แคนแคนกล่าวถึงความสนใจด้านสิ่งแวดล้อมว่า “สำหรับตัวแคนเองตอนนี้ได้ฝึกงานในหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อม ได้ทำวิเคราะห์ตัวอย่างน้ำ แล้วทำรายงานกลับไปยังบริษัทได้ว่าตอนนี้น้ำมีค่าไม่ได้มาตรฐานหรือเปล่า บางบริษัทน้ำดื่มของพนักงานมีค่าปนเปื้อนเยอะกว่าน้ำฝนหน้าโรงงานอีก เรื่องสิ่งแวดล้อมมันกระทบกับทุกคนโดยตรง แคนพยายามบอกกับทุกคนเรื่องนี้ สมัยนี้คนรับรู้ถึงสิ่งแวดล้อมง่ายขึ้นเพราะมีสื่อโซเชียลมีเดียที่พูดถึงผลกระทบ เราสามารถเสิร์ชได้ว่าสิ่งนี้เกิดจากอะไรเพราะอะไร แต่ในขณะที่ในพื้นที่นี้น้อง ๆ อาจใช้โซเชียลมีเดียไม่เป็น อย่างน้อยเราที่ศึกษาโลกโซเชียลมามากก็ได้นำข้อมูลความรู้นั้นมาเล่าให้น้อง ๆ”
นอกจากนี้ยังเปิดเผยถึงการได้มาเป็นวิทยากรในโครงการนี้ว่าปกติแคนแคนใช้โซเชียลมีเดียสื่อสารเรื่องต่าง ๆ กับแฟนคลับ รวมถึงเรื่องเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมด้วย นี่จะได้เป็นกระบอกเสียงหนึ่งให้กรมชลประทานว่าอย่างน้อยเขาได้ตอบแทนจากการสร้างอ่างเก็บน้ำที่นี่ มีโครงการส่งเสริมด้านต่าง ๆ มีการปลูกป่าทดแทน ฯลฯ
“เรื่องการทำคลิปวิดีโอเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดียไม่ยากเกินไปสำหรับน้อง ๆ เพราะบ้านของเขามีหลายอย่างที่คนกรุงตามหา สมัยนี้มีหลายที่หลายจังหวัดที่ดังเพียงเพราะกระแสของโซเชียลมีเดีย แคนก็หวังว่าน้อง ๆ จะได้ความรู้เยอะทั้งด้านการเขียนคอนเทนต์ การตัดต่อวิดีโอ ความรู้พวกนี้สมัยที่แคนอายุเท่าน้องก็ไม่ได้มีใครมาสอน นี่จึงเป็นโอกาสดีที่มีงบประมาณมาช่วยให้น้อง ๆ ได้ฝึกคิด กล้าเสนอไอเดียเพื่อพัฒนาบ้านของพวกเขา”