Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

บางรัก-ตลาดน้อย โบสถ์สวยโรแมนติกและสตรีทอาร์ทสุดเท่ 2

Posted By ไกด์เตยหอม | 10 ก.พ. 62
5,813 Views

  Favorite

ไปดื่มด่ำกับความอลังการภายในอาสนวิหารอัสสัมชัญ ดูวิวบนตึก ชมผลงานเก๋ๆ ที่ TCDC และอิ่มอร่อยกับอาหารยุโรป+อาหารไทยฟิวชั่นที่ Vatel กันแล้ว ขอพาไปทัวร์ถ่ายรูปต่อกับโซนสตรีทอาร์ทที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งใน กทม. เลยนะคะ

 

เนื่องจากรูปเยอะสักนิดจึงต้องขอแตกเป็น 2 ส่วนนะคะ

ส่วนแรกอาสนวิหารอัสสัมชัญตึกเก่าของบริษัท อีสต์ เอเชียติกTCDC , มื้อเที่ยงแสนอร่อยที่ Vatel Thailand - International Hospitality School (จัดเต็มอิ่มแน่ค่ะ)

ส่วนหลัง: Street Art ซ.เจริญกรุง 32 และ 30, Warehouse 30, บ้านขุนราชพิมาน (บ้านเลขที่ 1), วัดแม่พระลูกประคำ (กาลหว่าร์), ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาตลาดน้อย

*เนื่องจากเราไปเยือนศาสนสถานด้วย ทุกท่านอย่าลืมแต่งกายและถ่ายรูปกันอย่างสุภาพนะคะ (ไม่มีบริการเช่าผ้านุ่งผ้าคลุม ขอเพียงไม่เปิดไหล่เปิดเข่าเปิดพุงก็ใช้ได้แล้วค่ะ)

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

เริ่มภาคบ่ายกันที่ ซอยเจริญกรุง 32 มี Street Art เก๋ ๆ มากมาย จากงานเทศกาลเมืองศิลปะ “บุกรุก” (BUKRUK Urban Arts Festival) ตั้งแต่ พ.ศ. 2559 ให้ชมและถ่ายรูปกันได้ค่ะ มีทั้งที่เป็นผลงานของศิลปินชาวไทยและชาวต่างประเทศเลยค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม
ภาพ : ไกด์เตยหอม
ภาพ : ไกด์เตยหอม
ภาพ : ไกด์เตยหอม
ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ต่อด้วย Warehouse 30 (เปิด 11.00 - 20.30 น.) อีกหนึ่ง Community Mall สุดเท่จากโกดังเก่าในวันวาน ก่อตั้งโดย คุณดวงฤทธิ์ บุนนาค สถาปนิกและนักออกแบบโครงการ The Jam Factory ย่านคลองสานนั่นเอง

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ภายในโกดัง 1-3 เป็นโซน co-working space และ gallery แสดงงานต่าง ๆ โกดัง 4 เป็นร้านเสื้อผ้า แฟชั่น ส่วนโกดัง 5 มีร้านอาหารและคาเฟ่ ในขณะที่โกดัง 6-8 เป็นตลาดนัดแหล่งช็อปสินค้าโฮมเมดและสินค้าออร์แกนิก

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม
ภาพ : ไกด์เตยหอม
ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ถ้าเดินเข้าไปในสุดของโกดัง 7 จะมีโรงฉายหนังสารคดีจากทีม The Documentary Club ซึ่งเลือกนั่งได้ตามใจชอบ ราคา 100 บาทหมดทุกที่นั่งเลยค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ออกมาก็เดินต่อไปทาง สถานทูตโปรตุเกส ซอยเจริญกรุง 30 จะเห็นภาพสตรีทอาร์ทของศิลปินชาวโปรตุเกส

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ถัดมาอีกเล็กน้อยที่ฝั่งตรงข้าม คือ บ้านขุนราชพิมาน (บ้านเลขที่ 1) ถนนเจริญกรุง เป็นบ้านสไตล์นีโอคลาสสิกของขุนราชพิมาน บุตรชายของพระยาพิทักษ์ภูบาล ทหารรักษาพระองค์ สมัย ร.5 แต่ไม่ใช่บ้านกัปตันบุช (พระวิสูตรสาครดิฐ) นักเดินเรือชาวอังกฤษที่เป็นอธิบดีกรมเจ้าท่าสมัย ร.5 ซึ่งพักอยู่แถวนี้เหมือนกัน เพียงแต่ไม่ทราบแน่ชัดว่าหลังใดเท่านั้นเอง ปัจจุบันบ้านขุนราชพิมานได้รับการปรับปรุงให้เป็นสถานที่สำหรับจัดงานเลี้ยงรับรองในรูปแบบต่าง ๆ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

เดินต่อมาอีกไม่ไกลก็จะถึง วัดแม่พระลูกประคำ (กาลหว่าร์) วัดคาทอลิกที่เก่าแก่ตั้งแต่สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ โดยคริสตังไทยเชื้อสายโปรตุเกสและญวนที่หนีตายมาในคราวกรุงแตก ได้รับพระราชทานที่ดินบริเวณนี้จาก ร.1 เดิมชื่อวัด “กาลหว่าร์” มาจาก “กัลวารีโอ” ชื่อเนินเขาที่พระเยซูเจ้าถูกตรึงกางเขน ต่อมาสมัย ร.3 มีการรื้อโบสถ์หลังแรกที่ทรุดโทรมลง สร้างหลังที่ 2 ขึ้น แล้วตั้งชื่อวัดใหม่ว่า “วัดแม่พระลูกประคำ” ในสมัย ร.5 ก็รื้อโบสถ์หลังที่ 2 ที่ชำรุดลง แล้วสร้างหลังปัจจุบันที่มีความงดงามโดดเด่น เป็นแบบนีโอโกธิค คือ มียอดแหลมสูงต่างจากอาสนวิหารอัสสัมชัญที่เป็นแบบเรอแนซ็องส์ แม้จะสร้างในช่วงเวลาใกล้เคียงกันก็ตาม

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ระหว่างวัน ในขณะที่ไม่มีพิธีมิสซา หากโบสถ์เปิดอยู่ก็สามารถเข้าชมภายใน ซึ่งประดับประดาด้วยกระจกสีงดงาม บอกเล่าเรื่องราวทางศาสนา และมีประติมากรรมปูนปั้นรูปนักบุญต่าง ๆ ได้นะคะ นอกจากนี้ที่วัดยังมีวัตถุโบราณล้ำค่า ซึ่งตกทอดมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา 2 ชิ้น ซึ่งถูกเก็บรักษาไว้อย่างดี และจะนำออกมาให้ชมเฉพาะในโอกาสสำคัญ คือ รูปแม่พระลูกประคำ (ใช้แห่ในวันฉลองวัด 1 ต.ค.) และรูปพระศพของพระเยซูเจ้า (ใช้แห่ในวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์) เท่านั้นด้วยค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

เนื่องในโอกาสที่โบสถ์หลังปัจจุบันมีอายุครบ 120 ปี เมื่อ พ.ศ. 2560 และมีสภาพทรุดโทรมลงตามกาลเวลา ประกอบกับทางวัดได้รับความอนุเคราะห์ทางด้านวิชาการและบุคลากรจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในการศึกษาแนวทางการอนุรักษ์และปรับปรุงโบสถ์หลังนี้ ภายใต้กรอบแนวคิดการอนุรักษ์แบบสากล UNESCO Asia-Pacific Awards for Cultural Heritage Conservation เรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการรวบรวมทุนในการบูรณะซ่อมแซม นักท่องเที่ยวก็สามารถร่วมสมทบทุนเล็ก ๆ น้อย ๆ ใส่ซองที่วางอยู่บนโต๊ะตรงหน้าโบสถ์ แล้วเอาไปส่งให้เจ้าหน้าที่ในตึกสำนักงานวัดได้ด้วยค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ถัดมาใกล้ ๆ วัดคือ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาตลาดน้อย หรือ “บุคคลัภย์” ซึ่งต่อมาพัฒนาขึ้นเป็น “บริษัทแบงก์สยามกัมมาจล ทุนจำกัด” ในสมัย ร.5 ธนาคารพาณิชย์แห่งแรกของคนไทย ก่อตั้งโดย พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นมหิศรราชหฤทัย ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงพระคลังมหาสมบัติมาก่อน และกราบบังคมทูลลาออก เพื่อให้ธนาคารสามารถจดทะเบียนเป็นเอกชนได้เช่นเดียวกับเจ้าของธนาคารพาณิชย์ต่างชาติรายอื่น ๆ ในสมัยนั้น

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

อาคาร 3 ชั้น ทอดยาวขนานไปกับแม่น้ำเจ้าพระยา สถาปัตยกรรมแบบตะวันตก ป้ายบอกว่าเป็นแบบ “บาโรก” แต่ก็มีผู้นิยมในงานสถาปัตยกรรมบอกว่าเป็นแบบผสมผสานที่มีกลิ่นอายของสไตล์ “โบซาร์” และ “นีโอคลาสสิก” คือมีความผสมผสานกันของแบบกรีก โรมัน และเรอแนซ็องส์ด้วย ภายในยังมีการให้บริการลูกค้าตามปกติ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ที่ลานริมน้ำด้านหน้า มีต้นไม้ขนาดใหญ่ที่อยู่คู่กับธนาคารแห่งนี้มานาน แผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงา และมีศาลาเล็ก ๆ ใกล้ ๆ ท่าน้ำ สวยงามน่ารักน่ามาถ่ายรูปมาก ๆ เลยค่ะ

ขอแนะนำให้มาในเวลาทำการของธนาคารคือ วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30-15.30 น. เท่านั้นนะคะ ไม่อย่างนั้นจะถ่ายรูปได้เฉพาะด้านหลัง (โซนติดถนน) ค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

สำหรับใครที่พลาดชมส่วนแรก กดย้อนกลับไปชมได้ที่นี่เลยค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

“Amazing ไทยเท่” ที่เที่ยวเก๋ ๆ ใกล้ตัว อย่าลืมมาชื่นชมกันนะคะ

 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • ไกด์เตยหอม
  • 3 Followers
  • Follow