Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

ทำความรู้จักสุดยอดทีมไซเบอร์ซีเคียวริตี้ ตัวแทนประเทศไทยเข้าแข่งขัน Cyber SEA Game 2019

Posted By BOWCOMP | 10 ต.ค. 62
339 Views

  Favorite

           ประกาศผลและมอบรางวัลไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับผู้ชนะการแข่งขัน Thailand CTF Competition 2019  เวทีเฟ้นหาสุดยอดอัจฉริยะด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์หน้าใหม่ ของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการแข่งขัน CTF ระดับอาเซียน Cyber SEA Game 2019 ในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้

          โดยผู้ชนะเลิศในปีนี้ได้แก่ “ทีม 555+” ที่สามารถแก้โจทย์ปัญหาด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แบบถาม-ตอบ (jeopardy) ได้สำเร็จภายใน 24 ชั่วโมง เอาชนะผู้เข้าแข่งขันอีก 90 กว่าทีมไปได้อย่างเป็นเอกฉันท์  คว้าประกาศนียบัตร โล่ พร้อมของรางวัลต่าง ๆ ไปครองอย่างภาคภูมิใจ วันนี้เราจะพามาทำความรู้จักกับ4 หนุ่มไซเบอร์ซีเคียวริตี้รุ่นใหม่ของวงการว่าพวกเขามีกลเม็ดเคล็ดลับอย่างไรในการคว้าชัยครั้งนี้


แพสชั่น ความฝัน และเป้าหมายของ 555+

ทีม 555+


           สำหรับทีม 555+ นั้นประกอบไปด้วย โอม-เมธาสิทธิ์ รินทร, นัท-ธรรศ แสงสมเรือง, อู๋-ณัศสิทธิ์ จิรธรรมานุวัตร, และหนุ่ม-กิจวิพัฒน์ โตวัฒนา  ทั้ง 4 เป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงที่มีแพสชั่น ความฝัน และเป้าหมายร่วมที่เหมือนกันคือ อยากพัฒนาระบบเทคโนโลยี ระบบไซเบอร์ในประเทศไทยให้ดีและปลอดภัยยิ่งขึ้นกว่าเดิม ผ่านความรู้ความเชี่ยวชาญที่พวกเขามีอยู่ให้มากที่สุด
          “..อาชีพของพวกเราคือ การหาช่องโหว่ที่เป็นภัยไซเบอร์ให้เจอ เราอาจไม่รู้ว่ามีอยู่กี่ช่องโหว่ แต่เราต้องหาให้เจอนี่เลยเป็นความท้าทาย เพราะยิ่งโลกดิจิทัลเติบโต ช่องโหว่ก็มาได้หลากหลายรูปแบบมากขึ้น ทำให้พวกเราต้องคิดนอกกรอบให้เป็น เรียนรู้อัปเดตตัวเองให้ทันโลกตลอดเวลา เพื่อให้ทุกคนได้ใช้เทคโนโลยีอย่างปลอดภัย และป้องกันการเกิดผลกระทบที่ไม่ดี” นัท ธรรศ หนึ่งในสมาชิกทีม 555+ กล่าว
          ขณะที่ อู๋ ณัศสิทธิ์ บอกว่า “ผมอยากเห็นคนไทยได้เป็นนักไซเบอร์ซีเคียวริตี้ระดับโลก ถ้าหากเรามีโอกาสพัฒนาตัวเองถึงขั้นนั้นได้ จะทำให้ประเทศไทยก้าวหน้าขึ้นกว่าเดิม”

เห็นโอกาสจาก Thailand CTF
         
          4 หนุ่ม จากทีมชนะเลิศ เล่าว่า ปัจจุบันพวกเขาทั้ง 4 คนทำงานด้าน cyber security กันอยู่แล้ว เป็น penetration tester บ้าง เป็น security consultant ในบริษัทเอกชนบ้าง แต่มารวมตัวเข้าแข่งขัน Thailand CTF Competition 2019 เพราะเห็นโอกาสตรงกันว่า เวทีนี้จะทำให้พวกเขามีทักษะก้าวหน้าไปอีกขั้น ผ่านการแข่งขันในสนามที่ได้มาตรฐานสากล
            มากกว่านั้นคืออยากเรียนรู้การทำงานเป็นทีม รู้จักอดทน ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ได้ฝึกฝนพัฒนาตัวเอง เพื่อก้าวสู่การเป็นนัก Cybersecurity ที่ดีของประเทศไทยและของโลกในอนาคต 
            “ในกลุ่มของเราบางคนเคยผ่านสนามนี้มาแล้ว แต่ที่กลับมาอีกครั้ง เพราะทุกการแข่งขันมันคือโอกาสในการสร้างประสบการณ์ สร้างทักษะ ให้ความรู้ความเข้าใจในการแก้โจทย์ใหม่ๆ ได้มากขึ้น เร็วขึ้น เก่งขึ้น เราจึงไม่รอช้าที่จะคว้าโอกาสนี้ไว้  ชนะหรือแพ้ไม่เป็นไรขอแค่ให้ได้แข่งและทำให้เต็มที่” โอม เมธาสิทธิ์ กล่าว
อย่างไรก็ดี 4 หนุ่ม 555+ บอกว่า กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ พวกเขาเตรียมตัวและฝึกฝนอย่างหนักทุกวันก่อนการแข่งขัน เพราะความถนัดแต่ละคนแตกต่างกัน ดังนั้น การฝึกทำโจทย์ CTF ก็จะต้องมีรูปแบบหลากหลายขึ้น ฝึกทำความเร็วในการแก้โจทย์  ฝึกการทำงานเป็นทีมเวิร์คให้ดีขึ้น ที่สำคัญไม่ควรละเลยมองข้ามก็คือ การดูแลร่างกายให้พร้อมสำหรับการแข่งขันอีกด้วย
            ทั้ง 4 หนุ่มเผยว่า รู้สึกดีใจมากที่ชนะการแข่งขัน Thailand CTF แต่มากกว่านั้นคือความภาคภูมิใจที่ได้เป็นตัวแทนคนไทยไปแข่งขัน cyber sea game เพราะเป็นหนึ่งในเวที CTF ใหญ่ระดับสากลที่จะช่วยเป็นบันไดพัฒนานักไซเบอร์ซีเคียวริตี้ของไทยให้ไปสู่ระดับโลกได้ ทั้งยังเป็นความร่วมมือในอาเซียนเกี่ยวกับการพัฒนาบุคลากรด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์อีกด้วย
            “ทุกความพยายามมีความคุ้มค่าเสมออย่างทีมของเราที่ชนะได้ ผมมองว่าเป็นเพราะความพยายาม ความมุ่งมั่น จนได้เป็นตัวแทนของประเทศไทยไปแข่งต่อในระดับอาเซียน ผมและเพื่อนๆจะพยายามทำให้เต็มที่และดีที่สุดเท่าที่จะทำได้” หนุ่ม-กิจวิพัฒน์ อีกหนึ่งสมาชิกกล่าวด้วยความภูมิใจ

ETDA เวทีท้าทายความสามารถนักไซเบอร์รุ่นใหม่
         

ทีม 555+

           ทีม 555+ ยังมองว่าเวที Thailand CTF ของเอ็ตด้านับเป็นเวทีที่ท้าทายความสามารถนัก
ไซเบอร์ซีเคียวริตี้เพิ่มขึ้นทุกปี เห็นได้จากการออกแบบโจทย์ที่เข้มข้นและซับซ้อนมากขึ้น ผู้เข้าแข่งขันจะต้องใช้ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ แก้ไขโจทย์ปัญหาด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แบบรอบด้านมากขึ้น นอกจากนั้นยังเหมือนเป็นใบรับรองชั้นดีช่วยต่อยอดความสำเร็จของอาชีพนักไซเบอร์รุ่นใหม่ให้ก้าวหน้าต่อไป
 
          “แม้ว่าทีมของเราแทบไม่ได้คะแนน First Blood ที่แก้ไขโจทย์ได้เป็นทีมแรกเลย แต่เวทีนี้ก็ช่วยสอนให้ทีมของเราอึดและถึกมากขึ้น ไม่ยอมแพ้กันง่ายๆ เพราะในช่วง 24 ชั่วโมงของการแข่งขันกับอีก 90 กว่าทีมก็มีผลัดกันเพลี่ยงพล้ำ หล่นอันดับไปไกลบ้าง แต่เราก็ไม่ยอมแพ้ เรายังคงอดทน สู้จนวินาทีสุดท้าย ทำให้เราชนะการแข่งขันครั้งนี้” โอม-เมธาสิทธิ์ กล่าว
 
           หากถามว่าเราจะต่อยอดประโยชน์จากการเป็นตัวแทนประเทศไทยอย่างไร นัท-ธรรศ กล่าวว่า ถ้าในมองในแง่ประโยชน์สำหรับตัวเอง รางวัลชนะเลิศคือใบเบิกทางที่ช่วยสร้างตัวตนให้พวกเราและช่วยสร้างความมั่นใจในตัวเองว่าเรามีโอกาสเป็นนักไซเบอร์ซีเคียวริตี้ได้ แต่ถ้ามองในแง่ของภาพรวมพวกเราทั้ง 4 คน ก็มีหน้าที่แข่งขันให้ดีที่สุด เก็บประสบการณ์จากการแข่งกับอีก 9 ชาติอาเซียน ให้มากที่สุดจากการแข่งขันในฐานะตัวแทนไทย และถ้ามีโอกาสก็จะส่งต่อความรู้ให้กับคนที่สนใจต่อไป
 
           “เราโชคดีที่ได้รับโอกาสจากเอ็ตด้า ได้เปิดโลกกว้าง ได้ค้นคว้าหาความรู้หลายแขนง เพื่อให้รู้รอบ และรอบรู้ ไม่ย่ำอยู่กับที่ หรือสนใจเฉพาะในสิ่งที่ตัวเองถนัด เพราะการจะเป็นนักไซเบอร์ซีเคียวริตี้ที่ดีไม่ใช่แค่รู้เรื่องเว็บอย่างเดียวจะทำได้ แต่จำเป็นต้องรู้ให้มากกว่าสิ่งที่ดีเวลลอปเปอร์รู้ ก้าวให้นำก่อนคนอื่น ถ้าเรานำหน้าได้ เราก็จะมองเห็นช่องโหว่และปกป้องระบบไซเบอร์ให้ปลอดภัยสำหรับทุกคนได้” 4 หนุ่ม 555+ กล่าว

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • BOWCOMP
  • 0 Followers
  • Follow