Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

สอนนักเรียนให้รู้จักจัดการกับขยะอย่างชาญฉลาด

Posted By Plook Teacher | 02 ก.ค. 62
25,177 Views

  Favorite

นรรัชต์ ฝันเชียร

 

          ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีการสร้างขยะเฉลี่ยอยู่ที่อันดับ 70-80 ของโลก โดยประชากรหนึ่งคน จะผลิตขยะเฉลี่ย 1.1-1.5 กิโลกรัม ต่อวัน ซึ่งปัญหาหลักของประเทศไทยคือปัญหาในการจัดการกับขยะเหล่านี้ ทุกวันนี้ในครัวเรือนส่วนใหญ่ของประเทศไทย จะทิ้งขยะรวมกันในถุงเดียวโดยไม่แยกขยะให้เหมาะสม สิ่งนี้ทำให้เป็นปัญหาในการจัดการขยะ เพราะมีขยะปะปนกันจนไม่สามารถแยกได้อย่างมีประสิทธิภาพที่ปลายทาง ทำให้ไม่สามารถจัดการขยะมูลฝอยได้ตามที่ควรจะเป็น นอกจากนี้บางพื้นที่ใช้วิธีกำจัดขยะโดยการเผาในที่โล่ง ก็ยิ่งสร้างมลพิษในอากาศ ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมากกับบุคคลทั่วไป

 

          การคัดแยกขยะ นับเป็นกรรมวิธีเบื้องต้น ที่เราสามารถทำได้เองถ้ามีความใส่ใจและเห็นถึงความสำคัญมากพอ โดยวิธีการการแยกขยะง่ายๆ อย่างถูกวิธี สามารถแบ่งประเภทของขยะออกได้เป็น 4 กลุ่ม คือ

          1. กลุ่มขยะอินทรีย์ เช่น พวกเศษอาหาร กิ่งไม้ ใบไม้ ซึ่งสามารถนำไปผลิตเป็นปุ๋ยได้ สีของถังขยะหรือถุงขยะจะเป็นสีเขียว

          2. ขยะรีไซเคิล เช่น กระดาษ เศษเหล็ก โลหะ ขวดแก้ว ขวดพลาสติก ซึ่งสามารถนำไปผ่านกระบวนการรีไซเคิลได้ สีของถังขยะหรือถุงขยะจะเป็นสีเหลือง

          3. ขยะทั่วไป เช่น ซองลูกอม ถุงขนม หลอดกาแฟ ถุงพลาสติก เป็นขยะที่ย่อยสลายได้ยากและไม่คุ้มที่จะนำไปรีไซเคิล แต่บางอย่างสามารถนำมาใช้ซ้ำได้ สีของถังขยะหรือถุงขยะจะเป็นสีน้ำเงิน

          4. ขยะอันตราย เช่น กระป๋องสี ถ่านไฟฉาย กระป๋องยาฆ่าแมลง ขวดน้ำมันเครื่อง สีของถังขยะหรือถุงขยะจะเป็นสีแดงหรือบางพื้นที่จะใช้เป็นถังขยะสีเทาฝาส้ม

 

          การแยกขยะที่เหมาะสมนั้น นอกจากจะทำให้ประเทศไทยกำจัดขยะได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังช่วยเพิ่มให้เรามีรายได้จากการนำที่คัดแยกไปขายเพื่อรีไซเคิลได้อีกด้วย ดังนั้นโรงเรียนจึงควรส่งเสริมให้นักเรียนรู้จักแยกขยะให้เป็น และมีจิตสำนึกในการแยกขยะ ซึ่งแนวทางที่โรงเรียนสามารถดำเนินการได้นั้นมีดังนี้

 

          1. ลดการใช้

          บรรจุภัณฑ์บางประเภท ถ้าไม่มีความจำเป็น เราสามารถลดปริมาณการใช้ลงได้ เช่น โฟม ถุงพลาสติก และหลอดกาแฟ โดยเฉพาะโฟมที่นอกจากจะเป็นมลภาวะแล้ว ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพของผู้ใช้จากสารเคมีที่เกิดขึ้นจากการหุ้มห่ออาหารอีกด้วย โรงเรียนควรเริ่มต้นจากการหันมาใช้ภาชนะที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ หรือเลือกใช้วัสดุที่ย่อยสลายได้แทนบรรจุภัณฑ์ดังกล่าว พร้อมทั้งรณรงค์ให้นักเรียนและบุคลากรในโรงเรียนปฏิบัติตามคำแนะนำ ด้วยการติดป้ายรณรงค์ในพื้นที่ที่มีจะใช้บรรจุภัณฑ์เป็นประจำ เช่น โรงอาหาร หรือบริเวณหน้าโรงเรียน เป็นต้น

          2. ใช้ให้คุ้มค่า

          โรงเรียนควรส่งเสริมให้นักเรียนใช้วัสดุต่างๆให้คุ้มค่า เช่น กระดาษถ่ายเอกสาร แทนที่จะใช้เพียงหน้าเดียว เราควรที่จะใช้ทั้งสองหน้าเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด หรือรณรงค์ให้นักเรียนพกขวดน้ำสำหรับเติมน้ำดื่มแทนการซื้อขวดน้ำใหม่ เป็นต้น นอกจากนี้คุณครูอาจเชิญชวนนักเรียนนำเศษวัสดุบางประเภท เช่น ขวดน้ำพลาสติก กระป๋องน้ำอัดลม หรือไม้ไอศกรีม นำมาสร้างสรรค์เป็นงานประดิษฐ์ไว้ใช้สอยหรือนำไปจำหน่ายเป็นผลิตภัณฑ์ของโรงเรียนซึ่งช่วยสร้างรายได้อีกทางหนึ่ง

          3. แยกขยะให้ถูกวิธี

          การที่ประเทศไทยไม่ได้รณรงค์ให้เกิดการคัดขยะอย่างจริงจัง ทำให้ประเทศไทยมีปริมาณขยะที่สามารถรีไซเคิลได้เพียงเล็กน้อยจะปริมาณขยะทั้งหมด ซึ่งสาเหตุอย่างหนึ่งคือขยะส่วนใหญ่ปะปนกันจนไม่สามารถคัดแยกเพื่อนำไปรีไซเคิลได้ สิ่งนี้ทำให้ประเทศไทยมีต้นทุนในการกำจัดขยะจำนวนมากและยังขาดทุนจากขยะรีไซเคิลที่ไม่สามารถคัดแยกได้อีกด้วย ดังนั้นเพื่อสร้างจิตสำนึกที่ดี โรงเรียนควรเป็นสถาบันพื้นฐานต่อจากครอบครัวในการส่งเสริมให้นักเรียนรู้จักแยกขยะให้เหมาะสม โดนเริ่มต้นจากการสอนหรือจัดกิจกรรมการแยกขยะเพื่อให้นักเรียนมีทักษะพื้นฐานในการแยกแยะประเภทของขยะต่างๆได้อย่างถูกต้อง จากนั้นจึงจัดเตรียมถังขยะสำหรับการคัดแยกให้เพียงพอต่อปริมาณขยะที่เกิดขึ้นในโรงเรียน อีกทั้งควรวางถังขยะให้สอดคล้องกับพื้นที่ในโรงเรียน ซึ่งจะช่วยให้นักเรียนมีแนวโน้มที่จะปฏิบัติตามมากขึ้น

          4.จัดตั้งธนาคารขยะ

          สำหรับบางคน ขยะนั้นเป็นเหมือนขุมทอง เพราะสามารถนำมาคัดแยกและขายเพื่อนำไปรีไซเคิล ซึ่งสามารถสร้างรายได้ในระดับที่น่าสนใจไม่น้อย ดังนั้นแทนที่โรงเรียนจะปล่อยให้ขยะถูกทิ้งไปอย่างไร้ค่า การจัดตั้งธนาคารขยะในโรงเรียนน่าจะเป็นแนวทางที่น่าสนใจมากกว่า โดยเปิดโอกาสให้นักเรียนนำขยะมาฝากกับธนาคาร ลงบันทึกปริมาณขยะที่นำมาฝากในสมุดบัญชี จากนั้นเมื่อธนาคารนำขยะไปขาย นักเรียนก็จะสามารถเบิกเงินตามปริมาณขยะที่นักเรียนฝาก วิธีนี้ นอกจากโรงเรียนจะระบายขยะได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังช่วยสร้างรายได้ให้นักเรียนและโรงเรียน อีกทั้งยังส่งเสริมให้นักเรียนเห็นคุณค่าของขยะและการออมเงินอีกด้วย

          5.ใช้ประโยชน์จากขยะอินทรีย์

          ขยะอินทรีย์จำพวกเศษอาหาร สำหรับโรงเรียนโดยเฉพาะโรงเรียนขนาดใหญ่ เป็นขยะที่มีประมาณค่อนข้างมาก เพราะนักเรียนและบุคลากรมีการรับประทานอาหารทุกวัน โรงเรียนควรมีถังใส่เศษอาหารเพื่อให้นักเรียนเทเศษอาหาร ก่อนนำภาชนะไปวางในที่ที่จัดไว้ ซึ่งเศษอาหารที่รวบรวมได้นี้ โรงเรียนอาจนำไปผลิตเป็นปุ๋ยชีวภาพ สำหรับใช้เลี้ยงพืชพรรณทางการเกษตรในโรงเรียน หรือนำไปผลิตเป็นแก๊สชีวภาพซึ่งสามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่างๆได้มากมาย ทั้ง ใช้หุงต้มในครัว หรือ ใช้เป็นพลังงานทดแทนในโรงเรียน ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายต่างๆของทางโรงเรียนได้อีกทางหนึ่ง

          6. ดูแลความสะอาด

          การคัดแยกและกำจัดขยะนั้น แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ดี แต่เหนือสิ่งอื่นใด การดูแลเรื่องของความสะอาดถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะโรงเรียนจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับสุขภาพพลานามัยที่เหมาะสมของนักเรียนด้วย ดังนั้นจึงควรมีการจัดเก็บขยะที่มิดชิด ปลอดภัย ไม่เกิดกลิ่นเหม็น และไม่เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์นำพาหะหรือเชื้อโรค นอกจากนี้การส่งเสริมให้นักเรียนมีเวรประจำวันในการช่วยกันเก็บขยะที่อยู่ในบริเวณโรงเรียน ก็นับเป็นแนวทางที่ดีที่ช่วยให้โรงเรียนมีความสะอาดอยู่เสมอ และยังเป็นการสร้างจิตสำนึกที่ดีสำหรับนักเรียนในการทิ้งขยะให้ถูกที่อีกด้วย

 

ภาพ : shutterstock.com

 

          ถึงเวลาแล้วที่เราจำเป็นต้องสร้างวัฒนธรรมการคัดแยกและจัดการกับขยะอย่างเหมาะสมให้เกิดขึ้นกับทั้งตัวเราเอง และรวมถึงนักเรียนในความดูแลของเราด้วย เพราะปัจจุบันนี้ ปัญหาเกี่ยวกับมลพิษทางขยะนับวันจะทวีความรุนแรงมากขึ้น ด้วยเพราะปริมาณขยะมีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกๆประเทศ ถ้าเรามัวชินชาและไม่เห็นความสำคัญของปัญหา ประเทศไทยจะเต็มไปด้วยขยะปริมาณมหาศาลซึ่งอาจจะส่งผลกระทบกับวิถีชีวิตของเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น คงต้องเลือกเอาแล้วว่า จะหาประโยชน์จากขยะและลดปริมาณการก่อให้เกิดขยะลงเพื่อให้พวกเรายังสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างปกติสุข หรือจะชินชาปล่อยให้ขยะมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นจนล้มทับพวกเราเองในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

 

 

 

เอกสารอ้างอิง

https://medium.com/@saimakepuengudom/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%82%E0%B8%A2%E0%B8%B0-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99-%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%A3-895d08f8e6ef

https://today.line.me/th/pc/article/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%82%E0%B8%A2%E0%B8%B0%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%96%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5+%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%82%E0%B8%A2%E0%B8%B0%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A0%E0%B8%97%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%86+%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%82%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%99-y5MEPo

 

 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Plook Teacher
  • 127 Followers
  • Follow