จากจุดนี้เอง น่าจะเป็นจุดที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่ต่างก็ต้องขุดค้น เค้นหากิจกรรมต่าง ๆ นานามาให้ลูก ๆ ได้ทำแก้เบื่อ (และแก้เครียดให้ตัวเองด้วย) และหนึ่งในกิจกรรมที่ครูพิมอยากแนะนำมาก ๆ กิจกรรมหนึ่งเลยก็คือ กิจกรรมการพูดคุยกับลูกนั่นเองค่ะ
พูดถึงการพูดคุย หลาย ๆ คนอาจจะบอกว่า ปกติก็คุยกับลูกอยู่แล้ว จะให้คุยอะไรกันอีก แต่ช้าก่อนค่ะ เพราะการพูดคุยที่ครูพิมอยากจะแนะนำในบทความนี้ เป็นการพูดคุยเพื่อให้ลูกได้เรียนรู้และศึกษาประสบการณ์จากเรา ผู้ที่ผ่านเรื่องราวต่าง ๆ มาก่อน และได้เจอกับอะไรหลาย ๆ อย่างที่เด็กรุ่นใหม่อาจจะไม่คุ้นเคย
การพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และเล่าเรื่องราวในอดีตให้เด็ก ๆ ได้ฟังนั้น เป็นประโยชน์ทั้งกับเราผู้เป็นผู้เล่า และเด็ก ๆ ที่เป็นผู้ฟังอย่างมากเลยล่ะค่ะ และประโยชน์เหล่านั้นก็คือ
เพราะการเล่าเรื่องราวในอดีตหรือประสบการณ์ส่วนตัวให้กับเด็ก ๆ ได้ฟังนั้น ช่วยทำให้เด็กรู้จักที่มาที่ไปของคุณพ่อคุณแม่มากขึ้น ทำให้รู้สึกถึงความน่าไว้วางใจ และช่วยเปิดโลกใหม่ ๆ ให้เด็ก ๆ ได้เห็นตัวตนอีกมุมหนึ่งของคุณพ่อคุณแม่นั่นเองค่ะ
ในหลาย ๆ ครั้ง เด็ก ๆ อาจจะอยากมีประสบการณ์ในบางเรื่องด้วยตนเอง แต่ผู้ปกครองก็มักจะเป็นห่วงและวิตกกังวล เพราะตนเองเคยประสบพบประสบการณ์ที่ไม่ดีมาก่อน การเล่าเรื่องราวเหล่านั้นให้เด็ก ๆ ฟัง จะทำให้เด็ก ๆ เชื่อและฟังเรามากขึ้น เพราะรู้สึกได้ว่า การห้ามของเรานั้น มีที่มาที่ไป ไม่ใช่เพียงแค่การพูดห้ามปรามเท่านั้นค่ะ
ข้อนี้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ยิ้มเลยใช่ไหมล่ะคะ เพราะจะมีอะไรที่ดีไปกว่า การสร้างกิจกรรมดี ๆ ร่วมกันกับลูกโดยไม่ต้องใช้สตางค์ นอกจากนี้ ยังเป็นกิจกรรมที่เราอยากจะใช้เวลานานเท่าไหร่ก็ไม่มีวันจบได้อีกด้วย รับรองว่าต่อให้หมดโควิด เรื่องราวชีวิตของเราก็ยังเล่าไม่หมดแน่ ๆ ค่ะ
คำถามต่อมาก็คือ แล้วถ้าอยากจะเริ่มต้นเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้ลูกฟัง ควรจะเริ่มจากอะไรดี เรื่องนี้ไม่ยากเลยค่ะ และเราไม่จำเป็นที่จะต้องเล่าหรือพูดถึงสิ่งที่เราไม่ต้องการเล่าก็ได้นะคะ เพราะการพูดคุยกันในที่นี้ มีจุดประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน การเล่าเรื่องราวจึงเป็นได้ตั้งแต่เรื่องทั่ว ๆ ไป ไปจนถึงประสบการณ์ต่าง ๆ ที่มีผลต่อชีวิตก็ได้เช่นกันค่ะ
- การติดต่อสื่อสารกันของคนในสมัยก่อน (จดหมาย / การโทรศัพท์)
- เพลงโปรดสมัยยังหนุ่ม / ยังสาว
- การละเล่นสมัยเด็ก ๆ ของพ่อแม่
- การเรียนการสอนในอดีต
- ชีวิตที่ไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้า
- การทำอาหาร
ฯลฯ
ครูพิม ณัฏฐณี สุขปรีดี
นักจิตวิทยาผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาศักยภาพเด็กเล็กและการเลี้ยงลูกเชิงบวก