“ความเครียด” หรือภาวะเครียด เป็นสิ่งที่ทุกคนบนโลกล้วนต้องเจอ แต่จะมากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับภูมิต้านทานและวิธีการรับมือของแต่ละคน (ซึ่งแม้แต่เด็กเล็ก ๆ ก็ยังมีช่วงเวลาที่ตกอยู่ในสภาวะเครียดได้เช่นกัน) หากว่าคุณไม่สามารถจัดการกับความเครียดเหล่านั้นได้และปล่อยให้ความเครียดนั้นค่อย ๆ เรื้อรังต่อไป ตัวของคุณเองก็อาจต้องเผชิญกับ “โรคเครียด” ได้ในที่สุด
“โรคเครียด” คือภาวะที่คุณต้องเผชิญกับแรงกดดันหรือสถานการณ์บางอย่างที่ส่งผลในด้านลบต่อร่างกายและจิตใจ ทำให้ร่างกายเกิดการตอบสนองและหลั่งสารสื่อประสาทออกมา ซึ่งอาการที่แสดงออกมาเมื่อเกิดความเครียดสามารถสังเกตได้จากหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ หายใจลำบาก มีความคิดฟุ้งซ่าน ตื่นตระหนก กล้ามเนื้อหดตัว หรือบางคนอาจมีภาวะความดันสูงได้ แต่อาการเหล่านี้เป็นเพียงอาการตอบสนองเบื้องต้นของร่างกายเมื่อเกิดความเครียดเท่านั้น ไม่ได้หมายความว่าคุณกำลังเผชิญกับโรคเครียดแต่อย่างใด
วันนี้เราจึงจะพาคุณมาเช็ก 7 สัญญาณเตือนที่กำลังบอกว่า...คุณอาจกำลังเสี่ยงเป็น “โรคเครียด”
ในบางคนอาจมีอารมณ์ขุ่นมัว อารมณ์ไม่ดี หงุดหงิดง่ายขึ้น หรือในบางคนอาจมีอาการซึมเศร้า ไม่ร่าเริงแจ่มใส มองว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งเลวร้าย รู้สึกว่าปัญหาทุกอย่างไม่มีทางออก และในบางคนอาจเริ่มมีอาการควบคุมอารมณ์ น้ำเสียง และระดับความดังของเสียงของตนเองไม่ได้ (อาจพูดจาเสียงดังโดยที่ไม่รู้ตัวและไม่เคยเป็นมาก่อน)
เมื่อคุณตกอยู่ในสภาวะที่เครียดมาก ๆ คุณจะมีแต่ความวิตกกังวลใจ รู้สึกสับสน เข้าใจอะไรได้ยากขึ้น และที่สำคัญคือคุณจะไม่มีสมาธิในการจดจ่อกับเรื่องต่าง ๆ ได้เลย นอกจากนี้ อาจมีอาการขี้หลงขี้ลืม ทำหรือพูดอะไรโดยที่ไม่รู้ตัวได้ด้วยเช่นกัน
ในขณะที่คุณตกอยู่ในสภาวะแห่งความเครียด สมองจะเริ่มหลั่งสารสื่อประสาท ส่งผลให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น หายใจลำบากขึ้น (บางคนอาจรู้สึกเหมือนตัวเองตื่นเต้นตลอดเวลา) ปวดหัว ปวดตัว นอนไม่หลับ อาหารไม่ย่อย เกิดความรู้สึกอยากอาหารมากกว่าปกติ
คุณอาจเริ่มรู้สึกว่าตัวเองโดดเดี่ยวและต้องรับมือกับทุกปัญหาด้วยตัวเองโดยไม่มีทางออก ทั้งที่ความจริงแล้วอาจเป็นตัวคุณเองที่พยายามหลีกหนีความวุ่นวายด้วยการแยกตัวออกจากคนรอบข้าง เกิดความรู้สึกอยากอยู่คนเดียว และหลีกเลี่ยงที่จะต้องออกไปพบปะผู้คน
จิตใจของคุณจะจมอยู่กับปัญหาและสถานการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้น คิดวกวนอยู่อย่างนั้นซ้ำ ๆ จนทำให้คุณรู้สึกเหมือนว่าชีวิตช่วงนี้มีแต่ปัญหา ซึ่งการคิดวกวนเรื่องเดิม ๆ นี้ส่งผลให้คุณมองข้ามเรื่องดีอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันไป ยิ่งหากบางคนที่คิดวกวนในเรื่องไม่ดีมากเกินไป อาจส่งผลให้เขาเหล่านั้นไม่อยากมีตัวตนอีกเลยก็ได้
คุณจะเริ่มเข้าใจสิ่งต่าง ๆ ได้ยากขึ้น รวมไปถึงตัวของคุณเองเช่นกัน คุณจะไม่สามารถเข้าใจความต้องการของตัวเองได้ ไม่เข้าใจอารมณ์หรือสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นกับตัวเอง เกิดความสับสนและไม่พอใจในสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น
คุณจะเริ่มมีความอดทนที่ต่ำลง รู้สึกหงุดหงิดง่าย ไม่พอใจได้ง่าย รวมถึงอาจมีความรู้สึกเศร้า และสะเทือนใจได้ง่ายกว่าเดิม ซึ่งอาการดังกล่าวล้วนส่งผลให้เกิดอาการในข้ออื่น ๆ ตามมา เช่น อารมณ์ขุ่นมัวได้ง่าย นอนไม่หลับ หรือเสียสมาธิต่อสิ่งเร้ารอบตัวได้ง่าย