Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

เหตุใดโรงเรียนจึงไม่ควรให้นักเรียนทำกิจกรรมกลางแดดมากเกินไป

Posted By Plook Teacher | 27 ธ.ค. 62
13,465 Views

  Favorite

ทุกวันนี้ แสงแดดในบ้านเรา แตกต่างกว่าเมื่อหลายสิบปีก่อน ซึ่งเป็นผลพวงที่มาจากการทำลายธรรมชาติของมนุษย์ที่มีมาตั้งแต่อดีตจวบจนยุคปัจจุบัน ซึ่งภาวะโลกร้อนที่เกิดจากน้ำมือมนุษย์นั้นทำให้อุณหภูมิทั่วโลกสูงขึ้น และส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

 

การทำกิจกรรมกลางแจ้งนับว่าเป็นส่วนหนึ่งในการจัดการเรียนรู้ในโรงเรียนที่มีประโยชน์อย่างมาก โรงเรียนบางแห่งมีพื้นที่นอกห้องเรียนที่กว้างขวางและสามารถใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ก็มักจะเลือกใช้กิจกรรมกลางแจ้งเพราะนักเรียนจะได้เคลื่อนไหว ฝึกฝนทักษะและส่งเสริมให้นักเรียนมีประสบการณ์ชีวิตต่าง ๆ ซึ่งกิจกรรมกลางแจ้งนั้นสามารถจัดได้ทั้งแบบในร่มและแบบกลางแจ้ง ขึ้นอยู่กับความพร้อมและความเหมาะสมของสถานที่

 

ปัจจุบันการให้นักเรียนจัดทำกิจกรรมกลางแจ้งบริเวณลานกว้างหรือกลางสนามโดยไม่มีร่มเงานั้น เป็นเรื่องที่อันตรายอย่างมากถ้าไม่ได้ดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะด้วยภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ร่างกายของคนเราต้องเผชิญกับความร้อนและรังสีจากดวงอาทิตย์มากยิ่งขึ้น การทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นประจำและเป็นระยะเวลานาน โดยไม่มีการป้องกันนั้นจะส่งผลเสียต่อสุขภาพของเราได้ในระยะยาว ซึ่งต่อไปนี้คือเหตุผลว่าทำไมเรา รวมถึงลูกศิษย์ของเราจึงไม่ควรตากแดดมากจนเกินไป

 

ส่งผลเสียต่อผิวหนัง

การตากแดดนาน ๆ นั้น ส่งผลเสียต่อสุขภาพผิวอย่างมาก เพราะทำให้เกิดผิวหนังอักเสบและติดเชื้อได้ง่าย เพราะรังสียูวีจะเข้าไปทำลายเซลล์ผิวหนัง ทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย นอกจากนี้การตากแดดมาก ๆ จะทำให้เกิดเหงื่อไคล และเกิดการอับชื้นในซอกพับต่าง ๆ ส่งผลให้เกิดการระคายเคือง ผดผื่นคัน ซึ่งรบกวนการดำเนินชีวิต การที่ผิวโดนแดด โดยเฉพาะในช่วงที่รังสียูวีมีความเข้มข้นสูงมากเป็นพิเศษ เซลล์ผิวหนังของเราจะได้รับความเสียหาย เพราะเส้นเลือดที่ไหลเวียนมายังเซลล์ผิวหนังนั้นถูกทำลายด้วยรังสียูวี จึงเป็นสาเหตุให้ผิวมีสีแดงจัด และเกิดการไหม้เกรียมแดดในเวลาต่อมา

 

รังสียูวีเอและแสงช่วงที่ตามองเห็น (Visible Light) นั้นสามารถเข้าไปกระตุ้นเซลล์สร้างเม็ดสีเมลาโนไซต์ (Melanocyte) และส่งผลทำให้จนทำให้การผลิตเซลล์เม็ดสีเมลานิน (Melanin) ซึ่งอยู่ในผิวหนังชั้นนอกส่วนล่าง (Epidermis) ทำงานมากผิดปกติ ทำให้เกิดกระและฝ้าบนผิวหนัง นอกจากนี้รังสียูวี ยังเข้าไปทำลาย DNA (genotoxic) และกระตุ้นให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้อีกด้วย

 

ส่งผลเสียต่อสายตา

การใช้สายตาท่ามกลางแสงแดดที่มีความเข้มข้นของรังสียูวีสูง จะส่งผลให้กระจกตาอักเสบ จอประสาทตาเสื่อม คือ จะเห็นวุ้นหรือจุดดำ ๆ ปรากฎขึ้นในดวงตาซึ่งเป็นสัญญาณความเสื่อมของจอประสาทตาอันจะส่งผลกระทบต่อการมองเห็นในระยะยาว มีอาการแสบตา น้ำตาไหล แพ้แสง ตาไม่กล้าสู้แสง และตาแดง จนอาจนำไปสู่โรคต้อกระจก ต้อลม และต้อเนื้อ ซึ่งเป็นโรคทางสายตาที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันได้

 

ส่งผลเสียต่อสุขภาพ

การตากแดดนาน ๆ อาจส่งผลให้นักเรียนมีโอกาสเป็นลมแดด เพลียแดด มีอาการปวดหัว อาเจียน ตัวร้อนจัด จนช็อคหมดสติ และอาจถึงขึ้นทำให้เสียชีวิตได้ถ้าไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที นอกจากนี้รังสียูวียังเข้าไปทำให้เกิดการสลายตัวของเม็ดเลือดขาว ซึ่งส่งผลให้ภูมิคุ้มในร่างกายอ่อนแอลงได้อีกด้วย

 

จากผลเสียที่ได้กล่าวมาทั้งหมดนี้ โรงเรียนจึงควรมีแนวทางในการทำกิจกรรมกลางแจ้งอย่างเหมาะสม ซึ่งแนวทางที่โรงเรียนสามารถดำเนินการได้นั้น มีดังนี้

1. โรงเรียนควรดำเนินการสร้างร่มเงาในโรงเรียนให้มากขึ้น โดยอาจใช้วิธีปลูกต้นไม้ใหญ่เพื่อให้ร่มเงา หรืออาจจะเป็นการสร้างโดมหรือหลังคาเพื่อกันแดด เป็นต้น เพื่อที่ครูผู้สอนและนักเรียนจะได้ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ต่าง ๆ ได้มากขึ้น
2. ควรให้นักเรียนดำเนินกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงเวลาที่เหมาะสมเช่น ช่วงเช้า หรือช่วงเย็น ที่มีแดดน้อย และกำหนดเวลาให้ชัดเจน ไม่นานเกินไป เช่น กิจกรรมหน้าเสาธงในตอนเช้า ไม่ควรเกินสิบห้านาที เป็นต้น
3. ในการทำกิจกรรมกลางแจ้งควรมีเวลาให้นักเรียนได้พักในร่มและดื่มน้ำ โดยต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ศาลา และตู้กดน้ำในพื้นที่ เพื่อให้ใช้สอย
4. การทำกิจกรรมที่ต้องออกแดดเป็นเวลานาน ทั้งในและนอกโรงเรียน ควรอนุญาตให้นักเรียนสวมใส่หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันแสงแดด เช่น ครีมกันแดด หมวก ปลอกแขน หรือ ร่ม เป็นต้น เพื่อป้องกันตัวจากความร้อนและรังสีที่เป็นอันตรายจากดวงอาทิตย์

 

อย่างไรก็ตาม แม้ว่ารังสีและความร้อนจากแสงแดดจะส่งผลเสียต่อร่างกายของเรา แต่สำหรับแดดในบางช่วงเวลา เช่น แดดอ่อน ๆ ในตอนเช้า กลับมีประโยชน์ต่อร่างกายของเราอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะแสงแดดในช่วงเวลานี้ จะช่วยเพิ่มวิตามินดีในร่างกาย ทำให้ระบบประสาทดี ช่วยดูดซับแคลเซียม ป้องกันโรคกระดูกพรุน และสร้างภูมิคุ้มกัน ลดการเกิดของแบคทีเรีย นอกจากนี้ยังป้องกันการเกิดมะเร็งได้หลายชนิดอีกด้วย ดังนั้นจึงควรรับแสงจากดวงอาทิตย์ให้ถูกช่วงเวลาจึงจะได้ประโยชน์สูงสุด

 

เรียบเรียงโดย : นรรัชต์  ฝันเชียร

 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Plook Teacher
  • 127 Followers
  • Follow