สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ เล็งเห็นว่าสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 (Covid-19) ยังไม่คลี่คลาย จึงพิจารณาเลื่อนเปิดเทอมออกไปเป็นวันที่ 1 ก.ค. พ.ศ. 2563 แต่ในระหว่างนั้นก็ควรจัดการเรียนการสอน เพื่อเตรียมความพร้อมให้เด็ก ๆ ก่อนเปิดเทอมด้วยเช่นกัน
สพฐ. จึงออกแบบการเรียนการสอนในช่วง COVID-19ขึ้น โดยจะเริ่มทดสอบระบบตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค. เป็นต้นไป ดังต่อไปนี้
เด็กสามารถไปโรงเรียนตามปกติได้ แต่ในพื้นที่ที่ไม่ปลอดภัย จะจัดการเรียนการสอนผ่านระบบ on-air ของมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ในพระบรมราชูปถัมภ์ และระบบออนไลน์
โดยนักเรียนมีเวลาพักในภาคเรียนที่ 1/2563 จำนวน 17 วัน และในภาคเรียนที่ 2/2563 จำนวน 37 วัน รวมทั้งสิ้น 54 วัน ฉะนั้นภาคเรียนที่ 1/2563 เรียนตั้งแต่ 1 ก.ค.-13 พ.ย.63 เป็นเวลา 93 วัน แล้วปิดภาคเรียน 17 วัน ส่วนภาคเรียนที่ 2/2563 เรียนตั้งแต่ 1 ธ.ค.63-9 เม.ย.64 เป็นเวลา 88 วัน แล้วปิดภาคเรียน 37 วัน ตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย.64 ซึ่งจะมีเวลาเรียนรวมทั้งสิ้น 181 วัน ส่วนเวลาที่ขาดหายไป 19 วัน จาก 200 วัน ให้แต่ละโรงเรียนสอนชดเชย ดังนั้น การเปิดเทอมปีการศึกษาหน้า จะกลับมาปกติในวันจันทร์ที่ 17 พ.ค.64
ทาง ศธ.จะเป็นผู้สนับสนุนการเรียนการสอนทางไกล ในสัดส่วน 80% ส่วนอีก 20% ที่เหลือให้ทางโรงเรียนและคุณครูแต่ละพื้นที่พิจารณาตามความเหมาะสม
จะใช้ทีวีดิจิทัล และ DLTV เป็นหลัก ซึ่งได้รับการอนุเคราะห์สื่อจากมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยมีดิจิทัลแพลตฟอร์มของกระทรวงศึกษาธิการ หรือ DEEP และการเรียนการสอนแบบโต้ตอบออนไลน์เป็นสื่อเสริม
ซึ่งแนวทางการจัดการเรียนการสอนระบบทางไกล ที่คุณพ่อคุณแม่สามารถนำไปปรับใช้เพื่อเตรียมความพร้อมของลูกก่อนเปิดเทอมได้ แบ่งออกเป็นทั้งหมด 4 ระยะ ดังนี้
สำรวจความพร้อมในด้านอุปกรณ์การเข้าถึงอินเทอร์เน็ต ของนักเรียน ผู้ปกครอง ครู และระบบการบริหารจัดการการเรียนการสอน รวมถึงขออนุมัติใช้ช่องรายการโทรทัศน์ในระบบดิจิทัล จากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อจัดการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับปฐมวัยถึงระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย พร้อมขออนุมัติเผยแพร่การเรียนการสอนจากห้องเรียนต้นทาง ในระดับปฐมวัยถึงระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ของสถานีวิทยุโทรทัศน์การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTV) จากมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดทำสื่อวีดิทัศน์การสอน โดยครูต้นแบบ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จำนวน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ และรวบรวมสื่อการเรียนรู้ออนไลน์ใน OBEC Content Center ชุดโปรแกรมและแพลตฟอร์มการเรียนรู้ครบวงจรของกระทรวงศึกษาธิการ เช่น Tutor ติวฟรี.com, e-Book เป็นต้น รวมถึงเตรียมโครงสร้างพื้นฐานด้านระบบเครือข่าย เพื่อรองรับการให้บริการ แพลตฟอร์มการเรียนรู้ให้เชื่อมโยงกับระบบ Digital e-Learning ของกระทรวงศึกษาธิการ
จะทดลองจัดการเรียนการสอนทางไกล ในระดับปฐมวัยถึงระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ผ่านช่องรายการโทรทัศน์ในระบบดิจิทัล โดยการเผยแพร่สัญญาณจากมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ในพระบรมราชูปถัมภ์ (DLTV) ในระดับปฐมวัยเน้นกิจกรรมเตรียมความพร้อมเด็ก และระดับประถมศึกษาถึงระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จำนวน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ และในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ผ่านช่องรายการโทรทัศน์ในระบบดิจิทัลและระบบออนไลน์โดยครูต้นแบบ ด้วยเครื่องมือการเรียนรู้ตามความเหมาะสมและบริบทของสถานศึกษา รวมทั้งเปิดศูนย์รับฟังความคิดเห็นการเรียนการสอนทางไกล จากผู้ปกครอง ประชาชน และผู้เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นแนวทางการปรับปรุงและพัฒนา และประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ ความเข้าใจ แนะนำช่องทางการเรียนทางไกลให้กับผู้ปกครองและผู้เกี่ยวข้อง
ได้วางแผนไว้สำหรับ 2 สถานการณ์ นั่นคือ สถานการณ์ที่ 1 กรณีที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 (Covid-19) ยังไม่คลี่คลาย จะจัดการเรียนการสอนระดับปฐมวัยถึงระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ด้วยระบบทางไกลผ่าน DLTV และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ด้วยวีดิทัศน์การสอนโดยครูต้นแบบ และระบบออนไลน์ด้วยเครื่องมือการเรียนรู้ตามความเหมาะสมและบริบทของสถานศึกษา และสถานการณ์ที่ 2 กรณีที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 (Covid–19) คลี่คลาย จะจัดการเรียนการสอนปกติในโรงเรียน โดยให้เว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) และมีแผนเตรียมการเพื่อรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ โดยจะต้องได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน
จะประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการทดสอบและคัดเลือกเข้าศึกษาต่อ นั่นคือ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เกี่ยวกับระบบคัดเลือกเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา (TCAS GAT PAT) และ สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ เกี่ยวกับการทดสอบ O-net ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
1. ในช่วง 18 พ.ค. - 30 มิ.ย. 63 นี้ เป็นเพียงการทดลองเรียน เพื่อเตรียมความพร้อมแแก่เด็กและผู้ปกครองในการเข้าถึงการเรียนการสอนผ่านโทรทัศน์ DTV เท่านั้น (ยังไม่ใช่วันเรียนจริง)
2. ช่องทางออนไลน์ เป็นเพียงมาตรการเสริมสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมปลาย เพราะมีศักยภาพในการใช้อุปกรณ์
3. ระบบการเรียนการสอนมีระบบรีรันหลายรอบในแต่ละวัน จึงไม่ต้องกังวลว่าจะพลาดการเรียนการสอนช่วงใดช่วงหนึ่งไป
4. หากไม่มีโทรทัศน์ ไม่มีโทรศัพท์ ไม่มีอินเทอร์เน็ต หรือมีปัญหาเรื่องกล่องรับสัญญาณ ไม่ต้องซื้อ ให้แจ้งโรงเรียน ทางโรงเรียนจะแก้ไขปัญหาให้ หรือโทรสายด่วน (1579) เพื่อขอรับคำปรึกษาก็ได้เช่นกัน
5. การเรียนผ่านระบบทางไกล On-air คือ DLTV ในระดับอนุบาล-ม.3 และผ่านทีวิดิจิตอล 17 ช่อง โดย สพฐ.ผลิตคลิปทุกกลุ่มสาระทุกระดับชั้น
สำหรับโรงเรียนเอกชน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) มีนโยบายให้เรียนจัดรูปแบบการเรียนการสอน 3 วิธี คือ
1. เรียนในโรงเรียนปกติ ในพื้นที่ที่มีความพร้อม โดยจัดการเรียนการสอนตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข และให้มีระยะห่างของสังคม
2. เรียนผ่านระบบทางไกล On-air คือ DLTV ในระดับอนุบาล-ม.3 และผ่านทีวิดิจิตอล 17 ช่อง โดย สพฐ.ผลิตคลิปทุกกลุ่มสาระทุกระดับชั้น
3. ระบบออนไลน์ผ่านอินเทอร์เน็ต โดยมีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ครอบคลุมทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ตั้งแต่ระดับประถมศึกษาปีที่ 1 ไปจนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งจะเป็นการสอนทั้งไลฟ์สด และบันทึกเทปการสอน โดยมีครูโรงเรียนดังและติวเตอร์ที่มีชื่อเสียงเข้ามาร่วมสอนออนไลน์ในครั้งนี้
โดยนักเรียนสามารถเข้าใช้บริการเว็บไซต์ ศูนย์การเรียนรู้ด้วยระบบดิจิทัล สช. ได้จากเว็บไซต์ สช. (www.opec.go.th) จากนั้นเลือกโรงเรียนต้นทางที่ให้บริการ กรอกข้อมูลพื้นฐานตามที่ระบบร้องขอ ก็สามารถเริ่มการเรียนการสอนแบบออนไลน์ (Online) ได้ทันที โดยโรงเรียนเอกชนสามารถใช้ระบบการเรียนการสอนแบบออนไลน์ (Online) ควบคู่ไปกับการเรียนการสอนแบบปกติได้