วิวภูเขาตลอดสองฝั่งถนน ที่รายล้อมเมืองเล็ก ๆ สุดเขตแดนตะวันตก โผล่มาต้อนรับฉันอย่างอบอุ่น เมื่อ 3 ปีก่อน "สังขละบุรี" ได้มอบความประทับใจเป็นของขวัญให้ฉัน วันนี้ฉันกลับมาอีกครั้งและนี่เป็นครั้งที่ 3 โดยต่อให้ได้มาที่เดิมอีกกี่ร้อยพันครั้ง ฉันก็ยังอยากกลับมาอยู่ดี เหมือนที่เขาบอกไว้ว่า Time change, people change, but memories don't... "มะเงยระอาว สังขละบุรี" ดีใจที่ได้เจอกันอีกนะ
การท่องเที่ยวของฉัน คือการพาตัวเองมาใช้ชีวิตในอีกวัฒนธรรมหนึ่ง ฉันจึงเลือกพักที่เกสเฮาส์ เพราะอยากสัมผัสวิถีชีวิตและได้คลุกคลีกับคนท้องถิ่น ซึ่งเป็นเกสเฮาส์เดิมที่เคยมาพักเมื่อ 3 ปีที่แล้ว บรรยากาศก็จะเป็นกันเองสุด ๆ เสมือนว่าเราได้เดินทางกลับมาเยี่ยมญาติ
เจ้าของบ้านใจดีกับฉันมาก ทุกคนจำฉันได้ พวกเขาทำให้รู้สึกว่าฉันเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว เรากินข้าวเย็นด้วยกัน เที่ยวด้วยกัน ตลอดเวลา 4 วันที่อยู่ที่นี่ ฉันได้เพื่อนเก่าของฉัน นั่นคือน้องหยูงและน้องหยาง หลานเจ้าของเกสเฮาส์ มาเป็นไกด์น้อยพาตะลุยเที่ยว ตะลุยชิม น้อง ๆ ทำให้การเดินทางของฉันเต็มไปด้วยสีสันและความสนุกสนาน
หลังใส่บาตรเสร็จก็นั่งพูดคุยกับชาวบ้านละแวกนั้น ฉันเริ่มบทสนทนากับคุณป้าชาวมอญที่ใบหน้าประทินด้วยทานาคาและแต่งกายด้วยชุดท้องถิ่นอันเป็นสัญลักษณ์ของชาวมอญ ท่านเล่าให้ฟังว่า คนมอญกับคนไทยเราก็เหมือนกัน เข้าวัดทำบุญ วิถีชีวิตเหมือนกัน เราอยู่ที่นี่ตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย เราก็คือ "คนไทย" แต่เป็นคนไทยเชื้อสายมอญ
การได้เข้าไปพูดคุย คลุกคลีกับชาวบ้าน เราเดินผ่านเขา ก็ทักทาย "มะเงยระอาว" ที่แปลว่า "สวัสดี" ในภาษามอญ เขาก็ตอบกลับมาพร้อมรอยยิ้ม "มะเงยระอาว" ฉันเชื่อแล้วว่าความรู้สึกดี ๆ ส่งต่อให้กันง่ายนิดเดียว และเชื่อมั้ยคะว่ามันทำให้ฉันมีความสุขไปทั้งวันเลย
อาหารที่สังขละบุรีมีความหลากหลายมาก ทั้งอาหารกะเหรี่ยง อาหารมอญ (ขนมจีนน้ำยาหยวก) อาหารพม่า (ขนมโดนัทพม่า) ซึ่งมีลักษณะและรูปร่างแปลกตา
เนื่องจากที่สังขละบุรีมีความหลากหลายทางวัฒนธรรม เรายังสามารถพบวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชาวมุสลิมที่อาศัยอยู่ที่นี่ ผ่านอาหารเช้าบรรยากาศชิลด์ ๆอย่างชาร้อนและโรตี
แต่อาหาร ที่ฉันประทับใจมากที่สุด คือ "หมูจุ่มพม่า" เป็นชิ้นส่วนเครื่องในหมูตุ๋นกับน้ำซุปสีแดงรสชาติเหมือนพะโล้ มีน้ำจิ้มสีแดงรสชาติหวาน โดนกันไปหลายไม้เลยทีเดียว
วันนี้สองพี่น้องเป็นไกด์กิตติมศักดิ์ ตอนเช้าพาไปหาเพื่อนชาวมอญ ซึ่งคุณยายของเพื่อนน้องหยางสอนภาษามอญให้ฉัน ฉันจึงทำหน้าที่เป็น "Miss Grand สังขละบุรี" ถ่ายวิดีโอเชิญชวนให้คนมาเที่ยวสังขละบุรีเป็นภาษามอญ
นอกจากนี้ฉันยังได้ใส่ชุดกะเหรี่ยง ถือว่าเป็นการ Blend in เข้ากับวัฒนธรรม ผู้คนที่ผ่านไปผ่านมาคงหัวเราะ เพราะฉันใส่ชุดกะเหรี่ยงแต่พูดภาษามอญ ฉันรักในความเป็นสังขละบุรี เพราะแต่ละวัฒธรรมมีเสน่ห์ที่โดดเด่นและสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข ดินแดนหลากหลายวัฒนธรรม "แผ่นดินเดียวกัน บ้านฉันบ้านเธอ"
นอกจากตะลุยกิน ตะลุยเที่ยวฝั่งมอญแล้ว สองไกด์พี่น้องยังพาฉันไปที่ลับของพวกเขา นั่นคือป่าทางลัดไปสะพานไม้ ปกติฉันเดินทางไปสะพานไม้ด้วยรถจักรยานยนต์ แต่วันนี้ได้เปิดมุมองใหม่ เดินเท้าลัดเลาะป่าลาดชันเพื่อไปที่สะพานไม้ แวะชมธรรมชาติระหว่างทางได้ความสนุกไปอีกแบบ
ไกด์ของเราคล่องแคล่วมากคงเป็นเพราะมาเล่นแถวนี้บ่อย เราเดินผ่านต้นไม้สูงใหญ่เขียวขจี พื้นดินค่อนข้างชุ่มเพราะฝนตก แต่ฉันมีความสุขทุกครั้งที่ถูกโอบกอดด้วยภูเขา ต้นไม้ ลำธาร when there are mountains, I feel home อยากขอบคุณธรรมชาติที่เป็นบ้านที่ยิ่งใหญ่ของฉัน
หมดเวลาสนุกแล้วสิ ... ถึงเวลาต้องบอกลา ไม่เคยไปเที่ยวที่ไหนแล้วไม่อยากกลับขนาดนี้มาก่อน สังขละบุรีไม่ใช่แค่อำเภอ ๆ หนึ่งแต่ที่นี่คือ "บ้าน" อีกหลังของฉันเลยก็ว่าได้ ผู้คน อาหาร ประเพณี ความเชื่อ ทุกสิ่งทุกอย่างหล่อหลอมรวมเป็นวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของสังขละบุรี ขอบคุณสังขละบุรีที่มอบความทรงจำดี ๆ ทุกครั้งที่มาเยือน … หากผู้อ่านมีโอกาสได้มาที่นี่สักครั้งหนึ่งรับรองว่าจะประทับใจอย่างไม่รู้ลืมแน่นอนค่ะ ^^