ไขมันจัดเป็นสารอาหารจำเป็น 1 ใน 5 หมู่ที่มนุษย์ต้องการ แต่ไขมันก็มีทั้งไขมันดี (DHL) คือไขมันที่ไม่อิ่มตัวสูงเป็นส่วนประกอบสำคัญในร่างกาย ทำหน้าที่ดูดซึมและลำเลียงวิตามินที่ต้องละลายในไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น วิตามินเอ, ดี, อี และเค ให้พลังงาน ทำให้ร่างกายอบอุ่น ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและไขมันเลวในร่างกาย
อีกชนิดคือไขมันเลว (LDL) คือไขมันอิ่มตัวสูง เมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วจะไปเกาะอยู่ตามผนังหลอดเลือด และอวัยวะสำคัญต่าง ๆ ทำให้อ้วน และเป็นสาเหตุให้เกิดโรคต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคมะเร็ง นำไปสู่การเสียชีวิตก่อนวัยอันควรได้
ไขมันทรานส์ (Trans Fat) เป็นไขมันที่เกิดจากการสังเคราะห์โดยการเติมไฮโดรเจนบางส่วนลงในไขมันที่ได้จากพืช เพื่อเปลี่ยนโครงสร้างโมเลกุลของน้ำมันพืชให้อยู่ในสภาพกึ่งแข็ง คงตัวง่าย ไม่เป็นไข ไม่มีกลิ่นหืน เก็บได้นาน ทนความร้อนสูง ให้รสชาติดีเหมือนไขมันที่ได้จากสัตว์ แต่ราคาถูกกว่า เรียกว่าการไฮโดรจีเนชั่น (Hydrogenation) เช่น เนยเทียมหรือเนยขาว ครีมเทียม มาการีน เป็นต้น
ผู้ผลิตอาหารเพื่อการค้านิยมนำมาใช้เป็นส่วนประกอบหลักในการทำอาหารประเภทเบเกอรี่ ในส่วนของน้ำมันพืชที่ไม่เติมไนโตรเจนบางส่วน เช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันปาล์ม หรือน้ำมันที่ได้จากสัตว์ หากนำไปผ่านความร้อนซ้ำ ๆ หลายครั้ง จะทำให้ไอน้ำที่เกิดจากการทอดเข้าไปเกาะในเมเลกุลของน้ำมัน ทำให้เกิดไขมันทรานส์ได้เช่นกัน แม้จะมีในปริมานน้อยก็ตาม
เพราะเป็นไขมันที่เกิดจากการสังเคราะห์ จึงทำให้มีความอิ่มตัวสูง กำจัดได้ยาก เพิ่มการทำงานของตับ เป็นไขมันเลว (LDL) และความร้ายของไขมันทรานส์ นอกจากไปเกาะตามผนังหลอดเลือดและอวัยวะสำคัญภายในร่างกายจนทำให้เกิดการอุดตันได้ง่ายแล้ว ไขมันทรานส์ยังสามารถกำจัดไขมันดี (DHL) ในเส้นเลือดออกจากร่างกายได้อีกด้วย ! แถมยังทำให้อ้วนแล้ว เพิ่มจำนวนไขมันเลวในร่างกาย ก่อให้เกิดโรคอันตรายต่าง ๆ
การวิจัยยังพบว่าการกินไขมันทรานส์ ทำให้เพิ่มความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดอุดตันได้มากขึ้น ทั้งในผู้ชายและผู้หญิง นำไปสู่การเสียชีวิตก่อนวัยอันควรของประชากรทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย ผู้หญิงหากมีไขมันทรานส์มากเกินไปอาจทำให้เกิดภาวะมีบุตรยาก
เบเกอรี่ต่าง ๆ ทั้งขนมปัง พาย ขนมเค้ก คุกกี้ โดนัท ครีมเทียม อาหารทอดอย่างเฟรนช์ฟรายส์ ขนมขบเคี้ยวต่าง ๆ ป็อปคอร์น อาหารที่ผ่านการทอดด้วยน้ำมันที่ใช้ซ้ำ ๆ เช่น หมูทอด ไก่ทอดตามร้านข้างทาง อาหารที่มาในรูปแบบไขมันแปรรูปซึ่งอาจทำให้ร่างกายได้รับไขมันทรานส์มากถึง 2 เท่า
ความจริงแล้วก็ช่วยได้ในระดับหนึ่ง แต่อย่าพึ่งชะล่าใจ พอเห็นที่ซองขนมเขียนว่า Trans Fat 0 g หรือไขมันทรานส์ 0 กรัม ก็มั่นใจว่าปลอดไขมันทรานส์แน่นอน เเต่พอไล่อ่านไปเรื่อย ๆ กลับเจอคำว่า Hydrogenated ซึ่งหมายถึงมีไขมันทรานส์อยู่ในอาหาร แต่มีในปริมาณน้อยคือ 0.5 กรัม ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่พอรับได้ แต่ก็ยังคงมีไขมันทรานส์ ถึงอย่างนั้นก็คือไม่ดีต่อสุขภาพอยู่นั่นเอง และสาว ๆ ส่วนมากก็อาจเข้าใจว่า Trans Fat Free ก็คือไม่มีไขมันเลย อันนี้เข้าใจผิดนะจ๊ะ ไม่มีไขมันทรานส์ไม่ได้หมายความว่าไม่มีไขมัน บางทีอาจมีไขมันมากจนน่าตกใจ กินมาก ๆ ก็อ้วนได้เหมือนกัน ดังนั้น ก่อนเลือกซื้อขนมหรืออาหาร อย่าลืมอ่านข้อมูลโภชนาการให้ละเอียดก่อน Trans Fat Free ไม่ได้ใช่ Fat Free นะยูว์ !
สำหรับใครที่พลาดไปแล้ว ร่างกายอุดมไปด้วยไขมันเลว ก่อนที่โรคภัยจะถามหา หรือป้องกันไม่ให้อาการของโรคลุกลามจนเกินการควบคุม ก็ควรลุกขึ้นมาปฏิวัติการกินของเราใหม่ค่ะ ซึ่งตอนนี้รัฐบาลก็ช่วยเราแล้วในระดับหนึ่ง คือประกาศห้ามผลิต จำหน่าย นำเข้าอาหารที่มีไขมันทรานส์กันแล้ว ก็เบาใจไปได้บ้าง ที่เราต้องทำต่อก็คือหันมาลดการกินไขมันเลว เช่น อาหารมัน ๆ อาหารทอด ใช้น้ำมันครั้งเดียวแล้วทิ้ง หันมากินไขมันดี เช่น ไขมันจากปลา อะโวคาโด ไข่ไก่ ให้มากขึ้น เพื่อให้เข้าไปกำจัดไขมันเลวออกจากร่างกาย เน้นกินผักสดผลไม้ อาหารต้ม อาหารลวก และที่สำคัญเพิ่มการออกกำลังกายอย่างเหมาะสมเข้าไปด้วย เท่านี้นอกจากรูปร่างจะดีขึ้นแล้ว สุขภาพก็ยังแข็งแรง ปลอดภัยไร้โรคร้ายชีวิตยืนยาวขึ้นด้วยนะจะบอกให้