วาเลนไทน์ วันแห่งความรัก เทศกาลสำคัญที่ได้รับอิทธิพลมาจากมิตรประเทศตะวันตก เป็นวันฉลองนักบุญวาเลนไทน์ นักบวชผู้เสี่ยงทำพิธีแต่งงานให้คู่รักแม้จะไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าเมืองยุคโบราณ จนสุดท้ายต้องโทษประหารชีวิตในวันที่ 14 กุมภาพันธ์นั่นเอง ใกล้วันวาเลนไทน์แล้ว เชิญทุกท่านมาชมโบสถ์แสนสวย และสตรีทอาร์ทสุดเท่ย่านบางรัก-ตลาดน้อยกันค่ะ

เนื่องจากรูปเยอะสักนิดจึงต้องขอแตกเป็น 2 ส่วนนะคะ

ส่วนแรก: อาสนวิหารอัสสัมชัญ, ตึกเก่าของบริษัท อีสต์ เอเชียติก, TCDC , มื้อเที่ยงแสนอร่อยที่ Vatel Thailand - International Hospitality School (จัดเต็มอิ่มแน่ค่ะ)

ส่วนหลัง: Street Art ซ.เจริญกรุง 32 และ 30, Warehouse 30, บ้านขุนราชพิมาน (บ้านเลขที่ 1), วัดแม่พระลูกประคำ (กาลหว่าร์), ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาตลาดน้อย

*เนื่องจากเราไปเยือนศาสนสถานด้วย ทุกท่านอย่าลืมแต่งกายและถ่ายรูปกันอย่างสุภาพนะคะ (ไม่มีบริการเช่าผ้านุ่งผ้าคลุม ขอเพียงไม่เปิดไหล่ เปิดเข่า เปิดพุง ก็ใช้ได้แล้วค่ะ)

ที่แรกคือ “อาสนวิหารอัสสัมชัญ” สร้างสมัย ร.2 โบสถ์หลังเดิมเป็นอาคารก่ออิฐถือปูนขนาดไม่ใหญ่นัก เป็นที่ที่พระคุณเจ้าปัลเลอกัว พระสังฆราชจากฝรั่งเศส ผู้ทำพจนานุกรมสี่ภาษา (ไทย-อังกฤษ-ฝรั่งเศส-ละติน) เล่มแรกขึ้น ใช้ชีวิตในช่วงวาระสุดท้าย และได้รับพระเมตตาจาก ร.4 ซึ่งพระราชทานเรือหลวงสองลำ นำขบวนเรือบรรทุกหีบศพ แห่อย่างสง่างามไปฝังยังสุสานวัดคอนเซ็ปชัญ ในสมัย ร. 5 คริสตศาสนิกชนเพิ่มมากขึ้น ทำให้คับแคบ จึงมีการสร้างใหม่เป็นอาสนวิหารหลังปัจจุบัน

หน้ามุขด้านนอก มีรูปแม่พระที่หลวงอุปเทศทวยหาร (โรเช่  ลามาช) ครูฝึกสอนทหารไทยในสมัย ร.4 สั่งมาจากฝรั่งเศส หลังสิ้นสงครามโลกครั้งที่ 2 รูปนี้เก่าและดำด้วยความร้อนจากแรงระเบิดและลมฝนตามฤดูกาล จึงมีการลงรักปิดทองใหม่อย่างที่เห็นในปัจจุบัน 

สถาปนิกผู้ออกแบบและควบคุมการก่อสร้างเป็นชาวฝรั่งเศส ตัวอาคารเป็นสถาปัตยกรรมแบบเรอแนซ็องส์ ซึ่งมีการคำนึงถึงสมดุลเป็นระเบียบแบบแผน ใช้ซุ้มโค้งครึ่งวงกลม หินอ่อน และกระจกสีประดับประดาอย่างงดงามเรียบร้อย

ถ้าไปในช่วงวัดเปิดแต่ไม่มีพิธีกรรมทางศาสนา (เช่นในวันอาทิตย์ หลังมิสซาเลิกและยังไม่ปิดวัด) ก็สามารถเข้าไปชมภาพจิตรกรรมฝาผนังภายใน ซึ่งเป็นภาพแบบเฟรสโก คือ ลงสีขณะที่ปูนยังเปียกอยู่ เช่นเดียวกับภาพในพระที่นั่งอนันตสมาคม และประติมากรรมปูนปั้นต่าง ๆ รวมถึงกระจกสีที่แสดงถึงเรื่องราวความเชื่อทางศาสนาอีกมากมาย และถือเป็นอาสนวิหารโรมันคาทอลิกที่มีความโอ่อ่างดงามที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย (ประตูรั้วเปิด 4.30-21.00 น.)

หน้าต่างด้านบนตรงข้ามกับพระแท่นเป็นหน้าต่างกลมแบบ Rose Window ซึ่งอาจมาจากคำว่า “Roué” ในภาษาฝรั่งเศสเก่าที่แปลว่า “ล้อ” แล้วเพี้ยนเป็น "Rose" ในเวลาต่อมา แม้หน้าต่างแบบนี้จะพบได้ในสถาปัตยกรรมแบบกอธิค แต่ก็เป็นที่นิยมในงานสถาปัตยกรรมแบบเรอแนซ็องส์เช่นกัน

ด้านหลังอาสนวิหารอัสสัมชัญ (บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา) มี "ตึกเก่าของบริษัท อีสต์ เอเชียติก" อายุราว 120 กว่าปีด้วยค่ะ ไปถ่ายรูปหน้าตึกกันได้นะคะ ซอยถัดไปไม่ไกลมี “ศุลกสถาน” อาคารสไตล์ยุโรปแบบนีโอคลาสสิก ที่เคยเป็นโรงภาษี (ต่อมาเป็นกรมศุลกากร) สมัย ร. 5 ก่อนจะย้ายไปคลองเตยและเคยเป็นสถานีดับเพลิงเก่า แต่ที่นั่นอยู่ระหว่างรอการปรับปรุงและมีสภาพทรุดโทรมมาก ใช้เป็นที่จอดรถอยู่ สามารถไปชมภายนอกได้ แต่ปัจจุบันไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพแล้วค่ะ

จากนั้นเราก็ไปเยือน ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ TCDC (Thailand Creative & Design Center) อาคารไปรษณีย์กลางบางรัก (เปิด 10.30 – 21.00 น. วันอังคาร – อาทิตย์) แหล่งไอเดียดี ๆ ที่เกิดจากแนวคิดที่ว่า “ผลงานการออกแบบไม่สามารถดำรงอยู่ได้โดยปราศจากรากฐานทางวัฒนธรรม และการสั่งสมทางปัญญาของสังคม” อยู่ภายใต้การดำเนินงานของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ องค์การมหาชน เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านการออกแบบและความคิดสร้างสรรค์ เพื่อสร้างสรรค์ภูมิปัญญาของประชาชน

ไฮไลต์ของเราอยู่ที่ ชั้น 5 Public Rooftop Garden สวนดาดฟ้าขนาดย่อมสไตล์โมเดิร์น ที่มองออกไปจะเห็นรูปประติมากรรมครุฑตรงมุมตึกผลงานของอาจารย์ศิลป์ พีระศรี ค่ะ

ด้านในมีห้องสมุด คาเฟ่เล็ก ๆ และนิทรรศกาลหมุนเวียนที่น่าสนใจเกี่ยวกับผลงานการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์จากไอเดียเก๋ ๆ ค่ะ

ส่วนชั้นล่างเป็นโซนแกลเลอรี่และร้านขายผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์จากศิลปินทั้งภายในและต่างประเทศค่ะ

สำหรับมื้อเที่ยง ขอแนะนำให้เดินไปด้านหลัง TCDC ทางเดียวกับที่จะไปตึก CAT นั่นล่ะค่ะ แล้วจะเจอกับ Vatel Thailand - International Hospitality School สถาบันด้านการจัดการโรงแรม หลักสูตรนานาชาติ สองปริญญา ความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยศิลปากร กับสถาบัน Vatel ประเทศฝรั่งเศส ที่นี่มีทั้งโซนคาเฟ่ และภัตตาคารอาหารฝรั่งเศสให้เลือกรับประทานในราคาไม่แพง เมื่อเทียบกับคุณภาพระดับสากลเลยทีเดียว (เปิด 11.00 - 14.30 น. จันทร์ - ศุกร์)

ในส่วนนี้เนื่องจากถ่ายรูปได้ เพราะฉะนั้นก็เอาเมนูแบบอัพเดทล่าสุดต้นเดือน ก.พ. 2562 ไปเลยค่ะ รูปแรกนี้เป็นส่วนของภัตตาคารค่ะ ซึ่งจริง ๆ แล้วเมนูในแต่ละวันอาจมีการเปลี่ยนแปลงนะคะ แต่จะตั้งโชว์ไว้หน้าร้านเลยค่ะ

ส่วน 2 ใบด้านล่างนี้เป็นส่วนของคาเฟ่ค่ะ จะมีทั้งอาหารยุโรปและอาหารไทยฟิวชั่นเก๋ ๆ ที่อร่อยมาก ๆ แถมจานเบ้อเริ่มชนิดที่เรียกว่ากินให้พุงแตกกันไปข้างเลยค่ะ

สลัดแซลมอนรมควัน สำหรับสาย Healthy !

สปาเก็ตตีคาโบนาร่าเบคอนจานนี้ก็ถึงชีสถึงครีม หอมอร่อยติดปลายลิ้น ~

ข้าวผัดอเมริกัน ... ที่ไม่ได้มาจากอเมริกา 

สปาเก็ตตีขี้เมาทะเลรสจัดจ้าน

แล้วก็มาถึงจานโปรดของเรา !!! ไก่กอร์ดองเบลอ+เฟรนช์ฟรายกรอบ ๆ แล้วก็ซอสรสเด็ด
(ชอบมากจนลงทุนใส่หัวใจในรูปเลยนะ)

โซนของหวานมีให้เลือกมากมายในตู้ด้านหน้าเลยค่ะ ถ่ายมาให้ดูแค่รูปเดียวเพราะที่เหลือมือสั่นเนื่องจากกำลัง Fighting กับเพื่อน ๆ ว่าจะสั่งอะไรมาตบท้าย เนื่องจากเริ่มล้นกระเพาะกันแล้ว คงจุได้แค่อย่างเดียวแน่ ๆ แต่ก็อยากกิน ๆๆๆ จึงต้องตกลงกันให้ดีก่อนค่ะ 

และจานที่ได้รับผลโหวตมากที่สุด 3/5 เสียงก็คือเลมอนชีสเค้กนุ่ม ๆ กรุบ ๆ จานนี้เลย
(จริง ๆ แล้วต้องมีส้อม 5 คัน จ้วงกันจนเกลี้ยงในที่สุด)

อิ่มอร่อยเต็มคราบกันแล้ว หากยังไม่เหนื่อยจะขอชวนไปเดินย่อยถ่ายรูปกับสตรีทอาร์ทเท่ ๆ ต่อใน ซ. เจริญกรุง 32 และ 30 แวะช้อปที่ Warehouse 30 ผ่านชมบ้านขุนราชพิมาน (บ้านเลขที่ 1) เยี่ยมชมวัดแม่พระลูกประคำ (กาลหว่าร์) วัดคาทอลิกโบราณตั้งแต่สมัย ร.1 แล้วก็ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาตลาดน้อย ธนาคารพาณิชย์แห่งแรกที่คนไทยเป็นเจ้าของ คลิกติดตามต่อกันได้เลยค่ะ

“Amazing ไทยเท่” ที่เที่ยวเก๋ ๆ ใกล้ตัว อย่าลืมมาชื่นชมกันนะคะ