ทำความรู้จักกับ 5 อาหาร...แหล่งรวม “คอลลาเจน” ชั้นดี !!

“คอลลาเจน” คือ โปรตีนชนิดหนึ่งที่พบมากในผิวหนัง กระดูกอ่อน และเนื้อเยื่อต่าง ๆ ตามร่างกาย ซึ่งหลาย ๆ คนคงทราบถึงคุณสมบัติพิเศษของ “คอลลาเจน” ที่ช่วยในเรื่องของการบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง เต่งตึง ชุ่มชื้น และไม่เหี่ยวย่น ทำให้สาว ๆ หลายคนหันมาบริโภคคอลลาเจนกันมากขึ้น 

ในเซลล์ผิวหนังของเรานั้นมีคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบมากถึง 80% และเมื่ออายุยิ่งมาก คอลลาเจนจะถูกผลิตได้น้อยลงเรื่อย ๆ ฉะนั้นการเติมคอลลาเจนให้แก่ร่างกายจึงเป็นสิ่งสำคัญ วันนี้เราจึงมี 5 อาหารที่ถือเป็นแหล่งคอลลาเจนชั้นดีจากธรรมชาติมาฝากกันค่ะ จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ…

1. ถั่วเหลือง 

ถั่วเหลือง มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ชื่อว่า ไอโซฟลาโวน ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน ช่วยเสริมสร้างผิวให้กระชับ แข็งแรง และยังมีส่วนช่วยยับยั้งเอนไซม์ที่ทำให้ผิวหย่อนคล้อยได้อีกด้วย

2. ผักใบเขียว

ผักใบเขียว หลายคนอาจไม่รู้ว่าสามารถรับประทานคอลลาเจนได้จากผักใบเขียว ซึ่งแท้จริงแล้วผักใบเขียวมีส่วนช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนได้ดี นอกจากนี้ ในผักใบเขียวยังมีสารต้านอนุมูลอิสระลูตินที่มีส่วนช่วยบำรุงผิวให้เรียบเนียนและชะลอการเกิดริ้วรอย

3. เนื้อสัตว์

เนื้อสัตว์ทุกชนิด จะอุดมไปด้วยคอลลาเจน (ซึ่งคอลลาเจนในเนื้อสัตว์จะมีปริมาณมากกว่าในพืช) โดยเฉพาะเนื้อปลา ถือเป็นแหล่งคอลลาเจนและโปรตีนชั้นดี คอลลาเจนจากเนื้อสัตว์จะมีส่วนช่วยเติมความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นให้แก่ผิว ทำให้ผิวพรรณเต่งตึงและเนียนนุ่มนั่นเอง

4. ถั่ว

ถั่ว ถือเป็นอีกหนึ่งแหล่งคอลลาเจนชั้นดี การรับประทานถั่วชนิดต่าง ๆ จะทำให้ร่างกายได้รับกรดไฮยาลูโรนิก ซึ่งถือเป็นตัวช่วยสำคัญที่ช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยแห่งวัย และยังมีส่วนช่วยเร่งการผลิตคอลลาเจนให้แก่ร่างกายได้อีกด้วย

5. ไข่ขาว

ไข่ขาว เป็นแหล่งกรดอะมิโนโปรลีน ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของเส้นใยคอลลาเจน ทำให้คอลลาเจนมีความแข็งแรงมากขึ้น ถูกทำลายได้ยากขึ้น และยังช่วยให้คอลลาเจนทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น

เห็นไหมคะว่า “คอลลาเจน” จากอาหารทั้ง 5 ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ ล้วนแต่เป็นอาหารที่เรารู้จักกันดีอยู่แล้ว เป็นวัตถุดิบจากธรรมชาติ หาซื้อรับประทานได้ง่าย ไม่จำเป็นต้องซื้ออาหารเสริมราคาแพง ๆ เลย เพราะอาหารเสริมตามท้องตลาดทั่วไปก็อาจไม่ได้คุณภาพและไม่มีความปลอดภัย หากว่าร่างกายของคุณมีปัญหาเรื่องของการขาดคอลลาเจนจริง ๆ เราก็ขอแนะนำให้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์หรือขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านการเสริมคอลลาเจนจะดีกว่านะคะ