คำถาม : รู้สึกอย่างไรบ้างที่สอบได้ และคะแนนเป็นที่ 1 ของประเทศ
คำตอบ : ตอนแรกที่รู้ว่าตัวเองได้อันดับ 1 ของประเทศ ตอนนั้นยังไม่แน่ใจว่าตัวเองได้จริง ๆ หรือเปล่า เพราะตอนนั้นคะแนน GAT ปีนี้ค่อนข้างเฟ้อมากทำให้ไม่แน่ใจ แนะนำน้อง ๆ รุ่นต่อไป ตอนทำข้อสอบอย่าไปกังวลมาก อาจจะทำให้รับสับสนและทำข้อสอบผิดได้
คำถาม : คะแนนที่ได้วิชา GAT เชื่อมโยงเท่าไหร่
คำตอบ : ได้ 147 เต็ม 150 ค่ะ คือผิด 1 ข้อจะ ลบ 3 คะแนน
คำถาม : รู้ผลตอนไหน ?
คำตอบ : เพื่อนไลน์มาแสดงความยินดีที่ได้อันดับ 1 ของประเทศ
คำถาม : สมัครรอบรอบที่ 1 – 3 ไปบ้างไหม ติดแค่รอบนี้ หรือสละสิทธิ์ที่ไหนมาบ้าง
คำตอบ : ไม่ได้สมัครรอบที่ 1-3 เลย เนื่องจากไปเกณฑ์การใช้คะแนนของแต่ละรอบมา แล้วคะแนนที่ได้ก็เหมาะกับการใช้ในรอบที่ 4 มากที่สุดค่ะ โดยเลือกติวและอ่านหนังสือในวิชาที่ต้องใช้ในการสอบ
คำถาม : รู้ได้อย่างไรว่า คณะนิเทศศาสตร์ ใช่สำหรับเรา
คำตอบ : นีน่าเลือกเรียนสาย วิทย์-คณิต แต่เป็นคนชอบทำข้อสอบแบบ GAT ชอบการเชื่อมโยง ตอนแรกนีน่าก็ยังไม่แน่ใจว่านิเทศศาสตร์ใช่สำหรับเราหรือเปล่าหรือชอบอะไรอย่างอื่นอีกหรือเปล่า ก็เลยไปตามที่มหาวิทยาลัยเปิด Open House ก็เลยลองดู ก็จะมี หมอ วิศวะ ทันตะ เศรษฐศาสตร์ ก็จะลองดูให้หมดเลย และก็มีไปแข่งต่าง ๆ แต่ทำให้รู้ว่าเราไม่ถนัด นีน่าชอบนิเทศศาสตร์มากกว่า
คำถาม : 4 อันดับ เลือกอะไรบ้าง
คำตอบ : อันดับ 1 นิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. อันดับ 2 วารสารศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ อันดับ 3 นิเทศศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์
คำถาม : มีเคล็ดลับในการอ่านหนังสือสอบอย่างไร โดยเฉพาะวิชาภาษาอังกฤษ
คำตอบ : ต้องปรับความคิดของเราก่อน ว่าไม่ใช่ภาษาของเรา ลองใช่ชีวิตกับภาษาอังกฤษดูโดยการไปอ่านข่าว ลองดูเว็บไซตืที่เป็นภาษาอังกฤษ มันจะช่วยได้เยอะ , ปกตินีน่าจะชอบอ่านข่าวเป็นภาษาอังกฤษ และถ้าเจอคำถามที่เราแปลไม่ได้ก็จะเอาไปแปล และจดเป็นโน๊ตไว้ค่ะ
คำถาม : มีเคล็ดลับในการอ่านหนังสือก่อนสอบอย่างไรค่ะ
คำตอบ : เน้นเพื่อการอ่านเก็บความรู้สำหรับไปเรื่อย ๆ เมื่อพอเรารู้ว่าจะเข้านิเทศศาสตร์ ก็ไล่อ่านความรู้ตั้งแต่ ม.6 เทอม 1 เก็บมาเรื่อย ๆ แต่ใน 1 วันจะไม่อ่านแค่วิชาเดียวเพราะเดี๋ยวจะเบื่อ เมื่อเราเรียนเสร็จในหนึ่งวันก็จะทบทวนในวันนั้น
คำถาม : เด็กเก่งต้องเลือกหมอสิ ทำไมไม่เลือกหมอ คิดอย่างไรกับแนวคิดนี้
คำตอบ : เพราะคนเรามีความไม่เหมือนกัน ถ้าเราเก่งในสายอาชีพนั้นก็ถือว่าคนเก่ง เพราะคนเก่งไม่จำเป็นต้องเป็นหมอค่ะ
คำถาม : พ่อแม่สนับสนุนไหม
คำตอบ : พ่อกับแม่นีน่าเป็นหมอ แต่ก็ไม่เคยปิดกั้นว่าอยากเป็นอะไร
คำถาม : จัดอันดับยังไง มีเทคนิคอะไรเป็นพิเศษ
คำตอบ : เลือกจัดอันดับ 1 เลือกคณะที่เราอยากเข้า อันดับ 2 เลือกคณะที่คณะเรามีสิทธิ์เข้าได้. ส่วนอันดับ 3 และ 4 เลือกคณะที่เราคิดว่าติดแน่นอน แต่ต้องดูเกณฑ์แต่ละคณะด้วยค่ะ
คำถาม : ได้คะแนนเท่าไรบ้างแต่ละวิชา GAT PAT O-NET GPAX
คำตอบ : GAT 282 คะแนน , GPAX 3.85 คะแนน ,O-NET 417 คะแนน
คำถาม : แนะนำน้อง ๆ TCAS 62 หน่อย
คำตอบ : อยากให้จัดเวลาให้ดี บางคนยังไม่เริ่มอ่านหนังสือไม่เป็นไร ควรใช้เวลาที่เรามีให้คุ้มค่าที่สุด ขอให้ทุกคนดีโชคดี สู้ ๆ ปีนี้ปีเดียว
แนะนำตัวส่ง ๆ ไม่ได้ เราอยาก Present ตัวเราอย่างไรบ้าง ใส่ไปให้เต็มที่ ที่สำคัญต้องสุภาพอ่อนน้อม ยิ้มแย้มด้วยนะจ๊ะเด็ก ๆ
หากิจกรรมที่ประทับใจที่สุดมาไม่เกินห้าอย่างแล้วเล่า ให้อาจารย์ฟัง แต่อย่าลืมนะว่าในกิจกรรมนั้น ควรมีกิจกรรมที่เชื่อมโยงกับคณะด้วย ส่วนน้อง ๆ ที่ไม่ค่อยได้ทำกิจกรรม ก็อย่าเพิ่งด่วนตอบไปว่า ไม่เคยหรือไม่มี ลองนึกดี ๆ สักหนึ่งกิจกรรมที่โรงเรียนก็ได้ ให้ดูเหมือนเราก็ให้ความร่วมมือกับกิจกรรมที่โรงเรียนมอบหมายให้ทำ
ข้อดีก็บอกไปตามความจริง ส่วนข้อเสียอย่าบอกว่าไม่มี และมีข้อเสียแล้วคิดหาทางแก้ปัญหาอย่างไร
บอกถึงความ ความตั้งใจ แบบมีเหตุผลด้วย
อาจารย์เขาลองเชิงอยู่ว่าเราหาข้อมูลเกี่ยวกับคณะมามากน้อยแค่ไหน เพราะฉะนั้นก่อนมาสอบสัมภาษณ์ควรศึกษามาว่า ที่นี้เรียนอะไรบ้าง ? แล้วให้ประโยชน์อะไรกับเราบ้าง ? เป็นคำตอบที่เลิศที่สุด
มั่นใจไปเลยว่าไหว หากใจเราได้ เราจะมีแรงสู้
การเดินทางเป็นปัญหาในการมาเรียนหรือเปล่า เพราะมีรุ่นพี่ มาสาย ขาดเรียน จนไม่จบก็มีมาแล้ว
อย่าเพิ่งสติแตก หาทางออกเตรียมไว้ อย่างมีที่มาที่ไป
เราต้องตั้งคำถามที่แสดงออกถึงความตั้งใจของเรา เช่น “หากหนูไม่ติดรอบนี้ ยังมีโอกาสรอบไหนที่สามารถเข้าไปศึกษาได้อีกไหมคะ” หรืออาจจะถามอาจารย์เพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติม “หนูตั้งใจอยากเรียนคณะนี้มาก และอยากฝากตัวเป็นศิษย์ ในฐานะอาจารย์ผู้สอน มีอะไรจะแนะนำหนูไหมคะ” หรือไม่ก็เป็นคำถามที่เราสงสัยจริง ๆ แต่ก็ต้อง Make sense หน่อยนะจ๊ะ