอดแล้วควรให้ทารกกินนมแม่อย่างน้อยนาน 4-6 เดือน สำหรับอาหารเสริมควรเริ่มหลังอายุ 4 เดือนและก่อนอายุ 6 เดือน ขึ้นอยู่กับพัฒนาการความพร้อมทั้งทางด้านพัฒนาการและร่างกายของทารก และควรให้ทารกหยุดกินอาหารนั้นทันทีถ้ามีอาการผิดปกติและให้รีบปรึกษาแพทย์