สาว ๆ รู้จัก “เซลลูไลท์” กันไหมจ๊ะ ? ถ้าบอกว่าไม่รู้จัก ลองสังเกตตามต้นขา ต้นแขน สะโพก และหน้าท้องของเราดูว่ายังคงเรียบเนียนดีอยู่หรือผิวมีรอยบุ๋ม รอยขรุขระเป็นผิวส้ม หรือรอยแตกลายหรือไม่ ถ้ามีล่ะก็ ขอแนะนำให้รู้จักกับ “เซลลูไลท์” ค่ะ
เซลลูไลท์ก็คือ ไขมันส่วนเกินที่อยู่ใต้ผิวหนัง แผ่ขยายกินพื้นที่กดทับกล้ามเนื้อทำให้ผิวมีลักษณะเป็นรอยบุ๋ม มีรอยขรุขระเหมือนเปลือกส้ม ส่วนมากมักเกิดในวัยรุ่นหรือวัยผู้ใหญ่เพศหญิง ไม่ว่าผอม หรืออ้วนก็มีเซลลูไลท์ได้ เซลลูไลท์ไม่ก่อให้เกิดอันตราย แต่ทำร้ายความมั่นใจในรูปร่างของผู้หญิงได้อย่างสาหัส สาเหตุหลัก ๆ ที่ทำผิวเกิดเซลลูไลท์ก็คือ การรับประทานอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูง หรือการอดอาหารอย่างหนักเพื่อให้น้ำหนักตัวลดลงอย่างรวดเร็ว ระบบเผาผลาญในร่างกายทำงานไม่ดี ขาดการออกกำลังกาย มีภาวะขาดน้ำ มีอาการบวมน้ำ รวมไปถึงอัตราส่วนไขมันในร่างกายผิดเพี้ยนไป
เซลลูไลท์สามารถกำจัดได้ด้วยวิธีการออกกำลังกายเพื่อสร้างกล้ามเนื้อใต้ผิว ให้ผิวกระชับ ลดปริมาณไขมันในร่างกาย ควบคู่ไปกับการเลือกรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง และกระตุ้นระบบเผาผลาญ เป็นวิธีที่ง่าย ปลอดภัย และกำจัดเซลลูไลท์ได้อย่างถาวร มาดูกันว่า 10 อาหารต้าน “เซลล์ลูไลท์” มีอะไรบ้าง อยากผิวกระชับ รูปร่างดีไม่มีเซลลูไลท์ต้องจัด !
แซลม่อนมีคุณค่าทางสารอาหารมากมาย และยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นตัวการสำคัญของการสร้างเซลลูไลท์ในเซลล์ผิว นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วย กรดไขมันโอเมก้า 3 ที่ช่วยลดความอยากอาหาร ลดอาการอักเสบและฟื้นคืนความแข็งแรงให้เนื้อเยื่ออ่อนที่ให้ความยืดหยุ่นแก่ผิว ทั้งยังช่วยขับสารพิษในหลอดเลือด และกระตุ้นการไหลเวียน ทำให้ผิวแข็งแรงและกระจ่างใสขึ้น
เป็นแหล่งของวิตามินอี โพแทสเซียม ซิงค์ และวิตามินบี 6 ที่ช่วยเผาผลาญโปรตีนเพื่อเพิ่มความแข็งแรง และเข้าซ่อมแซมเนื้อเยื่อระหว่างชั้นผิว และยังมีฤทธิ์ในการขับปัสสาวะ ช่วยลดอาการบวมน้ำซึ่งทำให้เห็นเซลลูไลท์ชัดขึ้นได้
พริกอุดมไปด้วยวิตามินบี 6 ที่ช่วยซ่อมแซมและปกป้องเนื้อเยื่ออ่อนไม่ให้ถูกทำลาย ป้องกันการเกิดรอยบุ๋มในชั้นผิว และยังมีการวิจัยพบว่า สารแคปไซซิน ในพริกช่วยกระตุ้นการเผาผลาญให้เพิ่มขึ้นได้ถึง 25% นาน 3 ชั่วโมงหลังรับประทานเข้าไปแล้ว ส่งผลให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรี่ได้มากขึ้น จึงช่วยลดไขมัน ช่วยให้เลือดไหลเวียนดี กำจัดสารพิษและช่วยลดการก่อตัวของเซลลูไลท์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ลูกเบอร์รี่สีเข้มทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นบลูเบอร์รี่ หรือแบล็กเบอร์รี่ ช่วยในการสร้างคอลลาเจน ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ที่ทำให้ผิวกระจ่างใสและเรียบเนียน แต่ประโยชน์ของเบอร์รี่สีเข้มยังไม่หมดเท่านี้ เพราะยังเปี่ยมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ตรงเข้าสลายไขมัน ก่อนจะเข้าไปจับตัวกับเซลล์เนื้อเยื้ออ่อน จนกลายเป็นก้อนใต้ชั้นผิวทำให้ผิวดูไม่เรียบเนียน
ตัวช่วยชูรสในน้ำสลัด น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลไซเดอร์ อุดมไปด้วยโพแทสเซียม แม็กนีเซียม และแคลเซียม ช่วยกำจัดสารพิษและขับน้ำที่คั่งในเซลล์บริเวณต้นขาและหน้าท้อง ช่วยลดอาการบวม ท้องอืด และลดการก่อตัวของเซลลูไลท์ ช่วยกำจัดฮอร์โมนความเครียด ดีท็อกซ์ตับ ช่วยรักษาสมดุลการผลิตฮอร์โมนเอสโตเจนในร่างกาย ซึ่งหากฮอร์โมนเอสโตเจนไม่สมดุล จะส่งผลต่อการทำให้เกิดเซลลูไลท์ได้ และน้ำส้มสายชูหมักแอปเปิ้ลไซเดอร์ยังมีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักได้อีกด้วย
สาร Epigallocatechin gallate หรือ EGCG คือสารต้านอนุมูลอิสระที่พบมาในชาสมุนไพรทั้ง ชาเขียว ชาแดนดิไลออน และน้ำขิง ช่วยเร่งระบบเผาผลาญ และเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย นอกจากนี้ในชาสมุนไพรยังมีปริมาณคาเฟอีนต่ำ และเมื่อจับคู่การทำงานกับ EGCG แล้วจะช่วยเสริมประสิทธิภาพในการกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย และช่วยให้เซลล์ไขมันไม่พองตัวขึ้นจนทำให้เกิดรอยย่น หรือรอยบุ๋มในชั้นผิว
น้ำมันมะกอกเป็นไขมันที่ดีต่อร่างกายและยังอุดมไปด้วยสาร โพลีฟีนอล ซึ่งช่วยให้ต่อมไทรอยด์สุขภาพดี เมื่อต่อมไทรอยด์ทำงานได้เป็นปรกติ จะช่วยบูสระบบการเผาผลาญให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยเบิร์นไขมันได้มากขึ้น กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิว เมื่อไขมันใต้ชั้นผิวมีน้อยก็จะทำให้มีการสร้างเซลล์ผิวใหม่มาเติมร่องลึก ทำให้ผิวเรียบเนียน กระชับ วิธีรับประทานน้ำมันมะกอกให้ได้ประโยชน์สูงสุดคือ ตั้งไฟอ่อน ๆ ให้น้ำมันมะกอกผ่านความร้อนเล็กน้อย จากนั้นพรมลงในผักสดที่มีไฟเบอร์สูงแล้วรับประทาน จะทำให้ได้คุณค่าจากน้ำมันมะกอกไปแบบเต็ม ๆ ที่สำคัญอร่อยด้วย
โกโก้ตามธรรมชาติอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยกำจัดไขมันไม่ให้ก่อตัวเป็นเซลลูไลท์ และช่วยให้ระบบการสร้างเซลล์ผิวใหม่ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และคาเฟอีนในช็อกโกแลตยังช่วยดึงน้ำออกจากเซลล์ไขมัน ทำให้ไขมันไม่พองตัว ลดการเกิดรอยขรุขระในผิวได้ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าอัตราส่วน ดาร์กช็อกโกแลต ที่ดีต่อการกำจัดเซลลูไลท์คือกิน 1 ชิ้นสี่เหลี่ยมหรือ 1 ออนซ์ ของดาร์กช็อกโกแลต 80% ขึ้นไปทุกวันจะช่วยเผาผลาญไขมัน และกำจัดเซลลูไลท์ให้ผิวเรียบเนียนได้
ฮัมมุสเป็นอาหารที่มีค่าดรรชนีน้ำตาลต่ำ แม้ว่าจะยังไม่มีข้อพิสูจน์ว่ฮัมมุสช่วยกำจัด เซลลูไลท์ ได้ แต่ด้วยความที่เป็นอาหารที่มีค่าดรรชนีน้ำตาลต่ำ ทำให้น้ำตาลผ่านเข้ากระแสเลือดได้น้อย ร่างกายจึงไม่ต้องผลิตอินซูลิน หรือที่เรียกว่าฮอร์โมนแห่งความอ้วน ออกมาดักจับน้ำตาลส่วนเกินในเลือดมากเกินไป การกินอาหารที่มีค่าดรรชนีน้ำตาลต่ำจึงช่วยปกป้องไม่ให้ไขมันขยายตัวออก และจับตัวเป็นเซลลูไลท์ได้
หญ้าฝรั่น มีสารต้านการอักเสบที่ช่วยไม่ให้เซลล์ไขมันขยายตัว เพียง 1-2 ออนซ์ในรูปแบบเครื่องเทศหรือของเหลวในกระป๋องก็ช่วยลดความอยากอาหาร และช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดระหว่างเนื้อเยื่อเซลล์ ทำให้กล้ามเนื้อใต้ผิวตึงตัว เซลลูไลท์ก่อตัวได้ยาก เติมหญ้าฝรั่นลงในอาหารไม่ว่าจะเป็นในสลัด หรือทำซอสก็อร่อยดีและมีประโยชน์ด้วย