“รู้ผลเกรดแล้ว แต่ยังไม่กล้าบอกพ่อแม่เลย ไม่เคยตกแย่ขนาดนี้ เครียดมาก” อันดับเเรกขอชมก่อนเลยนะว่าน้อง ๆ คนไหนที่รู้สึกเครียดกับเกรดที่ตก กลัวที่บ้านว่า แปลว่าน้อง ๆ ตั้งใจเรียนและใส่ใจการเรียนในระดับนึง ไม่ใช่สายชิลล์ #สอบได้เป็นเรื่องตลกสอบตกเป็นเรื่องธรรมดา เพราะการสอบตกทุกเทอมมันไม่ใช่เรื่องธรรมดาเด้อ ก่อนที่จะกลับไปตั้งหลัก พัฒนาตัวเอง ปั้นเกรดเทอมหน้าใหม่ ก็ต้องผ่านด่านบอกเกรดกับที่บ้านก่อน มาดูกันว่า ก่อนที่เราจะบอกที่บ้านเรื่อง ‘เกรดตก’ เราต้องเตรียมพร้อมยังไง ต้องสตรองแค่ไหน บอกยังไงที่บ้านถึงจะ ‘เข้าใจ’ มากกว่า ‘ด่า’

ไม่ปั้นหน้าเศร้า เล่าความเท็จ

หลายคนอาจกลัวพ่อแม่ด่ามากเลยหนีปัญหาด้วยการโกหก ! แต่รู้ไหมว่า การโกหกที่บ้านเรื่องเกรดมีแต่จะทำให้สถานการณ์ดิ่งลงเหว แนะนำให้บอกความจริง แล้วอธิบายว่าเพราะอะไรเราถึงเกรดตก เพราะคนเป็นพ่อแม่ทุกคนอยากเป็นพ่อแม่ที่ดีทั้งนั้น และการที่ลูกเกรดตกอาจทำให้เขารู้สึกว่าเป็นพ่อแม่ได้ไม่ดี ดังนั้นบอกเหตุผลที่ทำให้เราเกรดตกกับพ่อแม่

เกรดตกเพราะอะไรได้บ้าง

• การเรียนโดยธรรมชาติแล้ว ยิ่งเรียนสูง ยิ่งยากขึ้น 
• บางวิชาเราไม่เข้าใจเลย มันยาก 
• เรียนในห้องแล้วไม่เข้าใจ 
• เราติดเพื่อนมากไป 
• เราไม่ส่งงาน ส่งงานไม่ครบ 
• ทำกิจกรรมมากเกินไป 
• อ่านหนังสือไม่ทัน
 

การ "โกหก" ให้เนียนนั้นง่ายมาก บางบ้านพ่อแม่ไม่ขอดูใบเกรดด้วยซ้ำ แต่น้อง ๆ ก็รู้ดีว่าความลับไม่มีในโลกและการโกหกซ้ำ ๆ ให้เนียนตลอดกาลเป็นเรื่องที่ขนาดในหนังยังจบไม่สวย สักวันพ่อแม่ก็ต้องรู้อยู่ดี ให้เขาฟังจากปากเราดีกว่ารู้ความจริงจากปากคนอื่น ดังนั้น ยืดอกและยื่นใบเกรดให้พ่อแม่ดูแล้วบอกไปเลย ไม่ต้องปั้นหน้าเศร้าด้วย ไปเศร้าให้สุดกับตัวเองซะให้พอ แล้วเวลาไปพูดกับพ่อแม่ให้ทำหน้ามั่นใจ เขาถึงจะเชื่อว่าเราจะทำได้ดีขึ้นจริง ๆ

ไม่ต้องขอโทษ ไม่ต้องโทษตัวเองเสมอไป

พ่อแม่ทุกคนไม่อยากให้ลูกลำบากเหมือนตัวเองค่ะ และเขามองว่าการศึกษาจะทำให้ลูกมีชีวิตที่ดีขึ้น นั่นจึงเป็นที่มาของการปลูกฝังให้ลูกต้องเรียนให้ดีเลิศ เพราะอย่างน้อยมันเป็นการการันตีได้ว่าในอนาคตลูกจะได้มีอาชีพที่ดี ไม่ต้องลำบากเหมือนตัวเอง “ตั้งใจเรียน โตขึ้นจะได้เป็นเจ้าคนนายคน” นั่นคือสิ่งที่พ่อแม่หลายบ้านคาดหวังในตัวลูก

แต่อย่าขอโทษที่เราเรียนไม่ได้เกรดดีเท่าที่เขาคาดหวัง ถ้าจะขอโทษให้ขอโทษที่เราไม่ตั้งใจเรียน ติดเล่น ติดเกม ติดเพื่อน หรืออะไรก็แล้วแต่ ที่มันเกิดจากตัวเราเองที่ทำได้ไม่ดี บางคนขอโทษไว้ก่อน ทั้งที่ตัวเองทำดีแล้ว โทษแต่ตัวเอง ฝืนตอบแทนความดีพ่อแม่ด้วยวิธีการทำตามทุกอย่าง เพราะถ้าไม่ชอบพ่อแม่จะเท่ากับเป็นลูกอกตัญญู แต่ในเมื่อต้นตอของปัญหาคือความคาดหวังของพ่อแม่ที่มันสูงเกินไป ก็วางเรื่องอกตัญญูลงไปก่อน ต้องเข้าใจว่ามันไม่ผิดที่เราจะรู้สึกไม่โอเคกับพ่อแม่หากเขาคาดหวังในตัวเรามากเกินไป

“เพราะถ้าเราได้เกรด 3.5 แต่พ่อแม่อยากได้ 4.00
คนที่ต้องแก้ไขไม่ใช่เรา แต่เป็นตัวพ่อแม่เอง”  

สตรองเข้าไว้ ไม่เก็บคำด่ามาทำลายคุณค่าในตัวเรา

บางคนไม่ได้เกิดมาในครอบครัวที่พร้อมจะเข้าใจ ดังนั้นเตรียมใจถ้าจะถูกพ่อแม่ด่าว่าหยาบคาย “ทำไมโง่แบบนี้” “โง่ขนาดนี้ก็เลิกเรียนเลยไหม” “ไม่น่าเลี้ยงมึงมาเลย” เพราะพ่อแม่ก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง โกรธได้ มีอารมณ์เป็นเรื่องธรรมดา แต่น่าเสียดายที่พ่อแม่เก็บอารมณ์ไม่อยู่ เมื่อคำพูดที่มันหยาบคาย ทำร้ายจิตใจมาก ๆ ออกมาจากปากของพ่อแม่ ซึ่งเป็นคนที่เรารักแล้ว มันก็ต้องทำให้ลูกอย่างเราเจ็บปวด  

หาที่ปรึกษา ระบายมันออกไป 

การที่พ่อแม่ด่าแรง ๆ และหยาบคายมันไม่ใช่เรื่องปกติ และไม่มีใครชอบให้ใครมาด่า โดยเฉพาะสมัยนี้ที่มีนักจิตวิทยาเด็ก ผลวิจัยออกมาบอกมากมายว่า การที่ลูกเกรดตกแล้วพ่อแม่ไปด่าว่าลูกแรง ๆ ไม่ใช่วิธีที่ดีเลย เพราะคำพูดแย่ ๆ ของพ่อแม่มีแต่จะทำให้คนเป็นลูกเสียความมั่นใจ และเริ่มมองตัวเองในแง่ลบ แต่เพราะบางบ้านโตมากับสำนวนไทยที่ว่า “รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี” มาตั้งแต่บรรพบุรุษ พ่อแม่เราถูกสอนมาแบบนั้น เขาก็ต้องทำแบบนั้นกับเรา 

เรามีสิทธิ์สะท้อนสิ่งไม่ดีที่พ่อแม่ทำออกไปได้ การบอกพ่อแม่ว่าเราไม่ชอบที่เขาด่าไม่ใช่เรื่องอกตัญญู เพราะมันจะทำให้เราเปลี่ยนจากการกลัวพ่อแม่ด่าเพราะเกรดตก เป็นรีบไปบอกพ่อแม่ให้ช่วยดูว่าเราจะทำยังไงเกรดถึงจะดีขึ้น การปล่อยให้ความรู้สึกกลัวพ่อแม่เรื่องเกรดคาราคาซังต่อไป มันจะเป็นการสร้างปัญหาในครอบครัวได้ เป็นปมไปกระทบความสัมพันธ์ด้านอื่น ๆ ในชีวิต ในอนาคตเราอาจกลัวที่จะคุยกับพ่อแม่ไม่ใช่แค่เรื่องเกรดแต่เป็นเรื่องอื่น ๆ ในชีวิต ซึ่งถึงเวลานั้นอาจจะสายเกินแก้ ดังนั้นถ้าเราไม่ชอบที่โดนด่า และมันถึงจังหวะที่พอคุยได้ ก็ให้จัดการเลย

แต่เราไม่ได้บอกว่าทุกอย่างที่ว่ามาจะได้ผลนะคะ ปัญหาครอบครัวเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และมีจังหวะเวลาของมันเอง แต่ก็อย่าเพิ่งหมดหวังนะ บางบ้านอาจใช้เวลาเป็นปีในการแก้ปัญหาพ่อแม่ชอบด่า (ไม่ใช่แค่เรื่องเกรดแต่เป็นเรื่องอื่น ๆ ในชีวิตด้วย) บางบ้านอาจใช้เวลาแค่ข้ามคืน แต่อย่างหมดหวังล่ะ

แหล่งข้อมูล

เพจเฟซบุ๊กเข็นเด็กขึ้นภูเขา  
นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ "ม.6 เกรดตก ไม่ช่วยงานบ้าน พูดไม่ฟัง..."