Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

สัมผัสเสน่ห์ของภาคเหนือในหน้าฝน ... ณ เชียงราย

Posted By Ppalmpalmm | 20 ส.ค. 61
4,596 Views

  Favorite
ภาพ : Ppalmpalmm / ดอยแม่สลอง จังหวัดเชียงราย

 

 

          จังหวัดที่เราจะพาทุกคนไปสัมผัสเสน่ห์ของภาคเหนือในหน้าฝนครั้งนี้คือที่ จังหวัดเชียงราย อย่างที่เราทราบกันดีว่า เชียงราย เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่บริเวณรอยต่อระหว่างไทย ลาว และพม่า หรือที่ได้รับการขนานนามว่า สามเหลี่ยมทองคำ ทำให้เชียงรายเป็นจังหวัดที่มีวัฒนธรรมหลากหลายชาติพันธุ์ ในรูปแบบล้านนา ไทใหญ่ ไทเขิน และไทลื้อจากสิบสองปันนามาผสมผสานกันอย่างลงตัวและถือเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของจังหวัดนี้เลยทีเดียว

 

 

ภาพ : Ppalmpalmm / รอบที่เราออกเดินทางคือเวลา 19.50 ซึ่งจะไปถึงจุดหมายเวลา 7 โมงเช้า

 

 

          สำหรับการเดินทางมายังจังหวัดเชียงราย นอกจากรถยนต์ส่วนตัวแล้วก็สามารถเดินทางได้โดยรถทัวร์ รถไฟ และเครื่องบิน แต่สำหรับทริปนี้เราขอเลือกรถทัวร์ที่จะพาเราไปสร้างความทรงจำตั้งแต่ก้าวแรกจากกรุงเทพกันเลย โดยรอบที่เราออกเดินทางคือเวลา 19.50 น. และถึงจุดหมายปลายทางที่ บขส.เก่าเชียงรายเวลาประมาณ 7 โมงเช้า

          การบริการของบริษัทสมบัติทัวร์ ชนะเลิศเลยค่ะ ภายในรถสะอาด บริการจากเจ้าหน้าที่ดี มีหน้าจอให้ดูหนัง ชาร์จแบตโทรศัพท์ และเบาะเสริมฟังก์ชั่นนวดหลังไปตลอดทาง การนั่งรถทัวร์ระยะทางไกลสำหรับเราจึงสะดวกสบายอย่างมากมายเลยทีเดียว

 

 

ภาพ : Ppalmpalmm / รถเมล์ขึ้นดอยของเรา

 

 

          เมื่อมาถึงบขส. เก่าเชียงราย สถานที่แรกที่เราจะไปคือ ดอยแม่สลอง การเดินทางก็ไม่ยุ่งยากเลยโดยจะต้องขึ้นรถเมล์สายเชียงราย - แม่สาย หรือสายเชียงราย - เชียงแสน ไปลงที่ตลาดแม่จัน ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ระหว่างทางก็นั่งชิลชมวิวที่ชุ่มฉ่ำสองข้างทาง มีทุ่งนา หมอกที่ปกคลุมภูเขา แถมยังได้สัมผัสอากาศเย็นสบายหลังฝนตกอีกด้วย บอกได้คำเดียวว่า มันชิลมาก (ก.ไก่ล้านตัว) และเมื่อมาถึงตลาดแม่จัน ก็มองหารถสองแถว สะกิ่วไต - แม่สลอง คันสีเขียวเข้ม ต่อขึ้นไปยังดอยกันเลยเจ้าาา

 

 

ภาพ : Ppalmpalmm / Finally, we found a heaven.

          

 

          ในที่สุด เราก็มาถึงดอยแม่สลอง ได้บรรยากาศหลังฝนตกสายหมอกกำลังโผล่มาให้ชื่นชมพอดี ฟินนน ... ผู้คนในหมู่บ้านส่วนใหญ่จะสื่อสารกันด้วยภาษาจีนฮ่อ และถึงแม้ว่าเราจะได้ผ่านการเรียนภาษาจีนมาสมัยประถมและม.ต้น แต่ก็ไม่สามารถสื่อสารกันได้รู้เรื่องเลยจ้า (อยากกลับไปเรียนใหม่เลยทีเดียว) ผู้คนที่นี่ใจดีมาก ๆ มีรอยยิ้มบนใบหน้าตลอดเวลาและคอยถามไถ่ช่วยเหลือนักท่องเที่ยงต่างถิ่นแบบเราตลอดทาง

 

 

ภาพ : Ppalmpalmm / ที่พักคืนแรกของเรา ณ บ้านหอมหมื่นลี้ ดอยแม่สลอง เชียงราย

 

 

          ก่อนอื่นก็ต้องเข้าที่พักเพื่อไปเก็บสัมภาระและอาบน้ำเปลี่ยนชุดกันก่อน ซึ่งที่พักคืนแรกของเราคือ บ้านหอมหมื่นลี้ ดอยแม่สลอง เชียงราย Osmamthus ที่พักราคาหลักพันแต่วิวหลักล้าน ให้คะแนน 100 เต็ม 10 ไปเลยจ้าาา วิวดี บริการเยี่ยม อาหารอร่อย ในราคาเพียง 1,500 บาทต่อหนึ่งคืน โดยห้องพักสะอาดมาก มีการตกแต่งสไตล์จีนประยุกต์ ผสมผสานไอเสน่ห์ของวัฒนธรรมจีนเข้ากับวิถีชีวิตความเรียบง่ายและเป็นธรรมชาติของดอยแม่สลองอย่างลงตัว

 

 

ภาพ : Ppalmpalmm / วิวจากที่พัก บ้านหอมหมื่นลี้ ดอยแม่สลอง เชียงราย


 

ภาพ : Ppalmpalmm / การตกแต่งสไตล์จีนประยุกต์กับธรรมชาติของดอยแม่สลอง

 

 

          หลังจากเก็บสัมภาระและอาบน้ำเปลี่ยนชุดกันเรียบร้อย ท้องมันก็ร้องจ๊อก ๆ เราเดินออกมาจากที่พักท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมาเบา ๆ และด้วยอากาศเช่นนี้เราจึงเลือกรับประทานสุกี้ไต้หวันเป็นอาหารเพิ่มพลัง และขอบอกเลยว่าอร่อยมากต้องห้ามพลาด! เป็นสุกี้ไต้หวันน้ำซุปหม่าล่า กินแล้วลิ้นก็จะชา ๆ หน่อย แต่รับรองว่ารสชาติอร่อยมาก

 

 

ภาพ : Ppalmpalmm / สุกี้ไต้หวันในวันฝนตก ฟินมากจริง ๆ


 

ภาพ : Ppalmpalmm / จิบน้ำชายามบ่าย

 

 

          ช่วงบ่ายเรามานั่งจิบน้ำชาที่ร้านกาแฟ Sweet Maesalong cafe ได้นั่งจิบน้ำชา กินขนม ดูวิวภูเขาท่ามกลางฝนตกโปรยปราย ชิลสุด ๆ ไปเลย

 

 

ภาพ : Ppalmpalmm / จิบน้ำชาและกินขนมที่ร้าน Sweet Maesalong cafe

 

 

          สำหรับอาหารเช้าของบ้านพักหอมหมื่นลี้ ดอยแม่สลอง เชียงราย เป็นบะหมี่ยูนนาน ปาท่องโก๋ ขนมปังปิ้ง น้ำเต้าหู้ ชาอู่หลงหอมหมื่นลี้ ซึ่งกลิ่นหอมมาก ๆ นี่ถือเป็น signature ของที่นี่เลยก็ว่าได้ และได้นำไปตั้งเป็นชื่อของที่พักนั่นเอง

 

 

ภาพ : Ppalmpalmm / อาหารเช้าที่บ้านพักหอมหมื่นลี้ ดอยแม่สลอง


 

ภาพ : Ppalmpalmm / ชาอู่หลงหอมหมื่นลี้

 

 

          ชาอู่หลงหอมหมื่นลี้ เป็นบริการที่มีให้ในห้องพักแต่ละห้อง โดยเราสามารถต้มน้ำร้อนจากเครื่องต้มในห้องพัก แล้วนำชาใส่เหยือกกรองชาได้เอง นั่งจิบชาเบา ๆยามเช้าที่ระเบียงห้องได้บรรยากาศสุด ๆ ไปเลย

          วันที่สอง หลังรับประทานอาหารเช้าเสร็จ เจ้าของที่พักก็ใจดีขับรถพาเรามาส่งจุดจอดรถสองแถว ระหว่างทางนั่งสองแถวลงมาจากดอย ป้าคนขับได้จอดแวะให้ไปเที่ยวที่สวนอโวคาโด ซึ่งป้าเจ้าของสวนเป็นคนภูเก็ตที่มาเที่ยวที่นี่เมื่อ10 ปีที่แล้ว และเกิดรักที่นี่จึงซื้อที่ดินแล้วทำสวนเป็นของตัวเอง

 

 

ภาพ : Ppalmpalmm / ป้าเจ้าของสวนอโวคาโด


 

ภาพ : Ppalmpalmm / อโวคาโดพันธุ์ Americana mill ลูกใหญ่มาก

 

 

          จากนั้น เราก็ได้เหมารถสองแถวคันที่นั่งลงจากดอยแม่สลอง ให้ป้าขับพาพวกเราไปสถานที่ยอดฮิตที่ถ้าไม่ไปเหมือนมาไม่ถึงจังหวัดเชียงราย นั่นก็คือ ไร่ชาฉุยฟง นั่นเอง ตอนที่เราไปอากาศค่อนข้างเย็นและชื้น เนื่องจากฝนตกโปรย ๆ อยู่ตลอด ทำให้แอบมีหมอกบาง ๆ โผล่มาทักทายพวกเราด้วย

 

 

ภาพ : Ppalmpalmm / ไร่ชาฉุยฟง


 

ภาพ : Ppalmpalmm / ได้มาไร่ชาแล้ววว ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกหน่อย

 

 

          หลังจากนั้นก็นั่งสองแถวเหมือนเดิมกลับมายังตัวเมืองเชียงราย ซึ่งจริง ๆ แล้วเราวางแพลนไว้ว่าจะขึ้นไปพักบนดอยผาตั้ง แต่เราเลยเวลาที่จะออกเดินทางไปและคิดว่าน่าจะไปดอยผาตั้งไม่ทันก่อนค่ำ (เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายจากการเดินทางขึ้นดอยในช่วงกลางคืน) เราจึงเปลี่ยนแพลนเที่ยวเล่นและพักในตัวเมืองแทน และที่พักของเราในคืนนี้คือ บ้านนอนเพลิน Baan Norn Plearn

 

 

ภาพ : Ppalmpalmm / ที่พักของเราในคืนนี้ที่ บ้านนอนเพลิน

 

 

          บ้านนอนเพลิน เป็นบ้านพักราคาหลักร้อยแต่ความแฮปปี้หลักล้าน ภายในที่พักมีสวนและร้านกาแฟ โดยที่ตั้งของบ้านนอนเพลินในอดีตเคยเป็นโรงเรียนอนุบาลเก่ามาก่อน ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ห้องพักสะอาดน่ารักและบริการเป็นกันเอง นอกจากนี้ยังมีบริการให้เช่ารถจักรยาน ฟรี! ไปปั่นเที่ยวเล่นในเมืองอีกด้วย

 

 

ภาพ : Ppalmpalmm / ภายในห้องพักของบ้านนอนเพลิน


 

ภาพ : Ppalmpalmm / สวนบริเวณที่พัก ร่มรื่นมาก


 

ภาพ : Ppalmpalmm / ร้านกาแฟบรรยากาศดีของบ้านนอนเพลิน

 

 

          และไฮไลท์เด็ดอีกอย่างหนึ่งเมื่อมาถึงเชียงรายและต้องห้ามพลาดที่จะไปเยือน นั่นก็คือ วัดร่องขุ่น นั่นเอง ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองจังหวัดเชียงรายประมาณ 13 กิโลเมตร โดยเราได้เหมารถสามล้อเวลาครึ่งวัน ในราคา 700 บาท เพื่อทัวร์วัดทั้งหมด 3 วัดด้วยกัน เริ่มต้นที่วัดร่องขุ่น

 

 

ภาพ : Ppalmpalmm / เข้าไปไหว้พระ ชื่นชมสถาปัตยกรรมกันซักหน่อย

 

 

          วัดต่อมาคือ วัดห้วยปลากั้ง เป็นอีกวัดหนึ่งของจังหวัดเชียงรายที่ตั้งอยู่บนเขา ซึ่งมีเนินเขารายล้อมวัดสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม มีเจดีย์สูง 9 ชั้น ทรงแหลม สถาปัตยกรรมแบบจีนผสมกับแบบล้านนา อีกทั้งยังมีองค์เจ้าแม่กวนอิมแกะสลักจากไม้จันทร์หอมประดิษฐานอยู่ภายในเจดีย์ด้วย

 

 

ภาพ : Ppalmpalmm / วัดห้วยปลากั้ง เชียงราย


 

ภาพ : Ppalmpalmm / เจดีย์ทรงแหลม 9 ชั้น สถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างจีน - ล้านนา

 

 

          และวัดสุดท้ายของทริปนี้คือ วัดร่องเสือเต้น ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่พระอุโบสถใหม่ที่สร้างขึ้นด้วยศิลปะแบบไทยประยุกต์ ใช้เฉดสีน้ำเงินฟ้าตัดกับสีทอง

 

 

ภาพ : Ppalmpalmm / วัดร่องเสือเต้น เชียงราย

 

 

          เป็นอย่างไรบ้างคะสำหรับเสน่ห์ของภาคเหนือในหน้าฝนที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งนอกจากจะได้สัมผัสบรรยากาศอากาศหนาวเย็นท่ามกลางฝนตกโปรยปรายแล้ว เรายังได้สัมผัสหมอกบาง ๆ บนดอยแม่สลอง ไปตะลุยไร่ชาฉุยฟง และยังได้ไปไหว้พระชื่นชมสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานวัฒนธรรมของหลายชาติพันธุ์ไว้อย่างลงตัวอีกด้วย หากผู้อ่านมีเวลาว่างช่วงวันหยุดยาว อย่าลืมคิดถึงจังหวัดเชียงรายในช่วงหน้าฝนนะคะ ^^


 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Ppalmpalmm
  • 9 Followers
  • Follow