ส่วนแรกครึ่งเช้า: วัดปรมัยยิกาวาส หอไทยนิทัศน์เครื่องปั้นดินเผาและพิพิธภัณฑ์ ร.5 ล่องเรือรอบเกาะ บ้านลัดดาบาติก วัดแสงสิริธรรม ร้านสมชาย บ้านขนมหวานไทย วัดไผ่ล้อม โรงงานเครื่องปั้นดินเผาป้าตุ่ม
ส่วนหลังครึ่งบ่าย: เตี๋ยวอิงน้ำ ทอดมันหน่อกะลา ช่อม่วงปั้นประดิษฐ์ ปั่นจักรยานรอบเกาะผ่าน ร้านกาแฟบ้านเลขที่ 1 บ้านมอญ 250 ปี บ้านศิลป์สยาม ร้านขนมส้มตำบ้านป้าสุ่น ร้านกาแฟคั่วมือ วัดฉิมพลี วัดป่าเลไลยก์ สวนเกร็ดพุทธ โรงสีสตูดิโอ ร้านขนมถ้วยคันทรี่
จากตอนที่แล้วปั้นโถปั้นแจกันเสร็จก็เที่ยงกว่า ได้เวลาอาหารกลางวัน เราก็เลี้ยวขวาเดินส่องสินค้าน่าสนใจไปพลางจนถึง ร้านเตี๋ยวอิงน้ำ เจ้าดังที่เราจะไปรับประทานอาหารกลางวันในวันนี้
เมนูเด็ดห้ามพลาดเลยคือ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ ชามละ 50 บาท รสชาติกลมกล่อมไม่เผ็ดมากด้วย ท่านที่ทานเผ็ดจัดสามารถใส่พริกป่นเพิ่มเองได้ นอกจากนี้ยังมีอาหารไทย+ฟิวชั่นตะวันตกที่น่าสนใจมากมาย ท่ามกลางบรรยากาศริมน้ำเย็นสบาย
นอกจากนี้หากกระเพาะยังมีที่ว่าง ก็ยังสามารถเลือกรับประทานอาหาร+ขนมขึ้นชื่อของเกาะเกร็ดที่มีจำหน่ายมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งทอดมันหน่อกะลา ซึ่งเป็นทอดมันปลากรายที่ใส่หน่อกะลา (ข่าน้ำ) ผักพื้นบ้านของชาวมอญเกาะเกร็ดที่หารับประทานที่อื่นได้ยากมาก ๆ แล้วได้อีกด้วยค่ะ
เดินต่อลงมาเรื่อย ๆ เจอร้านนี้ ด้วยความนึกสนุกก็เลยมาปั้นขนมช่อม่วงปั้นประดิษฐ์ต่อค่ะ ขนมนี้มีแป้งหุ้มเป็นแป้งนุ่ม ๆ อย่างขนมช่อม่วง แต่ไส้เป็นไส้มะพร้าว รสชาติคล้ายข้าวเหนียวหน้ากุ้งค่ะ ใช้เวลาไม่นานขึ้นกับรูปแบบที่เลือก มีค่าใช้จ่ายเพียง 50 บาท
ก่อนจะปั้นต้องล้างมือและเช็ดให้สะอาดเรียบร้อย จากนั้นเอามือถูขี้ผึ้งแท้ (หอมหวานแบบธรรมชาติมาก ๆ ค่ะ)
จากนั้นก็ลงมือหยิบก้อนแป้งที่ครูเตรียมไว้ให้มาปั้น คลึง เป็นก้อนกลม ๆ ตกแต่งด้วยการแปะแป้งสีที่ชอบแต้มลงไป แผ่ออกเป็นรูปกระทะใส่ไส้ ห่อปิด ปั้นให้กลม แปะใบ แล้วก็เอาแหนบดึงดอกให้เป็นกลีบ ซึ่งต้องใจเย็น ๆ ไม่งั้นจะจิกทะลุไส้แตก หรือกลีบขาดได้ แต่ก็เป็นขั้นตอนที่สนุกที่สุดเลยนะคะ ลุ้นดี ทำเสร็จเดี๋ยวครูจะนำไปนึ่งให้ค่ะ ระหว่างรอก็ไปเที่ยวต่อได้เลย
เดินตะลอนย่อยต่อ กลับมาถึงท่าเรือสามารถเช่าจักรยานไปปั่นถ่ายรูปรอบเกาะกันได้ 4.5 กม. เองค่ะ วนขวาไปได้เลย
แล้วเราก็จะผ่าน ร้านกาแฟบ้านเลขที่ 1 บรรยากาศริมน้ำน่านั่งมากมาย
บ้านมอญ 250 ปี ของคุณพงษ์พันธุ์ ไชยนิล ทายาทช่างศิลปหัตถกรรม งานปั้นดินมอญ
มีจำหน่ายงานปั้นดินมอญเก๋ ๆ มากมาย เช่นในรูปซ้ายเป็นกุหลาบดินเผาที่เมื่อซับน้ำหอมจะมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ กรุ่นกระจายไปทั่วห้อง ส่วนรูปขวาเป็นจี้ดินเผาเขียนลายทองอย่างไทย ๆ ค่ะ
บ้านศิลป์สยาม แหล่งเรียนรู้ จุดถ่ายภาพ และร้านจำหน่ายสินค้าประณีตศิลป์ไทย ๆ ที่งดงามเก๋ไก๋มากมาย
ที่นี่มีกิจกรรม DIY งานหัตถศิลป์ไทย ไม่ว่าจะเป็นงานเขียนลายไทย งานกดลายปูนปั้นประดับ สอนโดยครูฑามก์ สิปปสยาม ศิษย์เก่าวิทยาลัยในวัง (ชาย) ภายในพระบรมหาราชวังด้วยค่ะ สามารถจองรอบกิจกรรมได้ที่ 061-529-5147 หรือ Facebook: Baan SilpSiam
ตรงข้ามจะเป็น ร้านขนมส้มตำบ้านป้าสุ่น มะม่วงลอยแก้วหวานเจี๊ยบถ้วยละ 25 บาท กับชารางแดงหอม ๆ แก้วนี้ฟรีค่ะ
ถ้าคอกาแฟสดสาย DIY ก็ปั่นต่ออีกหน่อยมาที่ ร้านกาแฟคั่วมือ ได้นะคะ หากไม่กินกาแฟก็มีชาเช่นกันค่ะ
เสร็จแล้วปั่นวนขวาต่อไปอีกไม่ไกลจะผ่าน วัดฉิมพลีฯ (วัดฉิมพลีสุทธาวาส) เดิมชื่อวัดป่าฝ้ายสร้างตั้งแต่สมัยอยุธยา ต่อมา ร.2 โปรดให้บูรณะ จึงได้ชื่อนี้จากพระนาม “ฉิม” ของ ร.2 เป็นวัดที่มีซุ้มประตูหน้าต่างประณีตงดงามที่สุดแห่งหนึ่งในจังหวัดนนทบุรี
ถัดมาในบริเวณใกล้เคียงกันจะเป็นที่ตั้งของ วัดป่าเลไลยก์ ซึ่งเป็นวัดร้างตั้งแต่สมัยอยุธยา ซึ่งมีพระพุทธรูปปางปาลิไลยก์อยู่หน้าพระอุโบสถ
ปั่นต่ออีกไม่ไกลจะถึง สวนเกร็ดพุทธ ที่เราจะแวะชมผลไม้ในสวนกันเล็กน้อย ในนี้มีทุเรียนนนท์ชื่อดังด้วย แต่ต้นยังเล็กค่ะ คุณน้าเจ้าของสวนเล่าให้ฟังว่าต้นใหญ่ ๆ ตายไปหมดแล้วเมื่อคราวน้ำท่วมใหญ่ พ.ศ. 2554
ปั่นต่อท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่นไปเรื่อย ๆ ก็มาถึง โรงสีสตูดิโอ คาเฟ่ และโฮมสเตย์น่ารัก ๆ จากโรงสีเก่าอายุนับ 100 ปี เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับใครที่อยากค้างคืนชิวชิวบนเกาะมหัศจรรย์แห่งนี้
วนต่อมาอีกก็ชักจะหิวอีกแล้ว เราก็เลยแวะกันที่ ร้านขนมถ้วยคันทรี่ เติมความหวานเข้าท้องสักหน่อย
จากนั้นก็ไปรับงานปั้นฝีมือเรา ใส่ถุงพลาสติกไว้ไม่ต้องแกะออก ตั้งในที่ร่ม 1 คืน ก็นำไปใช้ใส่ของ (ไม่เปียก) ได้แล้วค่ะ จะทาสีโปสเตอร์แล้วก็เคลือบแลกเกอร์เองทับอีกทีก็จะทนทานขึ้นค่ะ แต่ไม่ควรให้โดนแดดจัดหรือเอาไปใส่น้ำเลี้ยงปลานะคะ เพราะจะค่อย ๆ ละลายได้ เนื่องจากเป็นดินดิบยังไม่เผาค่ะ
ช่อม่วงฝีมือเรานึ่งเสร็จแล้วเป็นแบบนี้ค่ะ ลูกเบ้อเริ่ม หอม นุ่มทั้งสองลูกเลย ชิมแล้วขอบอกว่าอร่อยดีด้วยค่ะ ไม่ได้หวานมาก คนชอบรสกลางๆ น่าจะถูกใจทีเดียว
ก่อนกลับก็แวะช็อปสินค้าต่าง ๆ มากมาย มีนกหวีดน้ำ ของเล่น ต้นไม้ เสื้อผ้า เครื่องประดับ แบบไทยและไทยประยุกต์เก๋ ๆ แล้วก็ผลิตภัณฑ์สมุนไพรของดีของที่นี่ ให้ซื้อหาติดไม้ติดมือกลับไปมากมายเลยล่ะค่ะ
สำหรับใครที่พลาดชมส่วนแรก กดย้อนกลับไปชมได้ที่นี่เลยค่ะ
และสำหรับท่านที่อยากได้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเกาะเกร็ดแบบเจาะลึก ก็สามารถดาวน์โหลดแอพลิเคชั่น KOH KRET – เกาะเกร็ด ได้ด้วยนะคะ