Home > Knowledge > Blog

8 ที่สุดแห่งความภูมิใจของทีมงานเบื้องหลัง ก่อนจะเป็นเรียลลิตี้ธรรมะดูสนุก “สามเณรปลูกปัญญาธรรม” ที่ทุกคนรอคอย

Posted By Plook Creator | 30 เม.ย. 62

7,849 Views

Favorite

8 ที่สุดแห่งความภูมิใจของทีมงานเบื้องหลัง
ก่อนจะเป็นเรียลลิตี้ธรรมะดูสนุกที่ทุกคนรอคอย

จับเข่าคุยกับคนเบื้องหลังกับ 8 เรื่องราวความภาคภูมิใจในฐานะผู้ปิดทองหลังเณร
ความสำเร็จก้าวสู่ปีที่ 8 ของเรียลลิตี้ธรรมะรายการแรกของไทย “สามเณรปลูกปัญญาธรรม”

หลังจากประสบความสำเร็จเป็นที่ชื่นชอบของผู้ชมมาตลอด 7 ปี สำหรับรายการ “สามเณรปลูกปัญญาธรรม” โดยทรูปลูกปัญญา เรียลลิตี้ธรรมะรายการแรกของเมืองไทย จุดเริ่มต้นจากดำริของคุณศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ และประธานคณะกรรมการบริหาร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น และดำเนินงานภายใต้การควบคุมของ ดร.เนตรชนก วิภาตะศิลปิน ผู้อำนวยการด้านการศึกษาและวิชาการ และผู้อำนวยการผลิตโครงการสามเณร ปลูกปัญญาธรรม บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ที่มุ่งหวังจะพัฒนายุวชนตามหลักพุทธศาสนา จนวันนี้ก้าวสู่ปีที่ 8 อย่างน่าภาคภูมิ ถ่ายทอดสดส่งตรงทุกความเรียลจากปักษ์ใต้เป็นครั้งแรกอีกด้วย โดยใช้โลเคชั่นหลัก ณ สวนโมกขพลาราม (วัดธารน้ำไหล) จ.สุราษฎร์ธานี เริ่มออนแอร์ให้รับชมพร้อมกันตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน ไปจนถึง 19 พฤษภาคมนี้

ก่อนจะไปรับชมความน่ารักสดใสของเด็กๆ กันตลอด 1 เดือนนั้น อะไรที่ทำให้รายการธรรมะกลับมามีกระแสจนผู้ชมต่างรอคอยติดตามดูกันเป็นประจำทุกปี แถมในแต่ละปียังมีเด็ก ๆ ที่สมัครเข้าร่วมโปรเจคต์เกินความคาดหมาย วันนี้เบื้องหลังความสำเร็จนำมาซึ่งที่สุดแห่งความภูมิใจนั้นจะถูกเปิดเผยจาก คุณเกด-กรกช นาวานุเคราะห์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการผลิต คุณต้น-ยุคนธร แก้วทอง โปรดิวเซอร์ และคุณแนน-พวงรัตน์ บำรุงพันธ์ ผู้ช่วยโปรดิวเซอร์ ทีมงานหลักผู้สร้างสรรค์และปลุกปั้นให้เรื่องธรรมะกลายเป็นเรื่องสนุก เข้าถึงผู้ชมทุกเพศทุกวัย และสามารถนำหลักธรรมไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ง่าย ๆ เหมือนเช่นสามเณรน้อย

ภาพ : คุณศุภชัย เจียรวนนท์, ดร.เนตรชนก วิภาตะศิลปิน และทีมงาน

ภูมิใจที่สุด ๑ - สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ โปรดเกล้าฯ พระราชทานผ้าไตร และสมเด็จพระสังฆราชฯ ทรงประทานพระคติธรรม

รายการ “สามเณรปลูกปัญญาธรรม” ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานผ้าไตรสำหรับพระอุปัชฌาย์ในพิธีบรรพชาของ 12 สามเณรน้อย นำมาซึ่งความปิติอย่างหาที่สุดมิได้แก่ทีมงานและสามเณรน้อย

“จริงๆ แล้วทางรายการได้รับพระราชทานมาตั้งแต่ปีที่ 3 แล้วนะคะ ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ของทางรายการและทีมงาน รวมถึงสามเณรทุกรูป ด้วยความตั้งใจของพวกเราที่ทำรายการเพื่อบำเพ็ญกุศลถวายพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ค่ะ แต่ทุกอย่างจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากไม่ได้รับความไว้วางใจจากคุณศุภชัย เจียรวนนท์ ผู้จุดประกายและริเริ่มให้เกิดรายการ รวมถึง ดร.เนตรชนก วิภาตะศิลปิน ที่มอบหมายหน้าที่นี้ให้พวกเราค่ะ” คุณเกด-กรกช นาวานุเคราะห์ ผู้ดูแลภาพรวมการผลิตรายการทั้งหมด เริ่มต้นเล่าด้วยน้ำเสียงสดใส

พร้อมกับคุณแนน-พวงรัตน์ บำรุงพันธ์ ผู้ช่วยโปรดิวเซอร์ที่ทำหน้าที่ดูแลสามเณรน้อย บอกด้วยความปลื้มปริ่ม “นี่คือสิ่งที่พวกเราประทับใจและภาคภูมิใจมาตลอดการทำงาน และในฐานะของคนที่ใกล้ชิดกับเด็ก ๆ ก็เป็นปลื้มแทนสามเณรน้อยและครอบครัวที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณในครั้งนี้”

ขณะเดียวกัน สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงประทานวโรกาสให้ผู้บริหารและทีมงานรายการสามเณรปลูกปัญญาธรรมเข้าเฝ้ากราบถวายสักการะ ณ ตำหนักอรุณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม พร้อมทรงประทานพระคติธรรม นำมาซึ่งสิริมงคลยิ่งแก่ทีมงานทุกคน

“เป็นครั้งแรกของผมที่ได้เข้าเฝ้ากราบสักการะอย่างใกล้ชิด พระองค์ท่านทรงประทานพระคติธรรมมีข้อความตอนหนึ่งว่าเรื่องที่พวกเราทำนั้นมีความสำคัญ ต้องศึกษาเรื่องพระรัตนตรัยให้ทราบชัด เพื่อการนับถืออย่างถูกต้อง ด้วยปัญญารู้รอบและรู้ทั่วถึงความจริง เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นแห่งความเจริญงอกงามในธรรม พอได้ยินแล้วก็ขนลุก ในใจตอนนั้นเต็มด้วยพลังให้ผมกลับมานั่งทบทวนสิ่งที่กำลังทำอยู่ทั้งหมด กลับมารวมสมองจากทีมงานเพื่อให้ผลงานออกมาดีที่สุด ไม่อยากให้มีข้อผิดเพี้ยนหรือผิดพลาด อยากให้รายการมีประโยชน์ที่สุดตามเจตนารมณ์ รู้สึกว่าสิ่งที่เราและทีมงานทุกคนทุ่มเทแรงกายแรงใจทำกันมาตลอด มันมีคุณค่ามากมายจริง ๆ” คุณต้น-ยุคนธร แก้วทอง โปรดิวเซอร์ฝ่ายผลิตรายการ ย้อนภาพที่ไม่อาจลืมในวันนั้น สัมผัสได้ถึงความมุ่งมั่นและศรัทธาแรงกล้า และเชื่อว่าผู้ชมจะได้รับชมคอนเทนต์ทรงคุณค่าอย่างที่เขาและทีมงานทุกคนตั้งใจ

ภูมิใจที่สุด ๒ - ร่วมสร้างพลเมืองไทยที่ดี ให้เป็นพลเมืองโลกที่มีคุณภาพ

ด้วยแนวคิดโครงการที่มุ่งเน้นการพัฒนายุวชนตามหลักพุทธศาสนาให้เป็นกำลังสำคัญของชาติในอนาคต มุ่งหวังให้เป็นมนุษย์ที่มีความสมดุลทั้งด้านร่างกาย มีความรู้คุณธรรม มีจิตสำนึกในความเป็นพลเมืองไทยที่ดี นำไปสู่การเป็นพลเมืองโลก (Global Citizen) ที่มีคุณภาพ ดังโอวาทของท่านพุทธทาสที่ว่า “ศีลธรรมของยุวชน คือสันติภาพโลก” ทำให้มีเด็ก ๆ ที่ได้รับประสบการณ์ตรงจากรายการแล้วมากกว่า 100 คน และนั่นยังส่งต่อไปยังเด็ก ๆ อีกนับล้านคนทั่วโลกที่ได้เรียนรู้ผ่านการรับชมรายการด้วยเช่นกัน

“นี่คือโอกาสเรียนรู้ครั้งสำคัญที่สามเณรจะได้รับการอบรม ฝึกหัด ปฏิบัติ ขัดเกลาจิตใจ เพิ่มพูนปัญญา บ่มเพาะคุณธรรมความดีงามให้เกิดขึ้นในจิตใจ เมื่อพวกเขาลาสิกขาไปแล้วก็จะเป็นกำลังสำคัญในการเผยแพร่สู่ผู้คนในสังคม นี่คือความภูมิใจและสุขใจมาตลอด 7 ปี ที่เราได้มีส่วนร่วมพัฒนาศักยภาพคน ได้เป็นส่วนหนึ่งที่ร่วมปลูกฝังคุณธรรม สร้างเด็กดีของประเทศ และต่อไปพวกเขาก็จะเติบโตเป็นพลเมืองคุณภาพของโลก” คุณเกดตอกย้ำถึงความสำคัญที่ไม่ใช่แค่สามเณรที่ได้ประโยชน์ แต่ผูู้ชมทางบ้านยังได้เรียนรู้ไปพร้อม ๆ กัน และนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้

ภูมิใจที่สุด ๓ - ครั้งแรกที่สัญจรสู่ปักษ์ใต้ ณ สวนโมกข์

“ตลอด 7 ปีของสามเณรปลูกปัญญาธรรม ทีมงานได้สัญจรทั่วทุกภูมิภาคเลยค่ะ แต่ยังเหลือแค่ภาคใต้ ปีนี้จึงเป็นปีที่สัญจรครบทุกภาค ภาพแรกที่ทำให้เรานึกถึงคือ จ.สุราษฎร์ธานี มีคำขวัญประจำจังหวัดที่เอ่ยว่าเป็นแหล่งธรรมะ และที่สำคัญหลักธรรมคำสอนของท่านพุทธทาสภิกขุนั้นไม่ใช่เพียงแค่คนไทยที่รู้จัก แต่ความยิ่งใหญ่ของท่านนั้นได้รับการยอมรับในระดับโลก ถือเป็นบุคคลสำคัญของโลกที่องค์การยูเนสโกยกย่อง” คุณเกดเล่าถึงที่มาก่อนจะเดินทางไปถ่ายทอดเรียลลิตี้ส่งตรงจากแดนใต้เป็นครั้งแรก ณ สวนโมกขพลาราม (วัดธารน้ำไหล) จ.สุราษฎร์ธานี มรดกสืบทอดแห่งสถานศึกษาและปฏิบัติธรรมอันทรงคุณค่ายิ่งจากท่านพุทธทาสภิกขุ ภายใต้การดูแลของพระภาวนาโพธิคุณ (โพธิ์ จนฺทสโร) เจ้าอาวาสรูปปัจจุบันที่เมตตาเอื้อเฟื้อสถานที่ในการถ่ายทำรายการ

“จากคำกล่าวที่ว่า พุทธทาสจักไม่ตาย พวกเรามองว่าท่านพุทธทาสภิกขุได้มอบอะไรไว้มากมายมากกว่าหลักธรรม ด้วยความเป็นธรรมะนวัตกรของตัวท่านเอง ที่กล้าคิด กล้าทำ กล้าสวนกระแสในสิ่งที่พระรูปอื่นไม่ทำกันในสมัยนั้น เรียกได้ว่าเป็นพระที่มีความอินดี้รูปหนึ่งเลยล่ะ ซึ่งจะเห็นได้จากสื่อธรรมะ ภาพถ่าย สิ่งพิมพ์ และงานปั้นปริศนาธรรมต่าง ๆ ที่ถูกจัดวางไว้อย่างแยบคายทั่วสวนโมกข์ ล้วนเป็นที่ประจักษ์ว่าท่านมีเจตนาจะสร้างสรรค์มรดกธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ทิ้งไว้ให้พวกเราได้มีโอกาสมาซึมซับต่อ ยิ่งกาลเวลาผ่านไปก็ยิ่งพิสูจน์ได้ว่าสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้นี่แหละที่มีคุณค่ายิ่ง ซึ่งก็สอดคล้องกับสื่งที่พวกเราตั้งใจทำกันมาตลอด เราอยากเดินตามรอยความเป็นธรรมะนวัตกรของท่าน อยากให้เนื้อหาของธรรมะสามารถนำมาประยุกต์ให้เข้าถึงได้หลากหลาย ส่งต่อให้เหล่าสามเณรเพื่อถ่ายทอดออกไปให้ทุกคนได้เห็น ได้มีโอกาสร่วมเรียนรู้ไปพร้อมกันผ่านรายการ” คุณต้นพูดเสริม หลังจากที่ได้ไปสำรวจพื้นที่และค้นพบปริศนาธรรมมากมายที่ท่านพุทธทาสภิกขุได้มอบไว้แก่คนรุ่นหลัง ขณะเดียวกันยังเป็นความท้าทายของทีมงานที่ต้องรักษาวิถีและอัตลักษณ์แบบดั้งเดิมของสวนโมกข์ไว้ให้มากที่สุด ท่ามกลางองค์ประกอบของเครื่องมือต่าง ๆ สำหรับการถ่ายทอดสดแบบไร้สคริปต์

ภูมิใจที่สุด ๔ - ครั้งแรกที่ยุวชนทั่วประเทศพร้อมใจสมัครเป็นสามเณรมากที่สุด

ครั้งนี้มีเด็กทั่วประเทศอายุระหว่าง 7-10 ปีสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการมากกว่า 5,200 คน โดยรอบแรกคัดเลือกจากการส่งคลิปวิดีโอและเรียงความเรื่อง "ทำไมถึงอยากบวชกับโครงการสามเณร ปลูกปัญญาธรรมปี 8" จากนั้นคัดเลือกรอบสอง พิจารณาจากความร่วมมือของทางโรงเรียน และให้การสนับสนุนจากทางครอบครัว แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ ความตั้งใจจริงที่ต้องการบวชของเด็ก ๆ จนได้ตัวแทน 32 คนเข้าร่วมอบรม "ค่ายปลูกปัญญาธรรม" และเฟ้นหาจนได้ 12 สุดคนท้าย

“ก่อนจะได้มาซึ่งสามเณรน้อย 12 รูปนั้น ข้อสำคัญที่สุดที่คือเด็ก ๆ ต้องอยากบวชด้วยตัวเอง ไม่ใช่การบังคับขอร้องจากพ่อแม่ และถ้าถามว่าทำไมปีนี้ต้อง 12 คน จริง ๆ แล้วเราลองผิดลองถูกมาหลายปีนะคะ แต่หลักการคัดเลือกนั้น เราใช้หลักธรรมมะที่เรียกว่า ‘จริต 6’ มาเป็นแนวทาง เพราะคนเราจะมีคาแรคเตอร์หลัก ๆ อยู่ 6 แบบ ถ้าเราจะคัดเหลือแค่ 6 ก็ดูน้อยไป เลยมาลงตัวที่ 12 คน กำลังดีค่ะ ทำให้ผู้คนจะได้จดจำน้อง ๆ ได้ง่ายขึ้นอีกด้วย” คุณแนน ผู้ช่วยโปรดิวเซอร์ ที่เป็นหัวเรือหลักในการคัดเลือกและดูแลเด็ก ๆ ในทุกขั้นตอน เล่าด้วยสีหน้าแห่งความสุข

และหนึ่งในโม้เมนต์ที่ทำให้เธอประทับใจมากที่สุดไม่ใช่ตอนได้น้อง ๆ รอบสุดท้ายมา แต่กลับเป็นช่วงเข้าค่ายอบรม เมื่อทีมงานให้เด็ก ๆ ได้ทดลองติดตามพระพี่เลี้ยงไปออกบิณฑบาต แล้วมีเหล่าชาวบ้านมากมายรายรอบพื้นที่ออกมารอพบกับเหล่าว่าที่สามเณรน้อย ภาพที่สัมผัสได้ถึงพลังแห่งศรัทธาในวันนั้น ส่งเป็นพลังใจให้เธอและทีมงานอิ่มเอมหัวใจมาถึงวันนี้ พร้อมที่จะถ่ายทอดความน่ารักของสามเณรทั้ง 12 รูปให้ทุกคนได้ชมกัน

ภูมิใจที่สุด ๕ - รวมพระอาจารย์ชั้นผู้ใหญ่ของประเทศ

“เด็ก ๆ อาจจะยังไม่รู้ว่าพวกเขาจะได้เรียนรู้กับใคร และแต่ละท่านนั้นมีคุณวุฒิแค่ไหน แต่ผู้ชมจะรับรู้ว่านี่คือที่สุดของการรวมตัวของคณะพระอาจารย์ไว้มากที่สุดในรายการธรรมะตลอด 1 เดือนเต็ม และเด็ก ๆ เหล่านี้โชคดีมากครับที่จะได้รับคำสอนอย่างใกล้ชิด ได้ฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของแต่ละท่าน” คุณต้นบอกอย่างภูมิใจแทนเหล่าสามเณรทั้ง 12 รูป ที่มีโอกาสครั้งสำคัญในชีวิตจะได้รับประสบการณ์ความรู้จากคณะพระอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงระดับประเทศ อาทิ หลวงพ่อปัญญานันทมุนี เจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษดิ์, พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี ประธานสถาบันวิมุตตยาลัย รวมถึงพระอาจารย์กลุ่มเพื่อชีวิตดีงาม พระอาจารย์กลุ่มธรรมะอารมณ์ดี เป็นต้น

ภูมิใจที่สุด ๖ - คนดังทั่วไทยร่วมแชร์ประสบการณ์

ตลอด 1 เดือน น้อง ๆ มีโอกาสได้เรียนรู้กับคนวิทยากรผู้มีชื่อเสียงระดับประเทศจากหลากหลายสาขา โอกาสพิเศษที่ยากจะหาได้จากที่ไหน และทุกคนต่างอาสามาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ความรู้ให้กับสามเณร รวมไปถึงเหล่าเซเลบริตี้ชื่อดังของไทยต่างตอบรับเข้าร่วมศึกษาธรรมะไปกับเหล่าสามเณรตัวน้อยอีกด้วย ส่วนจะมีใครบ้างนั้น บอกเลยว่าห้ามพลาด!

“รายการเราจะต่างจากเรียลลิตี้อื่น ๆ ตรงที่ไม่มีพิธีกรหลัก เพราะเราอยากให้ผู้ชมโฟกัสกับเหล่าสามเณรมากกว่า แต่เราเชิญคนดังมาเรียนรู้ธรรมะไปพร้อมๆ กัน เพื่อจะให้พวกเขาเป็นตัวแทนของคนธรรมดาที่สามารถเรียนรู้หลักธรรม ทำได้ง่าย และนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง นั่นคือสิ่งที่เราคาดหวังให้ชมได้รับกลับไป” คุณเกดเผยคำตอบที่หลายคนสงสัยมาตลอดหลายปี

ภูมิใจที่สุด ๗ - น้อมนำหลักธรรมคำสอน ไขปริศนาธรรมพุทธทาสภิกขุ

“เด็กเป็นผู้สร้างโลกในปัจจุบันและอนาคต ถ้าเราสร้างเด็กให้มีศีลธรรมวันนี้ วันหน้าเราจะมีผู้ใหญ่ที่มีศีลธรรมด้วย” คือหนึ่งในคำสั่งสอนจากท่านพุทธทาสภิกขุที่ได้ฝากไว้ให้คนรุ่นหลัง เป็นพลังใจให้ทีมงานทุกฝ่ายได้มุ่งมั่นนำเสนอเรื่องราวดี ๆ ต่อยอดสู่แนวคิด “ยิ่งรู้ธรรม ยิ่งทำให้ชีวิตดี” นำเสนอเนื้อหารายการให้ทุกคนสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิต

“ที่สวนโมกข์มีปริศนาธรรมซ่อนไว้ให้เราได้ศึกษาไว้มากมายเลยค่ะ ด้วยคำสอนที่เป็น universal แล้ว ท่านพุทธทาสภิกขุและลูกศิษย์ได้รวบรวมและทำสื่อธรรมะไว้เยอะมาก แทบจะไม่อยากเชื่อว่านี่คือฝีมือของพระ จนพวกเราอดนึกเปรียบเทียบไม่ได้ว่าสวนโมกข์เหมือนสตูดิโอธรรมะ รวมถึงเรายังบาลานซ์เนื้อหาให้ทุกคนเข้าใจได้ง่าย ๆ และนำไปใช้ได้ไม่ยาก ด้วยหลักธรรมมรรค 8 ที่ใช้เป็นจุดยืนของรายการ เชื่อว่าทุกคนจะนำไปใช้ได้จริงแน่นอนค่ะ” คุณเกดบอกถึงเนื้อหาที่สามเณรจะได้เรียนรู้อย่างสนุกท่ามกลางสตูดิโอธรรมะที่แสนร่มรื่น อบอวลด้วยผลงานศิลปธรรมรายรอบ และเชื่อว่าผู้ชมก็จะดูสนุก ดูเพลิน ไปด้วยพร้อมกัน

“สำหรับผม ผมชอบคำกล่าวสุดท้ายของท่านพุทธทาสภิกขุ ก่อนที่ท่านจะละสังขารจากโลกนี้ไป ท่านทิ้งไว้ว่า ศีลธรรมของยุวชน คือสันติภาพของโลก เป็นคติธรรมที่ผมน้อมนำมาใช้ตอบตัวเองทุกวันว่า เราทำรายการนี้เพื่ออะไร ลึก ๆ แล้วเราก็แอบหวังว่าเนื้อหารายการของเราจะมีส่วนช่วยเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ได้บ้างไม่มากก็น้อย” คุณต้นกล่าวเพิ่มเติม

ภาพ : โรงมหรสพทางวิญญาณ ภายในสวนโมกขพลาราม

ภูมิใจที่สุด ๘ - ที่สุดแห่งโปรดักชั่นกว่าที่เคยมีมา

ตลอด 7 ซีซั่นที่ผ่านมา การเตรียมงานถ่ายทำนั้นจะแตกต่างออกไปตามบริบทของแต่ละพื้นที่ แต่ครั้งนี้กลับท้าทายทีมงานมากกว่าปีที่่ผ่านมา ด้วยการเตรียมงานกว่า 8 เดือน ตั้งแต่สำรวจพื้นที่ คิดคอนเซ็ปต์ วางแผนการสอนและกิจกรรม การคัดเลือกสามเณร เป็นต้น ต่างผนึกกำลังจากทุกหน่วยงานของกลุ่มทรูและในเครือ เพื่อประสิทธิภาพในการถ่ายทอดสัญญาณที่ดีที่สุดสำหรับแฟนรายการ

“โปรดักชั่นปีนี้ถือว่ายากที่สุดกว่า 7 ซีซั่นที่ผ่านมาเลยครับ ด้วยข้อจำกัดของสถานที่และเราไม่อยากเพิ่มเติมอะไรให้เกินขอบเขตอัตลักษณ์ของสวนโมกข์ อีกอย่างคือคำสอนของท่านพุทธทาสภิกขุที่ว่า อยู่อย่างต่ำ กระทำอย่างสูง เป็นหลักยึดในการทำงานให้พวกเราไม่ล้ำเส้น แม้ว่าจะต้องติดตั้งกล้องกว่า 100 ตัว รอบบริเวณวัดกว่า 2 ตารางกิโลเมตรก็ตาม เลยอยากให้ติดตามทุกช่วงเลยครับ” คุณต้นเผยถึงเบื้องหลังของทีมงานทุกฝ่ายต่างทุ่มเทเต็มที่ พร้อมกับคุณเกดรีบเสริมว่า

“นอกจากนี้เรายังมีทีมงานเบื้องหลังอีกว่าร้อยชีวิต ที่ต้องสแตนบายประจำอยู่ในสวนโมกข์ ทุกคนเต็มใจที่จะเสียสละเวลาจากบ้านเพื่อมาทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่นี้ตลอด 1 เดือนเต็ม จึงอยากเป็นตัวแทนขอบคุณและภูมิใจแทนทุกคนที่ได้แสดงศรัทธา ร่วมทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่นี้ด้วยกัน”

ภาพ : ทีมงานหลักผู้สร้างสรรค์ โครงการสามเณร ปลูกปัญญาธรรม

ผลของการทุ่มเทจากทุกฝ่าย เกิดเป็นความสำเร็จของรายการได้รับคำชื่นชมจากผู้ชมและคว้ารางวัลจากหลายสถาบันมาแล้วมากมาย การันตีถึงคุณภาพที่ได้รับการยอมรับเป็นอย่างดี และทำให้ทีมงานไม่หยุดที่จะพัฒนา

“ความพิเศษของปีนี้ ผู้ชมทั่วโลกสามารถรับชมไปพร้อม ๆ กับเมืองไทยได้เลยค่ะ เพราะเราทำเป็นระบบ 2 ภาษา ทั้งไทยและอังกฤษ รวมถึงในแต่ละสัปดาห์ เราจะมีภารกิจให้สามเณรได้ฝึกทำ และแต่ละรูปจะต้องทำสื่อธรรมะที่สามารถนำไปใช้ได้ในวันสุดท้ายที่ขึ้นเทศนาธรรม หลังจากนั้นเราจะนำผลงานของสามเณรทุกรูปไปตีพิมพ์เพื่อแจกผู้มาร่วมในงานวันลาสิกขาและเผยแพร่ออนไลน์ต่อไปค่ะ”

“อยากบอกว่าไม่อยากให้ทุกคนพลาดช่วง ‘สอบอารมณ์' เวลา 2 ทุ่ม แนนชอบเป็นการส่วนตัว เพราะเราจะไม่รู้เลยว่ารีแอคชั่นที่สามเณรน้อยจะแสดงออกมานั้นจะเป็นยังไง มาลุ้นไปด้วยกันนะคะ แต่ถ้าพลาดช่วงไหนไปก็สามารถดูไฮไลท์สรุปกิจวัตรประจำวันได้ตอน 3 ทุ่มของทุกวันค่ะ” คุณแนนฝากทิ้งท้าย

เชื่อเหลือเกินว่าด้วยความตั้งใจจริงและความทุ่มเทของทีมงานจะไม่ได้สูญเปล่า พร้อมจะสร้างคุณค่าให้ทุกคนได้สัมผัสในรสพระธรรม จึงไม่อยากให้พลาดชมแบบสด ๆ แม้แต่ตอนเดียว มาร่วมรับชมความน่ารักสดใสของสามเณรน้อยทั้ง 12 รูป พร้อมเรียนรู้หลักธรรมและนำไปปรับใช้ในชีวิตได้พร้อมกัน กับรายการ "สามเณรปลูกปัญญาธรรม ปี 8" ระหว่างวันที่ 19 เม.ย.-19 พ.ค. นี้ ทางช่องเรียลลิตี้ ทรูวิชั่นส์ ช่อง 60, 99 และช่องเรียลลิตี้ เอชดี ทรูวิชั่นส์ ช่อง 119 หรือ 333, PSI 248 DTV 315 หรือทางออนไลน์ ผ่านแอปฯ TrueID หรือ www.trueplookpanya.com/truelittlemonk

แหล่งข้อมูล
เรื่อง : อาฬาวีย์ ปานพืช
ภาพ : ผาติ สงครามชัย

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป

8 ที่สุดแห่งความภูมิใจของทีมงานเบื้องหลัง ก่อนจะเป็นเรียลลิตี้ธรรมะดูสนุกที่ทุกคนรอคอย